เมียนมาร์ไทมส์ - ถึงแม้ว่าราคาปลาไหลในตลาดจะพุ่งสูงในช่วงปลายฤดูกาลก็ตาม แต่ราคาในปี 2552 นี้ก็ยังไม่เท่ากับราคาที่ขายได้ในปีที่ผ่านมาซึ่งพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ นายบาตอ (Ba Thaw) ประธานสมาคมผู้ค้าปลาไหลกล่าวกับสมาพันธ์ประมงพม่า
ราคาปลาไหลได้เพิ่มขึ้นจากราคาตันละ 1,800 ดอลลาร์ในเดือน ต.ค. เป็น 2,990 ดอลลาร์ ในเดือนพ.ย. แต่ก็ยังสูงไม่เท่ากับราคาที่จำหน่ายได้ถึงตันละ 3,500 ดอลลาร์ในเดือน พ.ย. 2551
"ราคาปลาไหลเมื่อปี 2551 พุ่งขึ้นไปสูงสุดถึง 4,250 ต่อตัน และก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงเดือนก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงปิดฤดูกาลจากแหล่งปลาไหลทางเขตตอนเหนือของพม่า" นายบาตอ กล่าว
ในปัจจุบัน มีปลาไหลเพียงครึ่งรถบรรทุกเท่านั้น (รถบรรทุก 1 คันขนปลาไหลได้ 9 ตัน) โดยเป็นปลาไหลที่ขนมาจากกรุงย่างกุ้งมายังบริเวณชายแดนพม่า-จีน ที่ด่านมูเซะ ( Muse) แต่หากเป็นช่วงฤดูกาลปลาไหลแต่ละวันจะมีปลาไหลถูกบรรทุกไปที่นั่นมากถึง 6 คันต่อวัน
"รถบรรทุกที่ขนปลาไหลมาขายเป็นรถบที่มาจากพม่าตอนล่างอย่างเดียวในตอนนี้ เช่นในบริเวณรัฐคะฉิ่นและมอญ" นายบาตอ กล่าว
ส่วนนายโซตาน (Soe Than) รองประธานสมาคมผู้ค้าปลาไหลระบุว่า ราคาปลาไหลหยุดอยู่ที่ 2,390 ดอลลาร์ต่อตันเมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา
ตัวเลขของกรมประมงระบุว่า ในช่วงปลายเดือนต.ค. การส่งออกปลาไหลสร้างรายได้ให้ประเทศมากถึง 11 ล้านดอลลาร์ แต่ก็ลดลงไปถึง 150,000 ดอลลาร์เมื่อเทียบกับรายได้ในปี 2551 ที่ผ่านมา แม้ว่าปริมาณปลาไหลที่ขายได้ในปีนี้จะมากถึง 152 ตันก็ตาม
ผู้ส่งออกในพม่าสามารถทำรายได้ได้ดีมากจากการจำหน่ายสินค้าประเภทสัตว์น้ำและอาหารทะเลให้แก่ผู้ค้าในมณฑลหยุนหนันของจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่และอยู่ห่างไกลจากทะเล โดยในปี 2549 พม่าส่งออกปลาไหลสู่ตลาดจีนผ่านระบบการค้าข้ามแดนที่ด่านมูเซะเฉลี่ยเดือนละ 1,000 ตัน
ตามตัวเลขที่เป็นทางการ ในปีงบประมาณ 2549-2550 ที่สิ้นสุดลงในเดือน มี.ค. พม่าส่งออกปลาไหลรวม 6,856 ตัน เป็นมูลค่า 18.95 ล้านดอลลาร์
นอกจากปลาไหลแล้วพม่ายังส่งออกสัตว์น้ำอีกหลายชนิดป้อนตลาดจีนผ่านด่านมูเซะ รวมทั้งปูชนิดต่างๆ ด้วย.