xs
xsm
sm
md
lg

เพื่อนชั่ว-นิรันดรโดนยึดทรัพย์ “ฮุนสิน” ขาสั่นระทวย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#3366ff>ภาพจากเว็บไซต์วิทยุเอเชียเสรีภาคภาษาเขมร นายพล 5 ดาวไปเยี่ยมหน่วยทหารในท้องที่ อ.รัตนาคมณฑล จ.พระตะบอง วันสาร์ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังเพื่อนชั่วนิรันดรถูกพิพากษายึดทรัพย์กว่า 46,000 ล้านบาทก่อนหน้านั้นเพียง 1 วัน คราวนี้เสงี่ยมปากสงบคำ ไม่ด่าไทย ไม่ด่าใคร แถมยังแสดงท่าทีละมุนละม่อม พร้อมจะเจรจาเพื่อแก้ปัญหาชายแดน  </FONT></bR>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - มีการตั้งข้อสังเกตว่า การเข้าไปพื้นที่ชายแดนติดกับไทยด้าน จ.พระตะบอง ที่ผ่านมาของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน ช่างแตกต่างราวหน้ามือเป็นหลังมือกับการไปเยือน จ.พระวิหาร กับ จ.อุดรมีชัย ในช่วงวันที่ 6-8 เดือนเดียวกัน คราวนี้ไม่มีเสียงก่นด่าหรือพูดถึงประเทศไทย แม้แต่คำเดียว

ไม่เพียงแต่จะไม่วิพากษ์วิจารณ์ แต่ฮุนเซนไม่ได้เอ่ยคำว่า “สยาม” หรือ “ไทย” แม้สักครั้งเดียว ระหว่างการเยือนหน่วยทหารที่ชายแดน อ.รัตนาคมณฑล (Ratanak Mondul) จ.พระตะบอง (Battambang) ในวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา

นอกจากนั้น ผู้นำกัมพูชายังแสดงความพร้อมของฝ่่ายตน และโอกาสที่จะเปิดการเจรจากับฝ่ายไทยอีกครั้งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นใน “ระดับเล็ก” หรือ “ระดับใหญ่” ซึ่งเป็นการเปลี่ยนท่าทีโดยสิ้นเชิง จากเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว ที่นายกฯ กัมพูชา สั่งหยุดการเจรจากับฝ่ายไทยในทุกระดับ เกี่ยวกับปัญหาชายแดน

ชาวเขมรที่ทำกินในต่างแดนจำนวนไม่น้อย ตั้งข้อสังเกตว่า การทำตัวเป็น “เด็กดี” ของฮุนเซนครั้งนี้ สัมพันธ์กันอย่างแยกไม่ออกกับกรณีที่ศาลอาญาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของไทยได้พิพากษาให้ยึดทรัพย์ของนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เป็นเงินกว่า 46,000 ล้านบาท

การพิพากาษาดังกล่าวมีขึ้น 1 วันก่อนผู้นำกัมพูชาจะไปชายแดนครั้งล่าสุด

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 ก.พ.2553 ระหว่างปราศรัยที่กองบัญชาการกองพลน้อยแห่งหนึ่งใน จ.พระวิหาร (Preah Vihear) ก่อนขึ้นไปเยือนปราสาทเก่าแก่สมัยคริสตศตวรรษที่ 11 ฮุนเซนเคยแสดงท่าทีต้องการที่จะรอมชอมกับประเทศไทย เพื่อพัฒนาชายแดนให้เป็นชายแดนแห่งสันติภาพกับความร่วมมือ

แต่ข้ามวันต่อมาคือวันที่ 8 ก.พ.ผู้นำกัมพูชาได้ก่นด่าและสาปแช่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทยอย่างโกรธแค้น โดยกล่าวหาว่าผู้นำของไทยไปวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่ตนเองกับภรรยา แต่งเครื่องแบบทหารไปเยี่ยมพื้นที่ชายแดน

คราวนี้ไม่มีเหตุการณ์แช่งด่า ไม่มีการส่งเสียงข้ามพรมแดนเหมือนเมื่อครั้งก่อน

“ทุกอย่างมันเป็นการเมือง คุณกำลังเล่นการเมืองกับเพื่อนบ้าน อย่าคิดว่าประชาชนไม่รู้” ชาวเขมรคนหนึ่งโพสต์ความเห็น ในข่าวที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ Everyday.kh.com เว็บไซต์ข่าวภาษาเขมรยอดนิยมของชาวเขมรในต่างแดน

ฮุนเซนประกาศที่ชายแดน จ.พระตะบอง อย่างเป็นทางการว่า การสร้างเสริมกำลังตามแนวชายแดนไทย ไม่ได้กระทำเพื่อเตรียมการทำสงครามกับเพื่อนบ้าน หากแต่เป็นการป้องกัน “การรุกรานใดๆ จากต่างประเทศ” วิทยุเอเชียเสรี (Radio Free Asia) ภาคภาษาเขมรรายงานบนเว็บไซต์ ในวันอาทิตย์ (28 ก.พ.)

ผู้นำกัมพูชาไปเยือนทหารในพื้นที่กองทัพภาคที่ 5 และประกาศว่า ทหารที่ อ.รัตนาคมณฑล มีความพร้อมดีมาก “เกินกว่าที่จะยอมรับการรุกรานใดๆ จากต่างชาติ” และ ถึงแม้ว่ากัมพูชาจะไม่รุกล้ำดินแดนของประเทศใดแม้สัก 1 มิลลิเมตร แต่ก็จะไม่ยอมให้ประเทศใดรุกรานกัมพูชาแม้สัก 1 มิลลิเมตร เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ผู้นำกัมพูชากล่าวในตอนหนึ่งว่า ถ้าหากการเจรจายังมีความเป็นไป “ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่” ตนเองก็จะไม่ละเลย และยังระบุอีกว่า การแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดก็คือ การสร้างความเข้าใจร่วมกันโดยการเจรจา และการร่วมมือไม้ร่วมมือกัน ซึ่งตนเองยังเปิดกว้างสำหรับเรื่องนี้

ผู้นำกัมพูชายังไม่ได้แสดงท่าทีหรือให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับกับการที่นักโทษชายทักษิณถูกศาลฎีกาฯ ของไทยพิพากษาให้ยึดทรัพย์

การไปเยือนชายแดนของไทยในครั้งนี้ นายกฯ กัมพูชาไม่ได้กล่าวโจมตีผู้นำของไทยเช่นที่เคยทำคราวที่แล้วเมื่อไปเยือนปราสาทพระวิหาร สถานีวิทยุอาร์เอฟเอที่ดำเนินการโดยมูลนิธิเอเชียโดยได้รับการสนับสนุนเงินงบประมาณจากรัฐสภาสหรัฐฯ กล่าว

เดือน ต.ค.2552 ก่อนจะเดินทางมาร่วมการประชุมอาเซียน+3 และ อาเชียน+6 ในประเทศไทย ฮุนเซนได้บอกกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ์ ประธานพรรคเพื่อไทยที่ไปเยือนว่า นักโทษชายทักษิณที่กำลังหลบหนีโทษจำคุก 2 ปีจากประเทศไทย เป็น “เพื่อนชั่วนิรันดร” ของตน และพร้อมที่จะจัดบ้านพักให้พำนักอยู่ในกัมพูชาถ้าหากต้องการ

ในเดือน พ.ย.2552 ฮุนเซนได้แต่งตั้งให้นักโทษชาย ให้เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล นักโทษชายเดินทางเข้ากัมพูชาถึง 2 ครั้งในเดือนเดียวกัน ท่ามกลางการต้อนรับอย่าง เอิกเกริก และ บรรดาลูกสมุนกับลิ่วล้อจากประเทศไทยจำนวนมากพากันข้ามพรมแดนไปพบ

ในเดือน ม.ค.ปีนี้ ฮุนเซนได้ตัดญาติกับรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ และประกาศจะไม่มีการเจรจาใดๆ กับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์เกี่ยวกับปัญหาชายแดน

นอกจากนั้น ผู้นำกัมพูชายังไม่สนใจที่จะทำให้ความสัมพันธ์ทางการทูตกลับคืนสู่ระดับปกติ แต่จะรอเจรจากับรัฐบาชุดใหม่ โดยเชื่อว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์จะอยู่ต่อไปได้อีกไม่นาน.
กำลังโหลดความคิดเห็น