รอยเตอร์ (จาการ์ตา) - รัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มอาเซียน เปิดประชุมกันในวันนี้ ในความพยายามหาข้อยุติต่อความขัดแย้งระหว่างไทย และกัมพูชา ที่กำลังสร้างความน่าสงสัยให้แก่การรวมกันเป็นประชาคมเดียวกันของกลุ่ม
สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภาคภูมิใจนักหนาต่อนโยบายไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในระหว่างสมาชิก และถูกมองมาตลอดว่า เป็นเพียงวงสนทนาที่ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรได้ ในขณะที่พยายามแก้ไขความแตกต่างในประเด็นต่างๆ ด้วยฉันทามติ
ฝ่ายไทยเสียชีวิตไป 3 ฝ่ายกัมพูชาอีก 8 เมื่อการต่อสู้รุนแรงปะทุขึ้นที่ชายแดนใกล้ปราสาทพระวิหารอายุ 900 ปี ระหว่างวันที่ 4-7 ก.พ.การปะทะกันประปรายดำเนินมาตั้งแต่นั้น
ศาลระหว่างประเทศได้ตัดสินให้ประสาทพระวิหารตกเป็นของกัมพูชา แต่ทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวอ้างสิทธิเหนือพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร โดยรอบ การเชิญหน้าเริ่มมาตั้งแต่เดือน ก.ค.2551 เมื่อองค์การยูเนสโกรับขึ้นทะเบียนปราสาทเป็นมรดกโลก และไทยคัดค้านโดยชี้ให้เห็นว่าดินแดนรอบๆ ยังไม่เคยมีการปักปันเขตแดน
สัปดาห์ที่แล้วคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UN Security Council) ได้เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายยุติการเผชิญหน้า แต่สองฝ่ายก็ยังคงอาวุธหนักไว้ตามแนวชายแดนและยังเผชิญหน้ากันต่อไป
วิกฤตการณ์ครั้งนี้มีความสำคัญสำหรับอาเซียนที่มีเป้าหมายจะรวมตัวกันเป็นประชาคมแบบเดียวกันกับสหภาพยุโรปในปี 2558 แต่แผนการนี้ถูกรบกวนด้วยความขัดแย้งเกี่ยวกับดินแดนและอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง
เริ่มแรกทีเดียวกัมพูชาเรียกร้องให้ UNSC ส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าชายแดน และเรียกร้องให้อาเซียนจัดส่งคณะสังเกตการณ์เข้าไป ส่วนไทยเรียกร้องให้แก้ปัญหาโดยการเจรจาทวิภาค และยินดีที่อาเซียนจะเข้าไปสนับสนุน
นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยให้สัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์ ไทยยินดีต้อนรับให้ผู้สังเกตการณ์จากอินโดนีเซีย (ซึ่งเป็นประธานกลุ่มอาเซียนปีนี้) ไปประจำที่ชายแดนไทย
แต่นักการทูตอินโดนีเซียที่ไม่ประสงค์ให้ระบุชื่อผู้หนึ่ง กล่าวว่า เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะมีความตกลงที่สมบูรณ์ใดๆ ออกมาจากการประชุมระหว่างอาหารมื้อเที่ยงในวันนี้
“เราไม่ต้องการให้มีการยิงปืนอีก เราทราบดีว่ามีปัญหา แต่เราจะต้องแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี-- ไม่ใช่ด้วยการยิงปืน” นักการทูต กล่าว
(ตามรายงานของสื่อในกรุงพนมเปญ นายฮอร์ นัมฮง รมว.ต่างประเทศกัมพูชา ให้สัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์ อ้างว่า กัมพูชาและไทยกำลังจะเซ็นข้อตกลงหยุดยิงถาวรกันในกรุงจาการ์ตาระหว่างการประชุมครั้งนี้-- บก.)