xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามเอาฤกษ์ 2555 ลงราง “ชินกันเซน” 10 ปีปู๊นๆ เฟสแรก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#3366ff>ภาพจากจากเว็บไซต์ prime.news.info รถหัวกระสุนชินคันเซนจอดที่สถานีแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว เวียดนามได้เลือกเทคโนโลยีของญี่ปุ่น สำหรับรถไฟฟ้าหัวกระสุนระยะทาง 1,500 กม.สายเหนือ-ใต้ สัปดาห์ที่แล้วรัฐบาลขีดเส้นต้องเริ่มก่อสร้างในในอีก 2 ปีข้างหน้านี้ เพื่อเปิดใช้เฟสที่ 1 ในอีก 8 ปีถัดไป </FONT>

ASTVผู้จัดการรายวัน -- การก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายเหนือ-ใต้ จะเริ่มขึ้นในปี 2555 เพื่อเปิดใช้เฟสแรก 2 ช่วงในอีก 10 ปีข้างหน้า และเชื่อมต่อกันเข้าตลอดสายในอีก 20 ปี นับจากปีนี้เป็นต้นไป นายกรัฐมนตรีเวียดนาม สั่งการให้กระทรวง กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งศึกษาความเป็นไปได้ให้แล้วเสร็จ เพื่อนำไปชี้แจงให้กับบรรดานักลงทุน เพื่อร่วมสนับสนุนโครงการ

นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) สั่งการให้กระทรวงวางแผนและการลงทุน กระทรวงคมนาคม และ การรถไฟแห่งเวียดนาม รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ ระหว่างประชุมคณะรัฐมนตีสัปดาห์ที่แล้ว หนังสือพิมพ์เวียดนามนิวส์รายงานเมื่อวันพุธ (10 มี.ค.)

คาดว่า ในปี 2563 จะมีผู้ใช้รถไฟในการสัญจรเพิ่มขึ้นเป็น 48,000 คนต่อวัน ซึ่งจะต้องพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงรองรับการก่อสร้างระบบจึงควรถูกพิจารณาก่อนเป็นลำดับแรก เจ้าหน้าที่เวียดนาม กล่าว

ในปัจจุบันรถไฟสายเหนือ-ใต้ มีรถให้บริการ 36 ขบวน บรรทุกผู้โดยสารได้ไม่มากไปกว่า 5,400 คนต่อวัน และยิ่งไม่เพียงพอกับความต้องการในชั่วโมงเร่งด่วน หรือในวันหยุดยาว งานสำคัญต่างๆ และ ช่วงเทศกาลตรุษ

เพื่อให้รถไฟความเร็วสูงสายเหนือ-ใต้เปิดให้บริการได้ภายในปี 2563 การก่อสร้างจะต้องเริ่มในปี 2555 ทั้งนี้โดยเทียบเคียงกับงานก่อสร้างทางรถไฟในประเทศอื่นๆ และจากกำลังความสามารถของเวียดนาม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานและเงินลงทุน

เมื่อเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงจะช่วยลดเวลาการเดินทางระหว่างกรุงฮานอย ศูนย์กลางการบริหารและศูนย์กลางทางวัฒนธรรมในภาคเหนือ กับนครโฮจิมินห์ ศูนย์กลางเศรษฐกิจในภาคใต้ของประเทศ ลงเหลือเพียง 8-10 ชั่วโมง จาก 28-30 ชั่วโมงโดยทางรถไฟในปัจจุบัน

โครงการยังจะช่วยเพิ่มกระจายชุมชนเมืองไปตามเส้นทางที่แล่นผ่าน กระจายความแออัดในเมืองใหญ่ออกไป คุ้มครองสิ่งแวดล้อม และลดปัญหาการจราจรติดขัด เจ้าหน้าที่เวียดนามกล่าว

แต่โครงการรถไฟความเร็วสูงสายเหนือ-ใต้ ยังมีสิ่งท้าทายท่าสำคัญอีกจำนวนมาก เช่น งบประมาณในการลงทุน เทคโนโลยีที่ทันสมัย และทรัพยากรบุคคลที่เหมาะสม การฝึกอบรมทรัพยากรบุคคลเพื่อให้พนักงานสามารถใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย และนโยบายสนับสนุนที่ช่วยทำให้โครงการดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วด้วย

ตามแผนการที่ผู้เชี่ยวชาญเวียดนาม-ญี่ปุ่น นำเสนอนั้น รถไฟความเร็วสูงในช่วงฮานอย-วีง (Hanoi-Vinh) และญาจาง-โฮจิมินห์ (Nha Trang-Ho Chi Minh) ซึ่งเป็นช่วงต้นกับปลาย จะเปิดใช้พร้อมกันปี 2563

ส่วนช่วงกลางจากวีงถึงด่าหนัง (Danang) ที่ยาวกว่า จะแล้วเสร็จในอีก 10 ปีถัดไป คือ ปี 2573 และ เปิดเชื่อมต่อกันตลอดสาย

การเดินทางจากกรุงฮานอยไปยังเมืองหลวงของ จ.ห่าตี๋ง (Ha Tinh) จะใช้เวลา 1 ชม. 24 นาที และ 1 ชม.30 นาที จากโฮจิมินห์ไปยัง จ.แค็งฮว๊า (Khanh Hoa) จังหวัดท่องเที่ยวชายทะเลยอดนิยม

ตามมติคณะรัฐมนตรีครั้งล่าสุด การรถไฟแห่งเวียดนามจะเป็นผู้ลงทุนและหาผู้ร่วมทุนรวมเป็นมูลค่าประมาณ 1.066 ล้านล้านด่ง หรือ 55,800 ล้านดอลลาร์ (กว่า 1.89 ล้านล้านบาท)

ตามรายงานก่อนหน้านี้ เวียดนามตัดสินใจเลือกใช้รถระบบไฟฟ้าชินคันเซนของญี่ปุ่น ซึ่งรัฐบาลประเทศนี้ได้ให้คำมั่นจะสนับสนุนทั้งด้านเงินทุนและเทคโนโลยี รวมทั้งระบบรถ
กำลังโหลดความคิดเห็น