xs
xsm
sm
md
lg

หลักฐานมัด...ชัดเจน “ฮุนเซน” ขี้ข้าเวียดนาม!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#ff0000>แผนที่ 1: แผนที่กูเกิ้ลแม็ป แสดงตำแหน่งที่ตั้งหลักเขตแดนที่ 184, 185, 186 และ 187 แสดงแนวคลองพรมแดนที่ขุดขึ้นมาในปี 2522 (ปีที่เวียดนามเข้ายึดครองกัมพูชาตั้งกลุ่มฮุนเซนขึ้นบริหารประเทศ) และ แสดงเส้นเขตแดนอันแท้จริงโดยใช้ GPS จับแนว จะเห็นว่า แม้จะยึดลำคลองเป็นเส้นเขตแดน จุดปักปันเขตแดนก็ยังล้ำเข้ามาในดินแดนเขมร แต่รัฐบาลฮุนเซนไม่เคยปริปาก ไม่เคยโวยวายเช่นกรณีชายแดนไทยด้านประสาทพระวิหาร </FONT></bR>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - นายสม รังสี ผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชาที่กำลังลี้ภัยในยุโรปมาตามคำท้าย ปล่อยหลักฐานแผนที่ทั้งในประวัติศาสตร์และแผนที่ปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่าเวียดนามมีฮุบดินแดนกัมพูชา โดยที่รัฐบาลฮุนเซนไม่ปริปากโต้แย้ง แต่ได้พยายามกลบเกลื่อนสร้างเรื่องราวอื้อฉาวที่ชายแดนไทยเพื่อเบนความสนใจของประชาชนในประเทศออกไปจากประเด็นอันล่อแหลม

ฮุนเซน เจียซิม และเฮง สัมริน สามผู้นำสูงสุดในปัจจุบันอยู่ในอำนาจติดต่อกันมาไม่ขาดระยะ นับตั้งแต่กองทัพเวียดนามขับไล่เขมรแดงกลุ่มพลพต, เอียง สารี, เคียว สมพร ที่เป็นปรปักษ์และนำเขมรแดงกลุ่มเจียซิม-เฮง สัมริน เพ็ญ สุวรรณ กับฮุนเซน ขึ้นสู่อำนาจแทนในเดือน ม.ค.2522 การมีปัญหากับเวียดนาม เป็นสิ่งที่รัฐบาลฮุนเซนพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด

วันที่ 25 ต.ค.2552 นายสม รังสี ได้เดินทางไปทอดผ้าป่าที่วัดแห่งหนึ่งติดชายแดนเวียดนาม ในท้องที่หมู่บ้านเกาะกบาลกันดาร (Koh Kbal Kandal) เขตนิคมสำโรง อ.จันเตรีย (Chantrea) จ.สวายเรียง และต่อมาได้ไปยังนาข้าวของราษฎรที่ร้องเรียนว่า เจ้าหน้าที่เวียดนามได้เข้าไปปักหลักหมุดแบ่งเขตแดนในผืนนาที่อาศัยทำกินมานานนับชั่วอายุคน

นายรังสีนำราษฎรซึ่งเป็นเจ้าของที่นาถอนหลักหมุดปักปันเขตแดนออกไปจำนวน 6 ต้น และประกาศว่าเวียดนามฮุบดินแดนกัมพูชา โดยรัฐบาลฮุนเซนทำนิ่งเฉย

นั่นเป็นช่วงที่ฮุนเซนเริ่มโหมการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะที่ประเทศไทยกำลังเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำอาเซียน+3 และอาเซียน+หก ที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

ในเวลาไล่เลี่ยกัน ฮุนเซนได้สร้างข่าวใหญ่จะนำนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เดินทางเข้าประเทศ พร้อมแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจของรัฐบาล

เพียงไม่กี่วันหลังจากนายรังสีนำราษฎรถอนหลักหมุดกำหนดเขตแดน นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ได้หารือเรื่องนี้กับนางแมนซัมอาน (Men Sam An) รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่เดินทาไปร่วมการประชุมเกี่ยวกับบทบาทสตรีในกรุงฮานอย กำชับให้รัฐบาลกัมพูชาเอาใจใส่ต่อปัญหานี้ และมิให้เกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้อีกในอนาคต
<bR><FONT color=#ff0000>ภาพที่พรรคสมรังสีระบุว่า ถ่ายวันที่ 14 ม.ค.2553 แสดงให้เห็นจุดฝังหลักหมุดเขตแดนที่ 184 ซึ่งเจ้าหน้าที่เวียดนามร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชา แอบถอนออกไปเมื่อเร็วๆ นี้ ภาพนี้หันไปทางทิศตะวันออกมองเห็นดินแดนเวียดนามอยู่เบื้องหลัง (ลูกศรสีดำ) กับ แนวลำคลองที่ขุดขึ้นเมื่อปี 2522 (ลูกศรสีม่วง) หลักหมุดนี้อยู่ลึกเข้ามาในดินแดนเขมร ซึ่งรัฐบาลฮุนเซนไม่เคยปริปาก แต่ก่นเช้าก่นเย็น ก่นไทยทุกครั้งที่มีโอกาส แม้ว่าจะไม่มีสาเหตุ.. กล่าวหาว่าไทยล้ำแดนกัมพูชา </FONT></bR>
เป็นช่วงเดียวกับที่ ฮุนเซนสร้างข่าวนักโทษชายทักษิณให้เป็นที่ฮือฮาต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะเดียวก็สั่งจับกุมทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการถอนหลักหมุดปักปันเขตแดน และ รัฐสภาที่พรรครัฐบาลกุมเสียงข้างมากได้ลงมติยกเลิกเอกสิทธิ์คุ้มครองของนายสม รังสี เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินคดี

เจ้าหน้าที่รัฐบาลฮุนเซนหลายคน รวมทั้งนายวารกิมฮอง (Var Kim Hong) รัฐมนตรีช่วยว่าการประทรวงการต่างประเทศ ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการชายแดนระดับชาติ ได้ออกให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรที่ชายแดนกัมพูชา-เวียดนาม พร้อมทั้งท้าทายให้หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านแสดงหลักฐาน ถ้าหากเวียดนามรุกล้ำฮุบดินแดนจริง

ศาล จ.สวายเรียง ได้อนุมัติหมายจับนายสม รังสี ที่เดินทางไปร่วมการประชุมระหว่างประเทศในยุโรปก่อนหน้านั้น

ทางการ จ.สวายเรียง ตั้งด่านสกัดเป็นระยะๆ ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปยังอาณาบริเวณที่มีการปักปันเขตแดนอีก แม้แต่ สส.พรรคฝ่ายค้านเองก็ไม่ได้รับอนุญาต แต่ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เวียดนามและกัมพูชา ได้ค่อยๆ ถอนหลักหมุดปกปันเขตแดนออกไปจากจุดที่ผู้นำฝ่ายค้านทักท้วง

แต่เรื่องราวที่ชายแดนด้านทิศตะวันออกได้เริ่มแพร่สะพัดออกไปจากปากสู่ปาก เว็บไซต์ข่าวของชาวเขมรในต่างแดน ได้เผยแพร่ข่าวสารนี้อย่างกว้างขวางออกไป ซึ่งทำให้เกิดกระแสความเกลียดชังรัฐบาลฮุนเซนอย่างกว้างขวางเช่นกัน
<bR><FONT color=#ff0000>ภาพที่พรรคสมรังสีระบุว่า ถ่ายวันที่ 14 ม.ค.2553 ลูกศรสีแดงแสดงจุดที่นายสมรังสี กับนางมาศศรี (Meas Srey) เจ้าของที่นาถอนหลักหมุดปักปันเขตแดนที่ 185 ออกไปเมื่อวันที่ 25 ต.ค.2552 หลักหมุดถูกนำกลับไปฝังที่เดิมอีกในวันถัดมา แต่เจ้าหน้าที่เวียดนามกับเจ้าหน้าที่เขมรได้ยอมถอนออกไปในวันที่ 16 พ.ย.2552 หลังจากเรื่องนี้รับรู้กันไปทั่ว</FONT></bR>
<bR><FONT color=#ff0000>ภาพที่พรรคสมรังสีระบุว่า ถ่ายวันที่ 14 ม.ค.2553 และหันไปทาทิศใต้ แต่เนื่องจากถูกกีดขวาง ทำให้ไม่สามารถมองเห็นหลักหมุดปักปันเขตแดนต้นที่ 186 ได้ หลักหมุดดังกล่าวอยู่ห่างจากจุดนี้ออกไปเพียงประมาณ 30 เมตร ทางตะวันตกเฉียงใต้ แต่อยู่ลึกเข้ามาในดินแดนกัมพูชานับร้อยเมตร </FONT></bR>
<bR><FONT color=#ff0000>ภาพที่พรรคสมรังสีระบุว่า ถ่ายวันที่ 14 ม.ค.2553 แสดงให้เห็นตอคอนกรีตที่ยังเหลืออยู่ หลังจากหลักหมุดปักปันเขตแดนหลักที่ 187 ซึ่งทำด้วยไม้ ถูกเจ้าหน้าที่วียดนาม-เขมรถอนออกไปจากจุดนี้ในวันที่ 16 พ.ย.2552 ลูกศรสีม่วงชี้แนวลำคลองที่ขุดขึ้นในปี 2522 ซึ่งเวียดนามยึดถือเป็นแนวพรมแดน ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่า หลักหมุดปักปันเขตแดนอยู่ลึกเข้ามาในดินแดนกัมพูชาหลายร้อยเมตร </FONT></bR>
<bR><FONT color=#ff0000>แผนที่ 3: ตำแหน่งที่ตั้งหลักเขตแดนที่ 184-187 ตามแผนที่มาตรส่วน 1:50000 ที่จัดทำขึ้นโดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ลูกศรสีดำ ชี้ไปที่เส้นพรมแดนกัมพูชา-เวียดนาม ส่วนลูกศรสีแดงชี้ที่ตั้งของหมู่บ้านเกาะกบานกันดาล (Koh Kban Kandal) ซึ่งนายสมรังสีเดินทางไปทอดกฐินที่วัด ในวันที่ 25 ต.ค.2552 ก่อนจะนำราษฎรไปถอนหลักหมุดปักปันเขตแดนชั่วคราว ออกจากนาข้าว แผนที่นี้แสดงให้เห็น หลักเขตแดนที่ล้ำเข้าไปในดินแดนเขมร แต่รัฐบาลฮุนเซนไม่เคยปริปากพูดถึง  </FONT></bR>
<bR><FONT color=#ff0000>แผนที่วาดซึ่งพรรคสมรัวสีระบุว่า ศาลจังหวัดสวายเรียงจัดทำขึ้นมาจำลองเหตุการณ์วันที่ 25 ต.ค.2552 เพื่อประกอบการดำเนินคดีผู้นำฝ่ายค้าย แต่ในขณะเดียวกันก็ได้ช่วยยืนยันว่า เวียดนามปักหลักเขตแดนลึกเข้ามาในดินแดนกัมพูชา หมายเลข 1 แสดงจุดที่ตั้งหลักหมุดเขตแดนที่ 185 (ที่นายรังสีนำราษฎรถอนออกไป) หมายเลข 3 เป็นแนวคลองพรมแดนที่ขุดขึ้นเมื่อปี 2522 ซึ่งห่างออกไป 100 เมตร และ เลข 2 เป็นที่ตั้งของวัดองรุมแด็ญ (Ang Romdenh) ที่ไปทอดกฐิน ซึ่งอยู่ห่างจากหลักเขตแดนประมาณ 400 เมตร ส่วนหมายเลข 5 แสดงนาข้าวของราษฎร  </FONT></bR>
ก่อนการฉลองครบรอบปีที่ 31 การโค่นล้มรัฐบาลเขมรแดงพลพต วันที่ 7 ม.ค.2522 ซึ่งกองทัพเวียดนามยุดครองกัมพูชาต่อมาอีก 10 ปี หลังจากนำเขมรแดงกลุ่มฮุนเซนขึ้นสู่อำนาจ ได้มีการแจกจ่ายใบปลิวต่อต้านรัฐบาลในจังหวัดต่างๆ ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่ กัมโปต (Kampot) ตะแกว (Takeo) สวายเรียง จนถึงในกรุงพนมเปญ ประณามรัฐบาลฮุนเซนเป็น “ขี้ขาดเวียดนาม” และ “สมุนรับใช้เวียดนาม”

เรื่องนี้ทำให้ฮุนเซนเดือดดาล ประกาศจับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการออกใบปลิวเถื่อน และจะจับกุมทุกคนที่กล่าวหาเป็น “ขี้ข้าเวียดนาม” เพื่อดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาท..

วันอาทิตย์ (24 ม.ค.) ที่ผ่านมานายรังสีได้นำหลักฐานจำนวนหนึ่งออกแสดงเพื่อยืนยันว่า เวียดนามได้ฮุบดินแดนกัมพูชาไปแล้วจำนวนมาก โดยที่รัฐบาลฮุนเซนไม่ปริปากพูด

ผู้นำฝ่ายค้านมีกำหนดจะให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ ทางสถานีวิทยุเอเชียเสรี และวิทยุเสียงอเมริกาภาคภาษาเขมรในวันจันทร์ที่ 25 ม.ค.นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น