เครือข่ายประชาชนฯจี้รัฐบาลตั้งรางวัลนำจับ “นช.ทักษิณ” หวั่นสถานการณ์ยิ่งบานปลายและหนักขึ้นทุกวัน ระบุหากรัฐบาลยังเฉยเครือข่ายฯจะระดมเงินบริจาคประชาชนทั่วประเทศคนละ 10-20 บาทตั้งรางวัลนำจับเอง
วานนี้ (15 พ.ย.) นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษชายหนีคดี กับสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา นอกจากจะสร้างพฤติกรรมปั่นป่วนและสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นภายในประเทศไทยแล้ว ขณะนี้ทั้ง 2 คนยังได้สร้างปัญหายกระดับเป็นความขัดแย้งในระดับประเทศ เป็นเกมการเมืองด้วย และเป็นที่น่าแปลกใจว่า จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถที่จะดำเนินการจับกุม พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เสียที ดังนั้น ตนจึงขอเรียกร้องรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีให้เร่งดำเนินการจับกุม พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเร็ว
นายสุทธิ กล่าวต่อว่า อีกกรณีหนึ่งเพื่อเป็นข้อเรียกร้องให้เร่งการจับกุมนั้นเนื่องจากในวันที่ 17 พ.ย.นี้ ทางเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก จะเข้าไปยื่นหนังสือให้รัฐบาลเพื่อให้รัฐบาลตั้งรางวัลนำจับ พ.ต.ท.ทักษิณ นับ 10 ล้านบาทเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทยโดยเร็ว เพราะหากขืนปล่อยไว้เช่นนี้ สถานการณ์ก็จะยิ่งบานปลายและหนักขึ้นทุกวัน จนอาจจะทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งกับประเทศกัมพูชาเพิ่มมากขึ้นอีก
"หากรัฐบาลไม่ดำเนินการ ในนามเครือข่ายประชาชนทั่วประเทศ จะลงขันกันคนละ 10-20 บาท จากประชาชนทั่วประเทศจำนวน 60 ล้านคน เพื่อตั้งเป็นรางวัลนำจับหรือผู้ที่ชี้เบาะแสนำไปสู่การจับกุมและนำตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทย จะได้รับเงินรางวัลนำจับไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท ถ้าคนไทยช่วยกันบริจาคเงินคนละ 10-20 บาท" นายสุทธิ กล่าว
เขมรผวาข่าวลือแห่ซื้อสินค้าตุน
ด้านบรรยากาศที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษวานนี้ (15 พ.ย.) ได้มีทหารกัมพูชาและพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาจำนวนมากพากันแห่เข้ามาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะผลิตผลทางการเกษตรพวกผักสด ผลไม้ และเนื้อสัตว์ รวมทั้งไก่บ้านที่มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยนำเอามาขาย
ส่วนทหารกัมพูชาได้พากันเข้ามาซื้ออาหารและสิ่งของเครื่องใช้ เพื่อนำไปใช้ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ตรึงกำลังตามชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหารเป็นจำนวนมากเช่นกัน ทั้งนี้ เนื่องจากจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ เป็นด่านผ่านแดนถาวรเพียงแห่งเดียวด้าน จ.ศรีสะเกษ ที่อยู่ใกล้กับเขาพระวิหาร โดยทหารกัมพูชาเหล่านี้ได้ซื้อสินค้าจนล้นรถยนต์ที่นำเอามาบรรทุกอาหารกลับไป เพื่อทำอาหารเลี้ยงบรรดาทหารเขมรที่ตรึงกำลังอยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในขณะนี้
นายจักรกฤษณ์ โตมาซา เจ้าพนักงานด่านศุลกากรช่องจอม ปฏิบัติหน้าที่ด่านช่องสะงำ กล่าวว่า นับตั้งแต่เกิดปัญหาวิกฤตความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทยกับกัมพูชา พบว่า ชาวกัมพูชาที่พากันเข้ามาหาซื้อสินค้าบริเวณตลาดชายแดนช่องสะงำ มีจำนวนน้อยลงมาก ทำให้มูลค่าการซื้อขายลดลงกว่าที่ผ่านมา
แต่พอมีข่าวลือว่าจะมีการปิดด่านช่องสะงำทำให้ชาวกัมพูชารวมทั้งทหารกัมพูชาพากันเข้ามาซื้อสินค้าในวันนี้ซึ่งเป็นวันเปิดตลาดนัดชายแดนค่อนข้างคึกคัก หากเปรียบเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ยังถือว่ามีจำนวนชาวกัมพูชาเข้ามาน้อย แต่พากันซื้อสินค้ากลับไปในปริมาณมากกว่าเดิมเพื่อไปกักตุนไว้ หากมีการปิดด่านช่องสะงำเกิดขึ้นจริงตามข่าวลือ ก็จะได้มีอาหารและเครื่องอุปโภคบริโภคอยู่ได้อีกหลายวัน
“ชาวกัมพูชานิยมมาซื้ออาหาร สินค้าอุปโคบริโภคจากตลอดชายแดนฝั่งไทย เพราะมีความสดใหม่ คุณภาพดี และราคาถูกกว่าสินค้าที่มาจากประเทศเวียดนามและจีน ซึ่งต้องใช้เวลาในการขนส่งนานหลายวันกว่าจะมาถึงชายแดนกัมพูชาด้านนี้” นายจักรกฤษณ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกันที่บริเวณหมู่บ้านแซรไปร ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ติดชายแดนไทย-กัมพูชา ชาวบ้านได้มีการก่อสร้างซ่อมแซมปรับปรุงหลุมหลบภัย ภายในหมู่บ้านจำนวนหลายสิบแห่ง โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก จ.ศรีสะเกษ เพื่อเตรียมพร้อมด้านความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพราะสถานการณ์ความตึงเครียดและการตรึงกำลังทหารเผชิญหน้ากันระหว่าง 2 ประเทศ อาจนำไปสู่การสู้รบได้ตลอดเวลา
บรรยากาศด่านอรัญฯ เริ่มคึกคักอีกครั้ง
ส่วนที่บริเวณหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มีชาวกัมพูชาจำนวนมากแห่เดินทางข้ามด่านจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาค้าขายในตลาดโรงเกลือเป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้เดินทางออกจากประเทศกัมพูชาไปแล้ว ทำให้สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชาคลายลง
แต่ก็ยังมีชาวกัมพูชาจำนวนมากสนใจหาซื้อหนังสือพิมพ์กัมพูชา เพื่อมาดูการเสนอข่าวของ นสพ.กัมพูชากรณีรัฐบาลกัมพูชาจับกุมวิศวกรชาวไทยที่กรุงพนมเปญ และตั้งข้อหาหนักว่าจารกรรม ทำให้ชาวกัมพูชาต่างวิพากษ์วิจารณ์กลัวเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวทำให้ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ขาดสะบั้น และจะทำให้ด่านชายแดนอรัญประเทศ จะถูกปิดตามไปด้วย จึงทำให้บรรดาพ่อค้า แม่ค้า ชาวกัมพูชาต่างสนใจและเป็นกังวลใจต่อข่าวนี้เป็นอย่างมาก
ส่วนนักพนันชาวไทยเริ่มเดินทางมาเสี่ยงโชคในบ่อนกาสิโนฝั่งกัมพูชามากขึ้นทำให้บริเวณหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศกลับมาคึกคักอีกครั้ง
ที่ จ.จันทบุรี ตั้งแต่ 07.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเปิดประตูพรหมแดนยังคงมีชาวกัมพูชาจำนวนมากต่อแถวรอข้ามพรหมแดน เพื่อเข้ามารับจ้างทำงานในฝั่งไทย ขณะที่บรรยากาศการค้าขายทั่วไปยังเป็นไปตามปกติ แต่ผู้ค้ายอมรับในขณะนี้ผู้ประกอบการต้องประเมินสถานการณ์แบบวันต่อวัน ก่อนตัดสินใจสั่งซื้อสินค้าข้ามแดนระหว่างกัน
ส่วนที่ จ.ตราด สินค้าอุปโภค บริโภคขายดีเป็นพิเศษ โดยเฉพาะน้ำตาลทราย และวัสดุก่อสร้าง ทั้งนี้ นายเฉลียง อัมพิน เจ้าของบริษัท ทวีศักดิ์-กิตตยาขนส่ง จำกัด ผู้รับเหมาขนส่งสินค้าลงในกัมพูชา เผยว่า ขณะนี้กัมพูชามีคำสั่งซื้อสินค้าจำนวนมาก โดยเฉพาะน้ำตาลทรายกว่า 30 ตัน ทำให้ทางบริษัทต้องเร่งขนส่งน้ำตาลทรายโดยเร่งด่วน
"ตั้งแต่ไทย-กัมพูชามีความขัดแย้งกันพบว่ามีการสั่งสินค้าต่างๆ มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาทและทั้งหมดเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค" นายเฉียง กล่าว
วานนี้ (15 พ.ย.) นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษชายหนีคดี กับสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา นอกจากจะสร้างพฤติกรรมปั่นป่วนและสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นภายในประเทศไทยแล้ว ขณะนี้ทั้ง 2 คนยังได้สร้างปัญหายกระดับเป็นความขัดแย้งในระดับประเทศ เป็นเกมการเมืองด้วย และเป็นที่น่าแปลกใจว่า จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถที่จะดำเนินการจับกุม พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เสียที ดังนั้น ตนจึงขอเรียกร้องรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีให้เร่งดำเนินการจับกุม พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเร็ว
นายสุทธิ กล่าวต่อว่า อีกกรณีหนึ่งเพื่อเป็นข้อเรียกร้องให้เร่งการจับกุมนั้นเนื่องจากในวันที่ 17 พ.ย.นี้ ทางเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก จะเข้าไปยื่นหนังสือให้รัฐบาลเพื่อให้รัฐบาลตั้งรางวัลนำจับ พ.ต.ท.ทักษิณ นับ 10 ล้านบาทเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทยโดยเร็ว เพราะหากขืนปล่อยไว้เช่นนี้ สถานการณ์ก็จะยิ่งบานปลายและหนักขึ้นทุกวัน จนอาจจะทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งกับประเทศกัมพูชาเพิ่มมากขึ้นอีก
"หากรัฐบาลไม่ดำเนินการ ในนามเครือข่ายประชาชนทั่วประเทศ จะลงขันกันคนละ 10-20 บาท จากประชาชนทั่วประเทศจำนวน 60 ล้านคน เพื่อตั้งเป็นรางวัลนำจับหรือผู้ที่ชี้เบาะแสนำไปสู่การจับกุมและนำตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทย จะได้รับเงินรางวัลนำจับไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท ถ้าคนไทยช่วยกันบริจาคเงินคนละ 10-20 บาท" นายสุทธิ กล่าว
เขมรผวาข่าวลือแห่ซื้อสินค้าตุน
ด้านบรรยากาศที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษวานนี้ (15 พ.ย.) ได้มีทหารกัมพูชาและพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาจำนวนมากพากันแห่เข้ามาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะผลิตผลทางการเกษตรพวกผักสด ผลไม้ และเนื้อสัตว์ รวมทั้งไก่บ้านที่มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยนำเอามาขาย
ส่วนทหารกัมพูชาได้พากันเข้ามาซื้ออาหารและสิ่งของเครื่องใช้ เพื่อนำไปใช้ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ตรึงกำลังตามชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหารเป็นจำนวนมากเช่นกัน ทั้งนี้ เนื่องจากจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ เป็นด่านผ่านแดนถาวรเพียงแห่งเดียวด้าน จ.ศรีสะเกษ ที่อยู่ใกล้กับเขาพระวิหาร โดยทหารกัมพูชาเหล่านี้ได้ซื้อสินค้าจนล้นรถยนต์ที่นำเอามาบรรทุกอาหารกลับไป เพื่อทำอาหารเลี้ยงบรรดาทหารเขมรที่ตรึงกำลังอยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในขณะนี้
นายจักรกฤษณ์ โตมาซา เจ้าพนักงานด่านศุลกากรช่องจอม ปฏิบัติหน้าที่ด่านช่องสะงำ กล่าวว่า นับตั้งแต่เกิดปัญหาวิกฤตความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทยกับกัมพูชา พบว่า ชาวกัมพูชาที่พากันเข้ามาหาซื้อสินค้าบริเวณตลาดชายแดนช่องสะงำ มีจำนวนน้อยลงมาก ทำให้มูลค่าการซื้อขายลดลงกว่าที่ผ่านมา
แต่พอมีข่าวลือว่าจะมีการปิดด่านช่องสะงำทำให้ชาวกัมพูชารวมทั้งทหารกัมพูชาพากันเข้ามาซื้อสินค้าในวันนี้ซึ่งเป็นวันเปิดตลาดนัดชายแดนค่อนข้างคึกคัก หากเปรียบเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ยังถือว่ามีจำนวนชาวกัมพูชาเข้ามาน้อย แต่พากันซื้อสินค้ากลับไปในปริมาณมากกว่าเดิมเพื่อไปกักตุนไว้ หากมีการปิดด่านช่องสะงำเกิดขึ้นจริงตามข่าวลือ ก็จะได้มีอาหารและเครื่องอุปโภคบริโภคอยู่ได้อีกหลายวัน
“ชาวกัมพูชานิยมมาซื้ออาหาร สินค้าอุปโคบริโภคจากตลอดชายแดนฝั่งไทย เพราะมีความสดใหม่ คุณภาพดี และราคาถูกกว่าสินค้าที่มาจากประเทศเวียดนามและจีน ซึ่งต้องใช้เวลาในการขนส่งนานหลายวันกว่าจะมาถึงชายแดนกัมพูชาด้านนี้” นายจักรกฤษณ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกันที่บริเวณหมู่บ้านแซรไปร ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ติดชายแดนไทย-กัมพูชา ชาวบ้านได้มีการก่อสร้างซ่อมแซมปรับปรุงหลุมหลบภัย ภายในหมู่บ้านจำนวนหลายสิบแห่ง โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก จ.ศรีสะเกษ เพื่อเตรียมพร้อมด้านความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพราะสถานการณ์ความตึงเครียดและการตรึงกำลังทหารเผชิญหน้ากันระหว่าง 2 ประเทศ อาจนำไปสู่การสู้รบได้ตลอดเวลา
บรรยากาศด่านอรัญฯ เริ่มคึกคักอีกครั้ง
ส่วนที่บริเวณหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มีชาวกัมพูชาจำนวนมากแห่เดินทางข้ามด่านจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาค้าขายในตลาดโรงเกลือเป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้เดินทางออกจากประเทศกัมพูชาไปแล้ว ทำให้สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชาคลายลง
แต่ก็ยังมีชาวกัมพูชาจำนวนมากสนใจหาซื้อหนังสือพิมพ์กัมพูชา เพื่อมาดูการเสนอข่าวของ นสพ.กัมพูชากรณีรัฐบาลกัมพูชาจับกุมวิศวกรชาวไทยที่กรุงพนมเปญ และตั้งข้อหาหนักว่าจารกรรม ทำให้ชาวกัมพูชาต่างวิพากษ์วิจารณ์กลัวเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวทำให้ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ขาดสะบั้น และจะทำให้ด่านชายแดนอรัญประเทศ จะถูกปิดตามไปด้วย จึงทำให้บรรดาพ่อค้า แม่ค้า ชาวกัมพูชาต่างสนใจและเป็นกังวลใจต่อข่าวนี้เป็นอย่างมาก
ส่วนนักพนันชาวไทยเริ่มเดินทางมาเสี่ยงโชคในบ่อนกาสิโนฝั่งกัมพูชามากขึ้นทำให้บริเวณหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศกลับมาคึกคักอีกครั้ง
ที่ จ.จันทบุรี ตั้งแต่ 07.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเปิดประตูพรหมแดนยังคงมีชาวกัมพูชาจำนวนมากต่อแถวรอข้ามพรหมแดน เพื่อเข้ามารับจ้างทำงานในฝั่งไทย ขณะที่บรรยากาศการค้าขายทั่วไปยังเป็นไปตามปกติ แต่ผู้ค้ายอมรับในขณะนี้ผู้ประกอบการต้องประเมินสถานการณ์แบบวันต่อวัน ก่อนตัดสินใจสั่งซื้อสินค้าข้ามแดนระหว่างกัน
ส่วนที่ จ.ตราด สินค้าอุปโภค บริโภคขายดีเป็นพิเศษ โดยเฉพาะน้ำตาลทราย และวัสดุก่อสร้าง ทั้งนี้ นายเฉลียง อัมพิน เจ้าของบริษัท ทวีศักดิ์-กิตตยาขนส่ง จำกัด ผู้รับเหมาขนส่งสินค้าลงในกัมพูชา เผยว่า ขณะนี้กัมพูชามีคำสั่งซื้อสินค้าจำนวนมาก โดยเฉพาะน้ำตาลทรายกว่า 30 ตัน ทำให้ทางบริษัทต้องเร่งขนส่งน้ำตาลทรายโดยเร่งด่วน
"ตั้งแต่ไทย-กัมพูชามีความขัดแย้งกันพบว่ามีการสั่งสินค้าต่างๆ มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาทและทั้งหมดเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค" นายเฉียง กล่าว