ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ขณะที่ปี 2553 การส่งออกข้าวของประเทศพุ่งขึ้นสูงสุดทั้งปริมาณและมูลค่า สมาคมอาหารเวียดนามกลับตั้งเป้าลดการส่งออกในปี 2554 โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับพื้นที่เพาะปลูกลดลง และเขตอู่ข้าวใหญ่ที่ราบปากแม่น้ำโขงได้รับผลกระทบจากภูมิอากาศที่แปรปรวน เป็นสาเหตุหลัก
สมาคมอาหารเวียดนาม (Vietnam Food Association) หรือ VietFood หน่วยงานกึ่งเอกชน ที่กำกับดูแลการส่งออกข้าวของประเทศ กล่าวว่า ยอดส่งออกปีนี้อาจจะลดลงเหลือประมาณ 6 ล้านตัน แม้ว่าตลาดโลกกำลังต้องการข้าวมากขึ้นก็ตาม
เวียดนามซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ถัดจากไทย ปีที่แล้วส่งออกข้าวทุกชนิดรวม 6.88 ล้านตัน ทำรายได้ 3,230 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากอย่างเป็นประวัติการในรอบ 10 ปี แต่เป้าส่งออกปีนี้เป็นปริมาณที่ลดลงถึง 11% ทั้งนี้ เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ (Tuoi Tre)
เวียดนามเพิ่งเซ็นสัญญาขายข้าวให้บังกลาเทศ 200,000 ตัน เป็นการประเดิมปีใหม่ ขณะที่อินโดนีเซียต้องซื้ออีก 400,000-500,000 ตัน และ ฟิลิปปินส์ลูกค้ารายใหญ่ที่สุดปีนี้ประกาศแผนการนำเข้าข้าวถึง 2.5 ล้านตัน แต่เวียดนามอาจจะมีจำหน่ายให้เพียง 1 ล้านตันเท่านั้น VietFood กล่าว
องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ FAO รายงานในปลายเดือน พ.ย.ปีที่แล้วว่า ปีนี้จะมีข้าวออกสู่ตลอดโลกน้อยลงเนื่องจากการผลิตที่ลดลงในหลายประเทศ ซึ่งทำให้ธัญญาหารชนิดอื่นๆ ล้วนมีราคาสูงขึ้น
สมาคมอาหารเวียดนาม กล่าวว่า ความต้องการข้าวในตลาดโลกปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 31 ล้านตัน จาก 29 ล้านตันเมื่อปีที่แล้ว ในขณะที่หลายประเทศวางแผนที่จะนำเข้ามากขึ้น หากเกิดภัยพิบัติและนาข้าวเสียหาย ราคาข้าวในตลาดก็อาจจะสูงขึ้นอย่างไม่ปกติอีกครั้ง