เวียดนามเน็ต - กระทรวงเกษตรฯ เวียดนามตั้งเป้าที่จะจัดหาน้ำสะอาดให้กับประชาชนประมาณ 85% ของจำนวนประชากรในประเทศภายในปี 2553 นี้ แต่ทางการยังเป็นห่วงถึงการที่ประเทศต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนน้ำหากรัฐบาลไม่เร่งดำเนินการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ
สิ่งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำแดง ลำน้ำสายหลักในภาคเหนือของประเทศลดลงระดับต่ำสุดในรอบกว่า 100 ปี
กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทกล่าวว่า จะพยายามทำให้บ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ชนบทประมาณ 70% มีห้องน้ำที่ถูกสุขอนามัย และเกษตรกรเลี้ยงสัตว์กว่า 70% ต้องมีสถานที่เพาะพันธุ์สัตว์ที่ถูกสุขอนามัยภายในปีนี้ รวมถึงโรงเรียนโรงพยาบาล ตลาดและสถานที่สาธารณะอื่นๆ ในพื้นที่ชนบท ตามแผนของกระทรวงที่มีขึ้น
ในปี 2552 ที่ผ่านมา มีเพียงประมาณ 79% ของครัวเรือนราษฎรชาวเวียดนาม ที่สามารถเข้าถึงน้ำสะอาดได้ ในนั้นมีเพียง 59% ที่มีห้องน้ำสะอาดใช้ และ 75% ของโรงเรียนทั้งหมดมีน้ำสะอาดและห้องน้ำที่เหมาะสม ทั้งนี้เป็นตัวเลขของกระทรวงดังกล่าว
กระทรวงนี้กล่าวอีกว่า ได้เร่งสั่งการไปยังบริษัทเอกชนเพื่อสร้างโรงเก็บน้ำและวางท่อประปาส่งไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั้งหมด แต่รองนายกรัฐมนตรี นายฮว่างจุงหาย (Hoang Trung Hai) กล่าวว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่การเข้าถึงน้ำ แต่เป็นเพราะแหล่งน้ำลดน้อยลง
"เวียดนามกำลังขาดแคลนน้ำ" นายหายกล่าวในระหว่างการประชุมที่จัดขึ้นในกรุงฮานอยในประเด็นเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำและการพัฒนาอย่างยั่งยืนในสัปดาห์ที่ผ่านมา
รองนายกรัฐมนตรียังได้อ้างถึงการทำให้ประเทศกลายเป็นประเทศอุตสาหกรรม ความทันสมัย การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ล้วนเป็นสาเหตุของการขาดแคลนน้ำ ซึ่งทำให้การปกป้องทรัพยากรน้ำกลายเป็น "ภารกิจที่สำคัญมากสำหรับประเทศเวียดนาม"
นายเหวียนถายลาย (Nguyen Thai Lai) รมช.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่ากระรวงฯ ได้สอบถามไปยังรัฐบาลในการเสาะหาการสนับสนุนจากภาคเอกชนในประเทศและหุ้นส่วนต่างชาติในการพัฒนาแหล่งน้ำ
ชาวเวียดนาม 1 คนใช้น้ำโดยเฉลี่ยที่ 11,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี ซึ่งอยู่ในอัตราเฉลี่ยทั่วโลก แต่ปริมาณน้ำที่ระบุไว้นั้นประมาณ 85% จะมีสำรองอยู่ในระหว่างฤดูฝนและประชาชนจะได้รับน้ำเพียงเล็กน้อยในช่วงฤดูแล้ง
ผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยการเหมืองแร่และธรณีวิทยากรุงฮานอยได้พบว่า แหล่งน้ำใต้ดินหรือน้ำบาดาลนั้นลดลงอย่างมากทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ซึ่งเกิดขึ้นไปทั่วทั้งประเทศ
"เราจะเผชิญกับภาวะขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรงในช่วงระยะเวลาสั้นๆ หากเรามีมาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อปกป้องแหล่งน้ำอย่างแท้จริง" นายลายกล่าว
ขณะเดียวกันระดับน้ำในแม่น้ำแดงยังคงลดระดับอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เข้าสู่เดือน พ.ย.ปีที่แล้วเป็นต้นมา ระดับน้ำลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 107 ปี
นายดั่มฮว่าบี่ง (Dam Hoa Binh) รองอธิบดีกรมชลประทานภายใต้การดูแลของกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า ความแห้งแล้งอาจจะขยายเป็นวงกว้างและนานต่อไปอีกระยะในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศ เนื่องจากเขื่อนและอ่างเก็บน้ำต่างๆ ในจีนและเวียดนามต้องสำรองน้ำไว้หลังจากฤดูฝนในภาคเหนือของเวียดนามสิ้นสุดไป.