ตระการตา"โบสถ์คริสต์เมืองจันท์"เก่าแก่ สวยงามที่สุดในไทย

แม้ประเทศไทยจะมีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ แต่ก็ให้อิสระในการนับถือศาสนา ซึ่งสำหรับศาสนาคริสต์ก็เป็นหนึ่งในศาสนาที่เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยอยุธยา หรือราว 400 กว่าปีมาแล้ว และศาสนสถานของคริสตศาสนาที่เก่าแก่และถือว่าสวยงามที่สุดในประเทศไทยได้แก่ "อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล" ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมืองจันทบุรี

อาสนวิหารพระนางมารีฯ มีประวัติความเป็นมายาวนานเริ่มตั้งแต่เมื่อ ชาวคาทอลิกที่ลี้ภัยมาจากเวียดนามทางเรือ ได้มาตั้งรกรากอยู่ที่เมืองจันท์เมื่อราว 300 ปีก่อน

พวกเขาได้ร่วมกู้ชาติกู้แผ่นดินในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พร้อมทั้งสร้างชุมชนชาวคริสต์ขึ้น โดยได้สร้างอาสนวิหารในการทำพิธีกรรมต่างๆขึ้นในปี พ.ศ. 2253 ใช้ชื่อว่า "วัดน้อย" ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี แต่กระนั้นพวกคริสตชนได้ถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกโจรสลัด เนื่องจากทางราชการไม่ไว้วางใจพวกต่างด้าวที่เข้ามาอาศัยอยู่ จึงบังคับให้ไปอยู่ที่กรุงศรีอยุธยา ทำให้ผู้ที่ไม่ยอมไป ต้องหลบหนีอยู่ตามป่า ส่งผลให้วัดหลังแรกนี้ถูกทิ้งร้างเป็นเวลาหลายสิบปี

ต่อมาในปี พ.ศ. 2295 มีการรวบรวมชาวคาทอลิกที่กระจัดกระจายให้มารวมกลุ่มในที่เดิม แล้วจึงช่วยกันสร้างวัดขึ้นมาใหม่ในบริเวณเดิม เป็นวัดหลังที่ 2 ปลูกสร้างด้วยไม้กระดานเก่าๆ ผสมกับไม้ไผ่ หลังคามุงด้วยใบตาล เพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้อีกครั้ง

กระทั่งในสมัย พ.ศ. 2345 ได้มีการสร้างวัดหลังที่ 3 ขึ้น โดยย้ายมาอยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจันทบุรี เป็นวัดเล็กๆ สร้างด้วยไม้กระดานเก่าๆปนกับไม้ไผ่ในลักษณะชั่วคราว ต่อมาเมื่อชุมชนชาวคาทอลิกเติบโตขึ้นมาก ใน พ.ศ. 2398 จึงมีการก่อสร้างวัดหลังที่ 4 ขึ้น มีลักษณะถารแบบก่ออิฐถือปูน แต่ก็ดูคับแคบอีก เพราะชาวคาทอลิกได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นในปี พ.ศ.2443 จึงได้สร้างวัดหลังใหม่ขึ้น โดยเริ่มใช้ประกอบพิธีกรรมต่างๆในปี พ.ศ.2450 พร้อมทั้งได้ตกแต่งส่วนต่างๆเพิ่มเติมเรื่อยมา ก่อนจะทำพิธีเสกวัดเฉลิมฉลองอย่างมโหฬารในปี พ.ศ.2452

อาสนวิหารหลังนี้ มีลักษณะสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบโกธิค ตัวอาคารมีความยาวถึง 60 เมตร กว้าง 20 เมตร เชื่อว่าจำลองแบบมาจากวิหารน็อตเตอร์ดามแห่งฝรั่งเศส ส่วนหน้าของอาสนวิหารฯ เป็นหอคู่สูงเด่น ติดตั้งระฆังขนาดใหญ่และนาฬิกาบอกเวลาซึ่งมีความกว้างถึง 4.70 เมตร เมื่อแรกสร้างมียอดโดมแหลม แต่ได้ถูกรื้อออกเมื่อปี พ.ศ. 2483 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นเป้าหมายในการโจมตีทางอากาศ

ภายในอาสนวิหารฯ ตกแต่งไม้ฉลุลวดลาย มีบานหน้าต่างทรงสูง ยอดโค้งแหลม ประดับด้วยกระจกสีที่เรียกว่า สเตนกลาส เป็นภาพนักบุญต่างๆ ในคริสตศาสนา ยามที่แสงแดดส่องเข้ามาจะมีความสวยงามมาก จนได้รับการยกย่องให้เป็น หนึ่งใน UNSEEN THAILAND

ปัจจุบันอาสนวิหารพระนางมารีฯมีอายุครบ 100 ปีหมาดๆใน พ.ศ.2552 ที่ผ่านมา ซึ่งชาวคาทอลิกเมืองจันท์ได้พร้อมใจกันบูรณะใหม่ให้สวยงามขรึมขลังไม่ต่างจากเดิม อีกทั้งยังได้นำยอดโดมแหลมที่ถูกรื้อออกกลับมาติดตั้งใหม่ นับเป็นอีกหนึ่งความงามเคียงคู่กับเมืองจันท์ที่น่าไปเยี่ยมชมเป็นอย่างยิ่ง