ASTVผู้จัดการออนไลน์--- ทางการลาวได้ฤกษ์ดี “11-01-11” (11 เดือน 1 ปี 2011) ทำพิธีเปิดการซื้อขายตลาดหุ้นแห่งแรกของประเทศในเช้าวันนี้ หลังจากเตรียมการมา 2 ปี และเป็นสิ่งที่ใฝ่ฝันมานานนับสิบปี เพื่อให้เป็นแหล่งระดมทุนสำหรับโครงการลงทุนต่างๆ ทั้งโดยรัฐบาล เอกชนและนักลงทุนต่างชาติ
ตามรายงานของกระทรวงแผนการและการลงทุน ลาวต้องการเงินทุนไม่ต่ำกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์สำหรับการดำเนินแผนพัฒนาต่างๆ ตลอด 10 ปีข้างหน้า
โดยใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า ตลาดหลักทรัพย์ลาว (Laos Securities Exchange) และ เปิดอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.2553 โดยถือเอาฤกษ์ “10-10-10” (วันที่ 10 เดือน 10 ปี 2010) ตลาด "LSX" ได้เริ่มการซื้อขายในวันเดียวกัน นายเคนทอง นวนทะสิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศลาวกล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี
ตลาดหลักทรัพย์กรุงโซลถือหุ้น 49% ในตลาดหลักทรัพย์ลาว รัฐบาลถือหุ้นอีก 51% โดยส่วนใหญ่ตีราคาจากมูลค่าของอาคารและที่ดิน สำนักงานเป็นอาคารทันสมัยสูง 8 ชั้น สร้างเสร็จเพื่อให้ทันใช้งานจำนวน 4 ชั้น ตั้งอยู่ย่านชานเมืองในอาณาบริเวณเดียวกันกับศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าลาวไอเท็ค
นางเวียงคำ วันสีลาลม ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารตลาดหลักทรัพย์เวียงจันทน์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ตลาดพร้อมจะให้นักลงทุนซื้อขายได้ทันทีในวันที่เปิดทำการ ระบบคอมพิวเตอร์และไอทีต่างๆ เตรียมพร้อมหมดแล้วหลังผ่านการทดสอบหลายครั้งในช่วงหลายเดือนมานี้ และ เว็บไซต์ของ LSX ก็จะเปิดใช้ได้ในวันจันทร์ที่ผ่านมา
รัฐบาลลาวได้จัดตั้งบริษัทผลิตไฟฟ้าลาวขึ้นมา และ ในกลางเดือน ธ.ค.2553 โดยแตกฝ่ายผลิตของรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาวออกไป และนำหุ้นออกจำหน่ายให้นักลงทุนคิดเป็น 25% ของหุ้นทั้งหมด ในนั้นกว่าครึ่งหนึ่งสงวนให้นักลงทุนประเภทนิติบุคคล การจำหน่ายหุ้นแล้วเสร็จในกลางเดือน ธ.ค.2553
ในเวลาไล่เลี่ยกันธนาคารการค้าต่างประเทศของรัฐบาล ซึ่งเป็นแบงก์พาณิชย์ใหญ่ที่สุดก็ได้นำหุ้น 30% ออกจำหน่ายให้แก่นักลงทุนประเภทต่างๆ ด้วยวิธีประกวดราคา มีนักลงทุนลงทะเบียนเข้าร่วมถึง 429 ราย รวมหุ้นที่นำออกจำหน่าย 20.490 หุ้น รวมมูลค่ากว่า 121,000 ล้านกีบ (กว่า 456 ล้านบาท) สื่อของทางการรายงาน
หลังจากกลายเป็นบริษัทมหาชน แบงก์การค้าต่างประเทศได้เปิดประชุมคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ในวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา หรือเพียงไม่ถึงสัปดาห์ก่อนนำเข้าซื้อขายในตลาด หนังสือพิมพ์เศรษฐกิจและสังคมกล่าว
สื่อของทางการรายงานก่อนหน้านี้ว่า บริษัทเอกชนอีก 3-45 แห่ง กำลังเตรียมเข้าจดทะเบียน เพื่อระดมทุนในปีนี้