ทางการยังเงียบ ตำรวจเวียดนามปะทะชาวคาทอลิกอีก

<bR><FONT color=#3366ff>ภาพแฟ้มรอยเตอร์วันที่ 13 มิ.ย.2552 นักบวชคาทอลิคกำลังทำพิธียูคาริส รำลึกถึงเหตุการ์ ยูคาริส รำลึกถึงเหตุการณ์ อาหารมื้อสุดท้าย หรือ The Last Supper ภายในบริเวณโบสถ์บ๋าวเดิบ ราว 120 กม.ทางใต้กรุงฮานอยถึงแม้รัฐบาลกลางจะยืนยันสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนา แต่กรณีพิพาทระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นกับประชาคมชาวคาทอลิคยังเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ในหลายพื้นที่ </FONT></bR>

เอเอฟพี - ชาวเวียดนามผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกหลายคนได้รับบาดเจ็บจากแก๊สน้ำตาและเครื่งอจี้ไฟฟ้าในเหตุการณ์ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พระรูปหนึ่งเปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันพฤหัส (7 ม.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งผู้สื่อข่าวจากเอเอฟพีก็ถูกตำรวจกั้นไม่ให้เข้าไปทำข่าวได้จากในบริเวณที่เกิดเหตุเช่นกัน

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าของวันพุธ (6 ม.ค.) ในบริเวณเขตศาสนา ใน อ.หมีดึก (My Duch) ห่างจากใจกลางกรุงฮานอยประมาณ 70 กม. เมื่อกลุ่มผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกได้พยายามที่จะหยุดกองกำลังตำรวจและทหารจำนวนมากไม่ให้เข้าไปรื้อถอนไม้กางเขนที่อยู่บนยอดเขา

"นี่เป็นคำสั่งพิเศษ" ตำรวจนอกเครื่องแบบตรวจคนเข้าเมืองกล่าว เมื่อผู้สื่อข่าวจากเอเอฟพีพยายามจะเข้าไปในถนนที่นำไปสู่พื้นที่เกิดเหตุด่งเจียม (Dong Chiem) ซึ่งตำรวจนอกเครื่องแบบกล่าวว่า พื้นที่ขัดแย้งที่เกิดเหตุนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้ประชาชนเข้าไปเพื่อความปลอดภัยของตนเอง

พระรูปเดิมได้อ้างคำบอกเล่าของบรรดาผู้นับถือศาสนาว่า ตำรวจได้ใช้เครื่องจี้ไฟฟ้า แก๊สน้ำตา และก้อนหินกับฝูงชน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ซึ่งนำตัวส่งไปรักษาที่กรุงฮานอยแล้ว นอกจากนั้นยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4-5 รายด้วย

เหตุการณ์ปะทะกันครั้งนี้ ซึ่งบอกเล่าโดยพระที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ นับเป็นเหตุการณ์รุนแรงอีกครั้งหนึ่งระหว่างรัฐและโบสถ์ในกรณีความขัดแย้งเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินที่ดินที่ยืดเยื้อมาอย่างยาวนาน
<bR><FONT color=#3366ff>ภาพแฟ้มรอยเตอร์วันที่ 13 มิ.ย.2552 หญิงสาวชาวคาทอลิคเข้าร่วมพิธียูคาริส รำลึกถึงเหตุการณ์ อาหารมื้อสุดท้าย หรือ The Last Supper ภายในบริเวณโบสถ์บ๋าวเดิบ ราว 120 กม.ทางใต้กรุงฮานอย ถึงแม้รัฐบาลกลางจะยืนยันสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนา แต่กรณีพิพาทระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นกับประชาคมชาวคาทอลิคยังเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ในหลายพื้นที่ </FONT></bR>

<bR><FONT color=#3366ff>ภาพแฟ้มรอยเตอร์วันที่ 13 มิ.ย.2552 หญิงสาวชาวคาทอลิคเข้าร่วมพิธียูคาริส รำลึกถึงเหตุการณ์ อาหารมื้อสุดท้าย หรือ The Last Supper ภายในบริเวณโบสถ์บ๋าวเดิบ ราว 120 กม.ทางใต้กรุงฮานอย ถึงแม้รัฐบาลกลางจะยืนยันสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนา แต่กรณีพิพาทระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นกับประชาคมชาวคาทอลิคยังเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ในหลายพื้นที่ </FONT></bR>

นับตั้งแต่รับบาลคอมมิวนิสต์เข้าปกครองพื้นที่เวียดนามเหนือ เจ้าหน้าที่ได้เริ่มเข้ายึดทรัพย์สินที่ดินของโบสถ์ รวมทั้งอาคารสิ่งก่อสร้างและพื้นที่เกษตรหลายแห่ง ในเดือนธ.ค. 2550 ชาวคาทอลิกเวียดนามได้เริ่มต้นประท้วงขึ้นหลายครั้งเพื่อเรียกร้องที่ดินที่ถูกยึดไปกลับคืน

พระรูปเดิมได้อ้างคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ระบุว่า ไม้กางเขนที่สร้างขึ้นบนยอดเขานั้นกระทำโดยไม่ได้รับการอนุญาต โดยผู้นับถือนิกายคาทอลิคหลายร้อยคนได้ร่วมกันสร้างขึ้นใหม่เมื่อเดือน มี.ค. ปีที่แล้ว เพื่อแทนอันเก่าที่ได้รับความเสียหายตั้งแต่สมัยสงคราม

ตำรวจเดินทางไปที่นั่นพร้อมกับรถบรรทุก สุนัข และโล่ในขณะที่ชาวบ้านถือเพียงไบเบิ้ลไว้ในมือเท่านั้น นักบวชรูปเดียวกันกล่าว

"พวกเขาส่งกองกำลังเข้ามาบนยอดเขาและเข้ารื้อถอนไม้กางเขน เมื่อชาวบ้านบอกให้พวกเขาแสดงหลักฐานคำสั่งของเจ้าหน้าที่ที่อนุญาตให้ทำการรื้อถอน ตำรวจก็ไม่แสดงหลักฐานให้พวกเราดู ตอนที่พวกเราสร้างไม้กางเขนบนนี้ เจ้าหน้าที่ก็ไม่เห็นจะว่าอะไร" พระรูปเดิม กล่าว

เวียดนามเป็นประเทศที่มี่ผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกเป็นจำนวนมากที่สุดเป็นอันดับสองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยจำนวนผู้เลื่อมใสกว่า 6 ล้านคน และกิจกรรมทางศาสนายังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ.