ASTVผู้จัดการออนไลน์ - พล.อ.เจีย ดาลา (Chea Dala) รองผู้บัญชาการกองทัพกัมพูชา ผู้บัญชาการสูงสุดที่รับผิดชอบชายแดนด้านปราสาทพระวิหาร ยืนยันทหารกัมพูชากับทหารไทยปะทะกันอีกครั้งหนึ่งในวันอาทิตย์ (24 ม.ค.) นี้ที่บริเวณชายแดนทางตะวันออกของปราสาทศิลปะฮินดูสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 11
การปะทะครั้งใหม่ยังมีขึ้นในขณะที่ พรรคฝ่ายค้านที่นำโดยนายสม รังสี นำหลักฐานชิ้นสำคัญออกแสดง โดยยืนยันว่ากัมพูชาภายใต้รัฐบาลฮุนเซน ได้สูญเสียดินแดนให้แก่เวียดนามเป็นเนื้อที่หลายสิบตารางกิโลเมตร ตามแนวชายแดนติดกับประเทศนั้น
แต่รองผู้บัญชาการกองทัพกัมพูชากล่าวหาว่า ทหารไทยล้ำแดนกัมพูชาเข้าไปราว 200 เมตร ในเขตช่องเขาแห่งหนึ่งห่างจากปราสาทไปประมาณ 20 กิโลเมตร และ การปะทะกินเวลาสั้นๆ ประมาณ 5 นาที ฝ่ายกัมพูชาไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
พล.อ.ดาลา กล่าวว่า ทหารกัมพูชาเผชิญหน้ากับทหารไทยในจุดที่เกิดเหตุ ฝ่ายไทยเปิดฉากยิงก่อน ทำให้ฝ่ายกัมพูชาต้องยิงโต้ตอบเพื่อป้องกันตัว
“เราได้บอกพวกเขาไปแล้วว่าอย่าล้ำแดน กัมพูชาไม่ปรารถนาดินแดนของใคร แต่ถ้าหากใครล้ำแดนของเราก็จะได้รับสิ่งนี้” พล.อ.ดาลา กล่าวกับหนังสือพิมพ์ดืมอัมปึล ระหว่างไปตรวจเยี่ยมสถานการณ์
การปะทะครั้งล่าสุดนี้มีขึ้นในขณะที่พรรคสมรังสี ได้เปิดเผยหลักฐานสำคัญ ที่แสดงให้เห็นว่าเวียดนามได้ปักหลักเขตแดนลึกเข้าไปในดินแดนกัมพูชา ตั้งแต่ระยะทางไม่กี่ร้อยเมตรจนไกลเข้าไปนับกิโลเมตร 100 เมตร ที่ชายแดน อ.จันเตรีย (Chan Trea) จ.สวายเรียง อันเป็นประเด็นขัดแย้งสำคัญที่ชายแดนกัมพูชา-เวียดนาม ซึ่งรัฐบาลฮุนเซนได้พยายามปิดบังความจริงมาโดยตลอด
หลักฐานสำคัญที่นายรังสีนำออกเผยแพร่ในวันอาทิตย์นี้ ประกอบด้วยแผนที่อินโดจีนฝรั่งเศส ที่ฝรั่งเศสจัดทำขึ้นเมื่อกว่า 100 ปีก่อน แผนที่ที่สหรัฐฯ จัดทำขึ้นใหม่ และแผนที่สมัยใหม่ที่ใช้ภาพถ่ายดาวเทียมกับระบบ GPS ที่มีความเที่ยงตรงสูง ทั้งหมดล้วนชี้ชัดให้เห็นว่า ภายใต้รัฐบาลฮุนเซนกัมพูชาได้สูญเสียดินแดนให้แก่เวียดนามหลายตารางกิโลเมตร
พึงสังเกตว่า การปะทะครั้งล่าสุดนี้ นายฮอร์นัมฮอง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาได้ไปปรากฏตัวที่ชายแดนใกล้ปราสาทพระวิหารด้วย อันเป็นสิ่งที่รัฐมนตรีต่างประเทศไม่เคยกระทำในการปะทะสองครั้งก่อนหน้านี้
ในภาพข่าวของเอเอฟพี นายฮองกำลังรับฟังการบรรยายสรุป จาก พล.ต.สเรย์เดิ๊ก ผู้บัญชาการกองกำลังทหารที่รับผิดชอบเขตชายแดนด้านเขาพระวิหาร และ เยี่ยมเยือนทหารที่ประจำการในอาณาบริเวณดังกล่าว
ในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย.ปีที่แล้ว นายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน ได้ก่อการวิวาทกับด้วยวาจาไทยในหลายโอกาส รวมทั้งการนำนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เดินทางเข้าแระเทศ ซึ่งชาวกัมพูชาพลัดถิ่น รวมทั้งผู้นำฝ่ายค้านเองมีความเห็นว่า เป็นความพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของชาวเขมรและประชามติโลกไปจากชายแดนด้านเวียดนาม
ในเดือน ต.ค. ผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชาได้นำราษฎรท้องถิ่นที่ชายแดน ในท้องถิ่นถอนหลักหมุดเขตแดนใน 6 จุด ที่เจ้าหน้าที่เวียดนามปักในนาข้าวของราษฎร เตรียมจัดทำหลักเขตแดนถาวรต่อไป
ทางการจังหวัดได้จับกุมราษฎรไปหลายคน และศาลได้ออกหมายจับผู้นำฝ่ายค้านเพื่อดำเนินคดีข้อหา “ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ” และอื่นๆ ทำให้นายรังสีไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ในขณะนี้
การนำเอาหลักฐานสำคัญต่างๆ ออกเปิดเผยให้เห็นว่าเวียดนามรุกล้ำแดนของกัมพูชานั้น นับเป็นเรื่องใหม่ที่อาจจะสร้างปัญหาให้แก่กลุ่มผู้นำปัจจุบัน ที่เวียดนามนำขึ้นสู่อำนาจในปี 2522 หลังจากกองทัพเวียดนามขับไล่รัฐบาลเขมรแดงพ้นจากกรุงพนมเปญ