ASTVผู้จัดการออนไลน์ - หนังสือพิมพ์ดิเอจ (The Age) ยักษ์ใหญ่แห่งออสเตรเลียรายงานในฉบับวันอาทิตย์ที่ 19 เม.ย.ชี้ชัดว่า นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เคยนั่งเครื่องบินส่วนตัวเข้ากัมพูชา กับอีกบางประเทศ และดินแดนรวมทั้งออสเตรเลียด้วย แต่หลังจากถูกยกเลิกหนังสือเดินทาง นักโทษที่กำลังหลบหนีหัวซุกหัวซุนขณะนี้มีแหล่งที่จะหลบซ่อนน้อยลงทุกที
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้กล่าวอีกว่า ขณะที่ นช.ทักษิณกำลังรอนแรมไปทั่วโลกเพื่อปลุกปั่นให้กลุ่มผู้ประท้วงคนเสื้อแดงก่อการรบกวนการประชุมผู้นำกลุ่มอาเซียนที่เมืองพัทยา และต่อมาก่อจลาจลขึ้นในกรุงเทพฯ โดยผ่านวิดีทัศน์ทางไกลนั้น ตำรวจสากลก็กำลังออกตามล่าตัว เตรียมออกหมายจับ (ไปทั่วโลก) เช่นเดียวกัน ซึ่งความเคลื่อนไหวเหล่านี้มีขึ้นขณะที่รัฐบาลไทยประกาศยกเลิกหนังสือเดินทางทุกชนิด
รัฐบาลไทยได้ออกหมายจับ นช.ทักษิณ ในวันอังคาร (14 เม.ย.) ฐานเป็นผู้ปลุกปั่นยุงยงให้ฝูงชนกระทำผิดกฎหมาย วันถัดมารัฐบาลนิการากัวก็ประกาศว่าได้ออกหนังสือเดินทางให้แก่นักโทษหลบหนีอาญาแผ่นดินชาวไทยตั้งแต่เดือน ม.ค.ปีนี้ และยังได้แต่งตั้งให้เป็น “ทูตเพื่อภารกิจพิเศษ” เพื่อนำการลงทุนเข้าสู่ประเทศ
นช.ทักษิณได้หลบหนีคดีและเดินทางไปยังหลายประเทศกับดินแดนต่างๆ ด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ซึ่งรวมทั้งออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง ดูไบ และกัมพูชาด้วย และได้ให้สัมภาษณ์จากประเทศและดินแดนต่างๆ เหล่านี้โหมกระพือความขัดแย้งที่ได้ทำให้เกิดการแตกแยกขึ้นในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2549
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้อ้างคำพูดของโฆษกสถานทูตออสเตรเลีย (ประจำประเทศไทย) คนหนึ่งที่ระบุว่า “เป็นที่เข้าใจกันว่าได้มีการออกหมายจับทักษิณ” แต่ก็ไม่ได้ให้ความเห็นอะไรนอกจากนั้น รวมทั้งไม่ยอมให้ความเห็นเกี่ยวกับระบบยุติธรรมในประเทศไทย และไม่ตอบคำถามที่ว่าออสเตรเลียจะอนุญาตหรือไม่ ถ้าหากได้รับการร้องขอเพื่อเดินทางเข้าออสเตรเลียอีกในอนาคต
หนังสือพิมพ์ดิเอจ รายงานเรื่องนี้โดยไม่ได้อ้างแหล่งที่มาของข่าวสาร ตลอดจนห้วงเวลาที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเดินทางของ นช.ทักษิณ แต่ก็ได้ระบุว่าอีกไม่นานทักษิณก็จะไม่มีที่หลบซ่อน รัฐบาลไทยได้แจ้งให้ตำรวจสากลจับกุมทันทีหากพบแหล่งกบดาน
รัฐบาลไทยยังได้ขอร้องไปยังรัฐบาลจีนเกี่ยวกับการส่งผู้ร้ายข้ามแดน และกำลังเจรจาเพื่อการเดียวกันนี้กับทางการปกครองเขตพิเศษฮ่องกงกับนครรัฐดูไบ ที่เชื่อกันว่า นช.ทักษิณ ใช้เป็นแหล่งหลบซ่อน จึงอาจจะเป็นเพียงแค่เงื่อนเวลาเท่านั้น ก่อนที่เขาจะได้เดินทางกลับบ้านเพื่อเผชิญกับทุกสิ่งทุกอย่าง ดิเอจกล่าว
หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงเสื้อแดงได้บุกเข้าก่อกวนการประชุมผู้นำอาเซียนที่เมืองพัทยาจนกระทั่งไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้นั้น ทางการกัมพูชาได้ออกปฏิเสธอีกครั้งหนึ่งว่า นช.ทักษิณไม่ได้อยู่ในดินแดนกัมพูชาช่วงที่ผ่านมา
แต่ ชอว์น คริสพิน (Shawn Crispin) นักวิเคราะห์ของหนังสือพิมพ์ลอสแองเจลิสไทมส์ในสหรัฐฯ ได้ออกบทเขียนในฉบับวันอังคารสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่า “ได้มีการส่งอาวุธผ่านกัมพูชาตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไปให้กลุ่มผู้สนับสนุนทักษิณในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ดินแดนที่มวลชนรากหญ้าเคลื่อนไหวเข้มแข็งที่สุด”
นักวิเคราะห์ผู้นี้ไม่ได้อ้างแหล่งที่มาของข่าวสารเช่นกัน
ที่ผ่านมากัมพูชาได้รับความสนใจจากสื่อและนักวิเคราะห์มากที่สุด ในฐานะอาจจะเป็นแหล่งหลบซ่อนของ นช.ทักษิณ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกให้สัมภาษณ์ก่อนหน้าที่จะเกิดการจลาจลที่พัทยาและในกรุงเทพฯ ว่ามีผู้พบเห็น นช.ทักษิณในกรุงพนมเปญ ซึ่งในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ทางการประเทศนี้ได้ออกปฏิเสธ
ต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา พรรคการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาได้ยื่นกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีสมเด็จฯ ฮุนเซน ให้แถลงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข่าวลือที่ว่า นช.ทักษิณ ได้เดินทางเข้ากัมพูชา สมเด็จฯ ฮุนเซนได้ระบุในหนังสือตอบกระทู้ที่พรรคสมรังสีนำออกเผยแพร่ในอีกหนึ่งเดือนถัดมาระบุว่า อดีตนายกรัฐมนตรีไทยเดินทางเข้ากัมพูชาจริงเมื่อปี 2551 แต่ก็ไม่ได้กลับที่นั่นอีก “เมื่อเร็วๆ นี้”
สมเด็จฯ ฮุนเซนไม่ตอบอีกคำถามหนึ่งที่ว่า รัฐบาลจะอนุญาตให้ นช.ทักษิณ เดินทางเข้าประเทศอีกหรือไม่หากได้รับการร้องขอ
พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เดินทางกลับไทยหลังจากคณะทหารได้ทำรัฐประหารยึดอำนาจในวันที่ 19 ก.ย.2549 และได้ใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างในการโจมตีรัฐบาลที่ตั้งขึ้นใหม่ รวมทั้งโจมตีหน่วยงานปราบปรามการทุจริตต่างๆ ที่ตั้งขึ้นมาช่วงนี้ กล่าวหาว่าเป็นความประสงค์ที่จะเล่นงานตนอย่างไม่เป็นธรรม
ในยามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ หมดอำนาจทางการเมือง สมเด็จฯ ฮุนเซน ยังคงออกให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า ได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์ ไถ่ถามทุกข์สุขอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยตลอดเวลา และ พร้อมที่ให้การต้อนรับในฐานะเพื่อนเก่า ถ้าหากขอเดินทางเข้ากัมพูชา
พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับประเทศไทยในเดือน ก.พ.2551 หรือ เพียงไม่นานหลังจากนายสมัคร สุนทรเวช เข้าจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่จากพรรคการเมืองเดิมที่เคยสนับสนุน และ ต่อมาวันที่ 5 เม.ย. ก็ได้เดินทางไปเยือนกัมพูชาเป็นการส่วนตัว โดยได้รับการต้อนรับจากสมเด็จฯ ฮุนเซน ที่เมืองเสียมราฐ "ในฐานะเพื่อนเก่า"
ในวันที่ 6 เม.ย.2551 พ.ต.ท.ทักษิณ ได้นำทีมผู้ใกล้ชิดเล่นกอล์ฟกับสมเด็จฯ ฮุนเซนกับผู้นำระดับสูงของกัมพูชาอีกหลายคน ในบรรยากาศที่สนิทสนมเป็นกันเอง อันเป็นเหตุที่ทำให้หลายฝ่ายเคลือบแคลงใจมาตลอดว่า ที่นั่นอาจจะเป็นที่หลบซ่อนแก่อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ในเวลาต่อมาได้เป็นนักโทษหลบหนีคดีคอร์รัปชั่น
ในช่วงเดือนต้นปี 2552 นี้ผู้ใกล้ชิดหลายคนของ นช.ทักษิณ ได้เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแผนการที่จะเดินทางไปพบอดีตผู้นำของพวกเขาใน จ.เกาะกง (Koh Kong) ของกัมพูชา ซึ่งทำให้บรรดาผู้ที่ต่อต้าน นช.ทักษิณจับตาประเทศนี้อย่างใกล้ชิด