ASTVผู้จัดการออนไลน์ - นายสม รังสี ผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชาที่กำลังลี้ภัยในยุโรปมาตามคำท้าย ปล่อยหลักฐานแผนที่ทั้งในประวัติศาสตร์และแผนที่ปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่าเวียดนามมีฮุบดินแดนกัมพูชา โดยที่รัฐบาลฮุนเซนไม่ปริปากโต้แย้ง แต่ได้พยายามกลบเกลื่อนสร้างเรื่องราวอื้อฉาวที่ชายแดนไทยเพื่อเบนความสนใจของประชาชนในประเทศออกไปจากประเด็นอันล่อแหลม
ฮุนเซน เจียซิม และเฮง สัมริน สามผู้นำสูงสุดในปัจจุบันอยู่ในอำนาจติดต่อกันมาไม่ขาดระยะ นับตั้งแต่กองทัพเวียดนามขับไล่เขมรแดงกลุ่มพลพต, เอียง สารี, เคียว สมพร ที่เป็นปรปักษ์และนำเขมรแดงกลุ่มเจียซิม-เฮง สัมริน เพ็ญ สุวรรณ กับฮุนเซน ขึ้นสู่อำนาจแทนในเดือน ม.ค.2522 การมีปัญหากับเวียดนาม เป็นสิ่งที่รัฐบาลฮุนเซนพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด
วันที่ 25 ต.ค.2552 นายสม รังสี ได้เดินทางไปทอดผ้าป่าที่วัดแห่งหนึ่งติดชายแดนเวียดนาม ในท้องที่หมู่บ้านเกาะกบาลกันดาร (Koh Kbal Kandal) เขตนิคมสำโรง อ.จันเตรีย (Chantrea) จ.สวายเรียง และต่อมาได้ไปยังนาข้าวของราษฎรที่ร้องเรียนว่า เจ้าหน้าที่เวียดนามได้เข้าไปปักหลักหมุดแบ่งเขตแดนในผืนนาที่อาศัยทำกินมานานนับชั่วอายุคน
นายรังสีนำราษฎรซึ่งเป็นเจ้าของที่นาถอนหลักหมุดปักปันเขตแดนออกไปจำนวน 6 ต้น และประกาศว่าเวียดนามฮุบดินแดนกัมพูชา โดยรัฐบาลฮุนเซนทำนิ่งเฉย
นั่นเป็นช่วงที่ฮุนเซนเริ่มโหมการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะที่ประเทศไทยกำลังเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำอาเซียน+3 และอาเซียน+หก ที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
ในเวลาไล่เลี่ยกัน ฮุนเซนได้สร้างข่าวใหญ่จะนำนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เดินทางเข้าประเทศ พร้อมแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจของรัฐบาล
เพียงไม่กี่วันหลังจากนายรังสีนำราษฎรถอนหลักหมุดกำหนดเขตแดน นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ได้หารือเรื่องนี้กับนางแมนซัมอาน (Men Sam An) รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่เดินทาไปร่วมการประชุมเกี่ยวกับบทบาทสตรีในกรุงฮานอย กำชับให้รัฐบาลกัมพูชาเอาใจใส่ต่อปัญหานี้ และมิให้เกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้อีกในอนาคต
เป็นช่วงเดียวกับที่ ฮุนเซนสร้างข่าวนักโทษชายทักษิณให้เป็นที่ฮือฮาต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะเดียวก็สั่งจับกุมทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการถอนหลักหมุดปักปันเขตแดน และ รัฐสภาที่พรรครัฐบาลกุมเสียงข้างมากได้ลงมติยกเลิกเอกสิทธิ์คุ้มครองของนายสม รังสี เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินคดี
เจ้าหน้าที่รัฐบาลฮุนเซนหลายคน รวมทั้งนายวารกิมฮอง (Var Kim Hong) รัฐมนตรีช่วยว่าการประทรวงการต่างประเทศ ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการชายแดนระดับชาติ ได้ออกให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรที่ชายแดนกัมพูชา-เวียดนาม พร้อมทั้งท้าทายให้หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านแสดงหลักฐาน ถ้าหากเวียดนามรุกล้ำฮุบดินแดนจริง
ศาล จ.สวายเรียง ได้อนุมัติหมายจับนายสม รังสี ที่เดินทางไปร่วมการประชุมระหว่างประเทศในยุโรปก่อนหน้านั้น
ทางการ จ.สวายเรียง ตั้งด่านสกัดเป็นระยะๆ ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปยังอาณาบริเวณที่มีการปักปันเขตแดนอีก แม้แต่ สส.พรรคฝ่ายค้านเองก็ไม่ได้รับอนุญาต แต่ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เวียดนามและกัมพูชา ได้ค่อยๆ ถอนหลักหมุดปกปันเขตแดนออกไปจากจุดที่ผู้นำฝ่ายค้านทักท้วง
แต่เรื่องราวที่ชายแดนด้านทิศตะวันออกได้เริ่มแพร่สะพัดออกไปจากปากสู่ปาก เว็บไซต์ข่าวของชาวเขมรในต่างแดน ได้เผยแพร่ข่าวสารนี้อย่างกว้างขวางออกไป ซึ่งทำให้เกิดกระแสความเกลียดชังรัฐบาลฮุนเซนอย่างกว้างขวางเช่นกัน
ก่อนการฉลองครบรอบปีที่ 31 การโค่นล้มรัฐบาลเขมรแดงพลพต วันที่ 7 ม.ค.2522 ซึ่งกองทัพเวียดนามยุดครองกัมพูชาต่อมาอีก 10 ปี หลังจากนำเขมรแดงกลุ่มฮุนเซนขึ้นสู่อำนาจ ได้มีการแจกจ่ายใบปลิวต่อต้านรัฐบาลในจังหวัดต่างๆ ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่ กัมโปต (Kampot) ตะแกว (Takeo) สวายเรียง จนถึงในกรุงพนมเปญ ประณามรัฐบาลฮุนเซนเป็น “ขี้ขาดเวียดนาม” และ “สมุนรับใช้เวียดนาม”
เรื่องนี้ทำให้ฮุนเซนเดือดดาล ประกาศจับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการออกใบปลิวเถื่อน และจะจับกุมทุกคนที่กล่าวหาเป็น “ขี้ข้าเวียดนาม” เพื่อดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาท..
วันอาทิตย์ (24 ม.ค.) ที่ผ่านมานายรังสีได้นำหลักฐานจำนวนหนึ่งออกแสดงเพื่อยืนยันว่า เวียดนามได้ฮุบดินแดนกัมพูชาไปแล้วจำนวนมาก โดยที่รัฐบาลฮุนเซนไม่ปริปากพูด
ผู้นำฝ่ายค้านมีกำหนดจะให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ ทางสถานีวิทยุเอเชียเสรี และวิทยุเสียงอเมริกาภาคภาษาเขมรในวันจันทร์ที่ 25 ม.ค.นี้