ASTVผู้จัดการรายวัน/เอเอฟพี - รัฐบาลกัมพูชาแถลงในวันศุกร์ (5 มี.ค.) ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการปรับปรุงฐานที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มเขมรแดงให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ
คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติพระราชกฤษฎีกาย่อย “การอนุรักษ์และพัฒนา” เมืองอันลองแวง (Anlong Veng) ทางภาคเหนือ ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 30 กม.
อันลองแวงเป็นที่มั่นสุดท้ายของฝ่ายเขมรแดง ที่นำโดย โปลโป้ท (Pol Pot) ก่อนที่จะแตกแยกกันและถูกคนสนิทโค่นลงจากอำนาจในปี 2541 และ ถูกฝ่ายรัฐบาลบุกเข้ายึดพื้นที่ได้ในปีเดียวกัน
ทางการได้จับกุมตาม๊อก (Ta Mok) ผู้นำเขมรแดงคนสุดท้าย บ้านที่เคยอาศัย และเป็นกองบัญชาการของเขา ตลอดจนสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยในแต่ละปี
อันลองแวงซึ่งเป็นอำเภอหนึ่งใน จ.อุดรมีชัย (Oddor Meanchey) จะได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่เดินทางไปเยือน เพื่อทำความเข้าใจถึงระบอบเขมรแดงและผู้นำทางการเมืองคนสุดท้ายของยุคฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเป็นจุดขาย คือ บริเวณที่ฌาปนกิจศพของโปลโป้ท (หรือ “พลพต”) ซึ่งร่างไร้วิญญาณของเขาถูกเผาด้วยเศษไม้เท่าที่จะหาได้ กับยางรถยนต์ ในปี 2541 หลังจากตาม๊อค อดีตนายพลผู้บัญชาการทหารคู่ใจ ยึดอำนาจการนำ
สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ยังรวมทั้งคลังแสง บ้านพักของกลุ่มผู้นำเขมรแดงในอดีต อ่างเก็บน้ำเล็กที่สร้างจากแรงานมนุษย์ และเขตหวงห้ามที่โปลโป้ท ใช้เวลาในช่วงสุดท้ายของชีวิต หลังถูกตาม๊อคยึดอำนาจ นำขึ้นไต่สวนในข้อหาทรยศต่ออุดมการณ์ และถูกกักบริเวณจนถึงแก่กรรม
ตามรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพีรัฐบาลได้วางแผนพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้มาตั้งแต่ในปี 2543 กระทรวงการท่องเที่ยวได้เลือกพื้นที่กว่า 30 แห่ง ในอันลองแวง เพื่อเปลี่ยนให้เป็นสถานที่จัดแสดงช่วงเวลาสุดท้ายของการปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์
การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในแหล่งสร้างรายได้ให้แก่กัมพูชา รัฐบาลได้ตั้งเป้าที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ได้ 3 ล้านคนต่อปีภายในปี 2554 และในปี 2552 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางไปเยือนกว่า 2 ล้านคนเล็กน้อย