เอเอฟพี - ธนาคารโลกเรียกร้องให้กัมพูชาหยุดไล่ทีี่ประชาชนในกรุงพนมเปญ ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นการบังคับไล่ที่ในประเทศ
"เรากังวลใจและผิดหวังอย่างมากที่ประชาชนถูกขับไล่ออกจากบ้านของพวกเขาเอง" นายโรเบิร์ต เซลลิค ประธานธนาคารโลก กล่าว
นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนระบุว่า บริษัทเอกชนที่นักการเมืองในพรรครัฐบาลเป็นเจ้าของพยายามพัฒนาที่ดินบริเวณทะเลสาบกลางกรุงพนมเปญให้เป็นที่ดินเพื่อการพัฒนาเชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นโครงการที่มีความขัดแย้งที่จะต้องไล่ผู้อยู่อาศัยบริเวณริมทะเลสาบถึง 4,000 ครอบครัว ทั้งนี้ ผู้อยู่อาศัยบริเวณริมชายฝั่งทะเลสาบบึงกากครึ่งหนึ่งย้ายออกไปแล้ว และได้รับค่าตอบแทนเพียงเล็กน้อยจากบริษัท ขณะที่ผู้อยู่อาศัยที่เหลือได้ชุมนุมประท้วงขึ้นหลายครั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมา เรียกร้องให้บริษัทและรัฐบาลให้ค่าตอบแทนที่เพียงพอ หรืออนุญาตให้พวกเขากลับเข้ามาอยู่ในบ้านเช่นเดิม
ทั้งนี้นายเซลลิคกล่าวว่า ธนาคารเสนอให้คำแนะนำด้านการเงินและด้านเทคนิคเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาในทางปฏิบัติแก่ฐบาลกัมพูชา และว่าธนาคารโลกได้ย้ำต่อรัฐบาลกัมพูชาให้ยุติการไล่ที่
กัมพูชาต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับกรณีบังคับไล่ที่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ และในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายสูรยา สุเบดี ผู้ตรวจการพิเศษสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า เขามีความเป็นห่วงอย่างมากเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิด้านที่ดิน ตามรายงานของสหประชาชาติที่เผยแพร่ออกมาเมื่อปี 2553 ระบุว่า เฉพาะในปี 2552 มีการขับไล่ที่อย่างน้อย 26 ครั้ง มีประชาชนได้รับผลกระทบประมาณ 27,000 คนทั่วประเทศ
ความขัดแย้งเกี่ยวกับที่ดินเป็นปัญหาสำคัญของประเทศนับตั้งแต่มีการยกเลิกการถือครองที่ดินในช่วงการปกครองของเขมรแดงระหว่างปี 2518-2522 ที่เอกสารทางกฎหมายหลายๆ ฉบับสูญหายไปในช่วงเวลานั้น และธนาคารโลกได้เริ่มต้นโครงการด้านสิทธิครอบครองที่ดินในกัมพูชาในปี 2545 เพื่อจัดการปัญหาดังกล่าว แต่รัฐบาลกัมพูชาได้ยกเลิกโครงการนี้ในปี 2552 โดยกล่าวว่าเป็นเรื่องยากเกินไป