เอเอฟพี - ทางการเวียดนามเปิดเผยตัวเลขการค้าเมื่อวันศุกร์ (22 เม.ย.) ที่ผ่านมาว่า การขาดดุลการค้าของประเทศลดลงเล็กน้อยในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2554 หลังรัฐบาลพยายามต่อสู้เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศที่มีปัญหา
สำนักงานใหญ่สถิติเวียดนาม (GSO) คาดว่า การขาดดุลในช่วงเดือน ม.ค.ถึง มี.ค.อยู่ที่ 3,030 ล้านดอลลาร์ เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2553 ที่ขาดดุล 3,430 ล้านดอลลาร์ และเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2553 มูลค่าการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้น 33.7% เป็น 19,250 ล้านดอลลาร์ ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 23.8% ที่ 22,300 ล้านดอลลาร์
สำหรับการขาดดุลการค้าของปี 2553 มีมูลค่า 12,400 ล้านดอลลาร์ และรัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าว่าอัตราการขาดดุลในปี 2554 นี้ ไม่ควรเกินกว่า 18% ของรายได้จากการส่งออก
“ทุกอย่างเป็นไปตามกำหนด และคิดว่า เราจะสามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้” นายเหวียน แถ่งห์ เบียน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า กล่าว
ข้อมูลการขาดดุลการค้านี้มีขึ้นหลังจากรัฐบาลเวียดนามได้ปรับลดค่าเงินด่ง 9.3% ในเดือน ก.พ.เพื่อลดช่องว่างทางการค้า ในขณะเดียวกัน ก็ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ที่คาดว่า สูงที่สุดในรอบ 2 ปี ที่ 13.9% โดยรัฐบาลเวียดนามระบุว่าการควบคุมราคาเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำเป็นอันดับแรก
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลกประจำกรุงฮานอย ระบุว่า การขาดดุลที่ลดลงเป็นเพียงส่วนเล็กน้อยและต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน กว่าการลดค่าเงินถึงจะส่งผลกระทบให้เห็น
การลดค่าเงินเป็นมาตรการรับมือของรัฐบาลหลังนักลงทุนวิตกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มสูง ค่าเงินผันผวน และการขาดดุลการค้า ซึ่งมาพร้อมกับอัตราการเจริญเติบโตของประเทศที่สูงขึ้น
ตลาดทุนระหว่างประเทศยินดีกับการเริ่มต้นที่ดีของเวียดนาม ขณะเดียวกัน อัตราการกู้ยืมลดลงในไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับวิธีที่รัฐบาลนำไปปฏิบัติเพื่อรักษาเสถียรภาพองตนและความพยายามเหล่านั้นจะยั่งยืนแค่ไหน
อัตราการเติบโตต่อปีของเวียดนามอยู่ที่ 6.8% ในปี 2553 ที่ผ่านมา