xs
xsm
sm
md
lg

กัมพูชา-สหรัฐฯ ถกปัญหาจ่ายคืนหนี้บาปสมัยลอนนอล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>นายโจเซฟ หยุน รองผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศฝ่ายกิจการเอเชียและแปซิฟิก สหรัฐฯ ขณะแถลงต่อคณะกรรมาธิการรัฐสภา ยืนยันไม่ให้รัฐบาลฮุนเซนชักดาบหนี้ อย่างน้อยจะต้องชำระส่วนหนึ่งจึงจะประนอมหนี้ครั้งใหม่ได้เมื่อปี 2553 ล่าสุดฝ่ายกัมพูชาและสหรัฐได้เปิดเจรจาครั้งใหม่เกี่ยวกับการประนอมหนี้ดังกล่าวอีกครั้งในวานนี้ (17 มี.ค.) </font></b>

เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ของกัมพูชา และสหรัฐฯ เปิดการเจรจาขึ้นวานนี้ (17 มี.ค.) เพื่อหาวิธีจัดการกับหนี้เก่าสมัยรัฐบาลลอนนอล ที่มีมูลค่ามากกว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

เงินกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำจากสหรัฐฯ ที่มอบให้กับรัฐบาลสมัยนายพลลอนนอล ที่ทำรัฐประหาร ซึ่งสหรัฐฯ หนุนหลังยึดอำนาจจากรัฐบาลเจ้านโรดมสีหนุ เมื่อปี 2513 ฝ่ายกัมพูชา กล่าวว่า เงินที่ได้รับมานั้นนำไปใช้ในการกำจัดระเบิดในประเทศ ที่กองทัพสหรัฐฯใช้ในการต่อสู้สมัยเขมรแดง

ในปี 2553 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ได้ยืนยันว่า “หนี้บาป” ที่ก่อขึ้นในสมัยรัฐบาลลอนนอล นั้น สหรัฐฯควรยกหนี้ทั้งหมด แต่ต่อมารัฐบาลกัมพูชาได้แสดงท่าทีอ่อนลง หลัง นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวในเดือนพฤศจิกายน ว่า รัฐบาลสหรัฐฯมีความประสงค์ที่จะเจรจาทางเลือกให้กับกัมพูชาในการจ่ายหนี้ที่ยังค้างอยู่

สถานทูตสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า การประชุมครั้งนี้ ถือเป็นก้าวแรกของการแก้ไขปัญหาหนี้ดังกล่าว โดยการเจรจามีขึ้นที่กรุงพนมเปญ ระหว่าง นายโจเซฟ หยุน รองผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศฝ่ายกิจการเอเชียและแปซิฟิก ของสหรัฐฯ กับ นายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา

นายกอย เกือง โฆษกกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา ระบุว่า นายฮอร์ นัมฮง ได้ขอให้สหรัฐฯลดอันตราดอกเบี้ยลงจาก 3% เหลือเพียง 1% และขอให้ 70% ของหนี้ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นเงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาสำหรับกัมพูชา ส่วนหนี้จำนวนที่เหลือนั้น กัมพูชาจะดำเนินการจ่ายคืนให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ

“ความต้องการที่แท้จริงของเรา คือ การยกเลิกหนี้ทั้งหมด แต่เราจำเป็นต้องหาหนทางที่เห็นชอบด้วยกันทั้งสองฝ่าย เพราะเราไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้หากเรายังยึดอยู่กับเป้าหมายเดิมของเราที่อีกฝ่ายไม่เห็นด้วย” นายกอย เกือง กล่าว

หลังการประชุมเสร็จสิ้น สถานทูตสหรัฐฯ ระบุว่า ฝ่ายสหรัฐฯหวังให้ข้อตกลงดังกล่าวบรรลุได้ในเร็วๆ นี้ และว่า ข้อตกลงครั้งนี้จะทำให้ความน่าเชื่อถือทางการเงินของกัมพูชาดีขึ้น และสามารถเข้าถึงตลาดทุนระหว่างประเทศได้
กำลังโหลดความคิดเห็น