ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- เวียดนามยังลังเลใจที่จะเซ็นสัญญาจำหน่ายข้าวล็อตใหญ่ในต้นปี เกรงว่า ฝนฟ้าจะไม่อำนวยและเกิดการขาดแคลนในประเทศในช่วงกลางปี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญทำให้อินโดนีเซีย ผู้นำเข้ารายใหญ่อีกรายหนึ่งในช่วง 2 ปีมานี้ หันไปซื้อข้าวจากไทย
และถ้าหากรายงานของสื่อในอินโดนีเซียถูกต้อง ก็แสดงให้เห็นว่า ไทยขายข้าวผสมเมล็ดหัก 15% ในราคาเท่ากับข้าวเวียดนาม และสูงกว่าสำหรับข้าว 5%
ตามข้อมูลของสมาคมอาหารเวียดนาม (Vietnam Food Association) หรือ VietFood ช่วงปลายปี 2553 จนถึงต้นปี 2554 อินโดนีเซียซื้อข้าวจากเวียดนามทั้งหมด 1.5 ล้านตัน แต่ไม่ได้จำแนกอย่างชัดเจนว่าเป็นข้าวสำหรับโควตาปีที่แล้วเท่าไร และเป็นล็อตใหม่ที่จะนำเข้าสำหรับปีนี้เท่าไร
นายเจืองแท็งฟ่อง (Truong Thanh Phong) ประธาน VietFood ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เทยบ๋าวกีงเตเหวียดนาม (ข่าวเศรษฐกิจเวียดนาม) ระบุว่า ปัจจุบันทุกสิ่งทุกอย่างตกอยู่ในสภาวะที่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ จะเป็นการ “เสี่ยงครั้งใหญ่” หากเซ็นจำหน่ายข้าวล็อตใหญ่ในช่วงต้นปี ทั้งนี้ เป็นรายงานของสำนักข่าวซเวินจี๊ (Dan Tri)
นายฟ่อง แสดงความกังวลเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศที่เลวร้าย และภัยธรรมชาติรุนแรงที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมทั้งอุทกภัยครั้งใหญ่ในฟิลิปปินส์ ในออสเตรเลีย ในศรีลังกา ตอนเหนือของอินเดียในช่วงต้นปี ทำให้สถานการณ์น่าวิตก รวมทั้งเวียดนามยังไม่สามารถสำรวจข้าวที่เหลือเก็บสต๊อกทั้งหมดได้ ส่งผลกระทบต่อการส่งออกต้นปีด้วย
นอกจากนั้น ผู้ส่งออกกำลังเร่งส่งมอบข้าว 600,000 ตันในช่วงต้นปีนี้ ตามสัญญาซื้อขายที่เซ็นกันปลายปีที่แล้ว นายฟ่อง กล่าว
2553 เป็นปีทองของค้าและชาวนาเวียดนาม ประเทศนี้ส่งออกได้กว่า 6.2 ล้านตัน ทำเงินได้กว่า 3,000 ล้านดอลลาร์ เป็นสถิติใหม่ทั้งปริมาณและมูลค่า แต่ประธาน VietFood กล่าวว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ยากลำบาก สำหรับตลาดข้าว
ตามข้อมูลของนายฟ่อง ช่วงต้นปีนี้ VietFood ตั้งราคากลางไว้ที่ 520 ดอลลาร์ต่อตัน สำหรับข้าวหัก 5% ซึ่งเป็นข้าวคุณภาพดี และ 490 ดอลลาร์ต่อตัน สำหรับข้าวผสมเมล็ดหัก 25% ข้าวคุณภาพต่ำ และ กำหนดราคาข้าวเปลือกรับซื้อจากชาวนา กิโลกรัมละ 5,000 ด่ง (19,500/ดอลลาร์) ในฤดูต้นปีนี้ เพื่อให้ชาวนามีผลกำไร 30-40% ตามนโยบายของรัฐบาล
2
3
4
5
6
7
8
ช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.ทุกปีหลายปีมานี้ เวียดนามเซ็นสัญญาจำหน่ายข้าวปีละ 2-3 ล้านตัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออินโดนีเซีย ประเทศมุสลิมใหญ่ที่สุดในโลก ต้องกลับมานำเข้าข้าวอีกครั้งหลังจากว่างเว้นไป 2 ปี ในปี 2551 และ 2552
ช่วง 2 ปีมานี้เกิดอุทกภัยในเขตอู่ข้าวทุกปี ทั้งในสุลาเวสีและชวา กับภัยแล้งในสุมาตร ทำให้ผลิตข้าวไม่พอเลี้ยงดูประชากรกว่า 200 ล้าน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในสัปดาห์นี้ ว่า อินโดนีเซียได้ซื้อข้าวสารชนิดผสมเมล็ดหัก 5% ซึ่งเป็นข้าวคุณภาพดีจากไทยรวม 820,000 ตัน มากกว่าเป้าเดิมถึง 4 เท่าตัว
หนังสือพิมพ์จาการ์ตาโกลบ รายงานอ้างตัวเลขของผู้ค้าข้าว ว่า ข้าวไทยที่นำเข้าโดย Bulog หน่วยงานนำเข้าของรัฐ แบ่งเป็นข้าวผสมเมล็ดหัก 25% จำนวน 650,000 ตัน ข้าว 5% อีก 170,000 ตัน ราคา 490 และ 545 ดอลลาร์ต่อตัน กำหนดส่งมอบงวดแรกในเดือน ก.พ.และ งวดที่สองในเดือน มี.ค.
ผู้บริหารของ Bulog ไม่ยอมยืนยันราคาและปริมาณที่ซื้อ และไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ กับหนังสือพิมพ์ฉบับนี้เมื่อวันพุธ สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างคำพูดของผู้ค้าในกรุงจาการ์ตาว่า Bulog ยังคงเจรจากับเวียดนามและไทยต่อไป เพื่อนำเข้าให้ครบ 1.5 ล้านตัน ตามโควตาเมื่อปีที่แล้ว ที่จะต้องส่งมอบให้ครบภายในเดือน ก.พ.ศกนี้
ยังไม่ทราบโควตานำเข้าของ Bulog ในปีนี้ แต่เจ้าหน้าที่สมาคมอาหารเวียดนามให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า อินโดนีเซียกำลังเจรจาขอซื้อข้าวลอตใหม่ 400,000 ตัน แต่อาจจะมีขายให้เพียง 200,000 ตันเท่านั้น.
ฝ่ายไทยขนขาย
9
10
11