ASTVผู้จัดการรายวัน -- ลาวในฐานะประเทศผู้ผลิตทองแดงป้อนตลาดโลก ได้รับอานิสงส์จากแผ่นดินไหวใหญ่ในประเทศชิลีอย่างบังเอิญ ภัยพิบัติได้ทำให้ราคาทองแดงในตลาดโลกพุ่งพรวดขึ้นทันทีตันละกว่า 1,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางความวิตกกังวลของตลาด เนื่องจากชิลีเป็นผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่ที่สุด
ราคาซื้อขายล่วงหน้าในกรุงลอนดอนวันที่ 1 มี.ค.พุ่งขึ้นเป็น 7,550 ดอลลาร์ต่อตัน ราคาขึ้นลงอยู่รอบๆ 6,000 ต่อตัน ก่อนที่แผ่นดินไหวขนาดวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 8.8 มาตราริกเตอร์ จะสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้แก่หลายส่วนของประเทศชิลี แม้จะไม่มีรายงานว่า เหมืองทองแดงซึ่งอยู่ทางตอนเหนือได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
แต่แผ่นดินไหวทำให้เกิดคลื่นสึนามิซัดเข้ากระหน่ำเมืองและชุมชนตางๆ ที่อยู่ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก เกิดการปล้นสะดม และความโกลาหลต่างๆ ทำให้รัฐบาลต้องเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากประชาคมระหว่างประเทศ
นายริชาร์ด เทย์เลอร์ (Richard Taylor) ผู้จัดการฝ่ายสื่อสัมพันธ์ของบริษัท มินมีทัลส์ (Minmetals) เจ้าของสัมปทานเหมืองทองคำ-ทองแดงใหญ่ที่สุดของลาว ในแขวงสะหวันนะเขต กล่าวว่า ราคาที่พุ่งขึ้นนี้ไม่ได้เป็นเพราะว่าเกิดขาดแคลนในตลาดโลก แต่ความจริงยังมีทองแดงเหลือเฟือในสต๊อก แต่เหตุแผ่นดินไหวได้ทำให้เกิดความหวั่นไหวให้แก่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
นายเทย์เลอร์ กล่าวอีกว่า ราคาทองแดงในตลาดโลกมีอนาคตที่ดี เนื่องจากปัจจุบันมีเหมืองไม่กี่แห่งที่ผลิตได้ และอีกไม่กี่แห่งที่กำลังอยู่ระหว่างการสำรวจ ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก
สำหรับลาวเหมืองทอง-ทองแดงเซโปน ในเขตเมืองวีละบูลี เชื่อว่า มีปริมาณทองแดงที่สามารถผลิตได้อยู่ถึง 792,000 ตัน รัฐบาลลาวมีรายได้จากเหมืองแห่งนี้ ทั้งในรูปค่าภาคหลวง เงินปันผลจากการร่วมถือหุ้น ภาษีเงินได้และอื่นๆ
ราษฎรในท้องถิ่นก็ได้รับประโยชน์จากโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ตามสัญญากับผู้ลงทุน รวมทั้งมีกองทุนสำหรับพัฒนาอาชีพให้แก่ราษฎรตลอดอายุสัมปทานอีกด้วย
บริษัท เอ็มเอ็มจีล้านช้างมิเนอรัล จำกัด (MMG LXML) ที่กลุ่มมินมีทัลส์จากจีน เข้าถือหุ้นใหญ่ตั้งแต่เดือน มิ.ย.2552 ได้ประกาศลงทุนอีก 60.4 ล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการผลิตทองคำกับทองแดงอีกราว 20% และ อีก 4 ล้านดอลลาร์เพื่อสำรวจเพิ่มเติมในพื้นที่สัมปทาน
นับตั้งแต่เหมืองทอง-ทองแดงแห่งแรกของประเทศเปิดดำเนินการปี 2545 เป็นต้นมา รัฐบาลได้รับส่วนแบ่งรายได้รวมกว่า 430 ล้านดอลลาร์ สื่อของทางการ กล่าว
