ASTVผู้จัดการออนไลน์-- นายกรัฐมนตรีออกความคิดผิดความคาดหมายของทุกฝ่ายในวันพุธ 27 เม.ย.ศกนี้ มหาอำนาจทั่วโลกควรจะหันดาวเทียมเข้าชายแดนกัมพูชา-ไทย เพื่อจับตาดูว่าฝ่ายใดเปิดฉากยิงก่อน ฮุนเซน ระบุดังกล่าวต่อที่ประชุมใหญ่ประจำปีสมาคมสตรีเพื่อสันติภาพและการพัฒนากัมพูชา
“มหาอำนาจของโลก เช่น จีน สหรัฐฯ อินเดีย และ รัสเซีย ควรใช้ดาวเทียมของแต่ละประเทศสังเกตการณ์การต่อสู้ที่ชายแดนระหว่างกัมพูชากับไทย พวกเขาจะรู้ได้ในทันทีว่าใครยิงเปิดฉากการต่อสู้ก่อน” ฮุนเซน กล่าว
ประเทศไทยได้กล่าวหากัมพูชาเสมอมาว่าเป็นฝ่ายยิงก่อน ตนอยากจะให้สาธารณชนได้รู้ว่าทหารกัมพูชาไม่ได้รุกรานเพื่อนบ้าน “นั่นเป็นการกระทำที่โหดร้ายและเป็นพฤติกรรมของนักก่อการร้าย.. แต่คนไทยไม่ได้เลวร้ายไปทุกคน” ฮุนเซน กล่าว
ขณะเดียวกัน ผู้นำกัมพูชาเรียกร้องอีกครั้งหนึ่งให้อินโดนีเซีย ซึ่งได้รับมอบหมายจากสหประชาชาติ ให้เร่งส่งชุดรักษาสันติภาพเข้าชายแดน ซึ่งฝ่ายตนได้เตรียมพร้อมรอรับอยู่แล้วโดยจะจะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นหารือในที่ประชุมผู้นำอาเซียนสุดสัปดาห์นี้ นอกจากนั้น ยังยินดีที่จะพบหารือกับนายกรัฐมนตรีไทยเกี่ยวกับปัญหาชายแดนอีกด้วย
นรม.กัมพูชา ยังกล่าวอ้างว่า ไทยได้ตัดกระแสไฟฟ้าระหว่างเกิดการปะทะที่ชายแดน ทั้งยังขู่สำทับด้วยว่า หากมีการปิดด่านชายแดน จะไม่ให้กัมพูชาซื้อสินค้าจากไทยอีก
“ระหว่างเกิดการต่อสู้มีการตัดไฟฟ้าจากไทย” ฮุนเซน กล่าว
หลายปีมานี้ กัมพูชาได้ซื้อไฟฟ้าจากไทย ผ่านสายส่งจาก อ.อรัญประเทศ นำไปใช้ในเมืองใหญ่ ตั้งแต่ปอยเปต ศรีโสภณ เสียมราฐ จนถึงกระตะบอง กัมพูชายังซื้อไฟฟ้าอีกส่วนหนึ่งจากเวียดนาม ผ่านระบบสายส่งเข้า จ.กัมโป้ต ทางภาคใต้
การกล่าวอ้างเกี่ยวกับการตัดไฟฟ้า หรือ การขู่จะเลิกซื้อสินค้าจากไทยก็ดี มีขึ้นเพียงข้ามวันหลังจากสภาหอการค้าภาคเอกชนของไทยออกเรียกร้องรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ไม่ให้ตัดไฟที่ส่งจำหน่ายให้กัมพูชา และไม่ให้รัฐบาลปิดพรมแดน ให้แยกเรื่องความมั่นคงของประเทศออกจากการค้า
“เรามีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่จะใช้แทนสินค้าไทยอยู่แล้ว เช่น จากเวียดนาม จีน และประเทศอื่นๆ ที่เราค้าขายด้วยโดยเปิดเผย” และ “เราได้เตรียมพร้อมที่จะรับมือกับไทยอยู่แล้ว” ฮุนเซนกล่าว
ตามรายงานของสื่อในพนมเปญ ปี 2553 แม้สองฝ่ายจะยังพิพาทกันเกี่ยวกับพรมแดนก็ตาม มูลค่าการนำเข้าสินค้าจากไทยสูงกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าการนำเข้าสินค้าจากเวียดนามและจีน
ผู้นำกัมพูชา กล่าวว่า “การรุกรานกัมพูชา” ของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นเพราะต้องการการสนับสนุนจาก “กลุ่มเสื้อเหลือง” ขณะที่การเลือกตั้งใกล้เข้ามา โดยรัฐบาลฮุนเซน เชื่อตลอดมาว่า การปะทะที่ชายแดนทุกครั้งเกิดจากการเมืองภายในประเทศของไทย เกิดจากการกดดันของกลุ่มเสื้อเหลือง ที่สนับสนุนรัฐบาลนายอภิสิทธิ์
“เราเป็นประเทศเล็ก เราไม่สามารถสู้กับประเทศใหญ่กว่าเช่นไทยได้ โลกสามารถตัดสินเรื่องนี้ได้” ฮุนเซน กล่าว
การออกตอบโต้ของฮุนเซน ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการปะทะรอบใหม่ในวันศุกร์ 22 เม.ย.นี้ และยังมีขึ้น 1 วันหลังจากคณะรัฐมนตรีประกาศจะทบทวนความร่วมมือต่างๆ ระหว่างสองประเทศ
โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ออกคำแถลงฉบับหนึ่งเช้าวันพุธนี้ ระบุว่า การปะทะที่ชายแดนยังดำเนินต่อไปเป็นวันที่หก และการปะทะดำเนินมาตลอดทั้งคืนจนถึงเวลาตี 5 วันนี้ ก่อนจะเริ่มอีกครั้งหนึ่งในตอนสาย