แทงเนียน/ASTVผู้จัดการรายวัน-- โรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือแห่งใหม่ในเวียดนามได้เริ่มผลิตขึ้นแล้วในศุกร์ (29 ต.ค.) โดยบริษัทซัมซุงอีเล็กโทรนิกส์จากเกาหลีใต้ ตั้งเป้ามูลค่าการส่งออกที่ 5,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี ภายในปี 2553 นี้
นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหวียนเติ๋นยวุ๋งไปเป็นประธานในพิธีเปิดโรงานของซัมซุงวันพุธที่ผ่านมา
ปัจจุบันซัมซุงเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากบริษัทโนเกียแห่งฟินแลนด์ ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในเวียดนามจะส่งออกสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกา และ ออสเตรเลียกับยุโรป ในเวลาต่อไป
ซัมซุงมีแผนที่จะผลิตโทรศัพท์มือถือให้ได้ถึง 1.5 ล้านเครื่องต่อเดือนจากโรงงานมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ที่ตั้งอยู่ใน จ.บั๊กนีง (Bac Ninh) ชานกรุงฮานอย และเตรียมเพิ่มปริมาณการผลิตขึ้นไปเป็น 6 ล้านเครื่องต่อเดือนภายในปี 2553
โรงงานดังกล่าว ซึ่งซัมซุงระบุว่าจะขยายปริมาณการผลิตให้เป็น 100 ล้านเครื่องต่อปีในที่สุดนั้น สามารถสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นได้มากกว่า 10,000 ตำแหน่ง ทั้งนี้เป็นการรายงานที่ตีพิมพ์เผยแพร่บนเว็บไซต์ของรัฐบาลเมื่อวันศุกร์ (29 ต.ค.)
บริษัทอีเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้รายนี้ได้ประกาศเจตนารมณ์ในการลงทุนสร้างโรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือในเวียดนามนี้มาตั้งแต่ปี 2550 โดยเกาหลีใต้เป็นประเทศผู้ลงทุนจากต่างชาติรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ในประเทศนี้
ในปี 2551 ที่ผ่านมา เกาหลีใต้เป็นประเทศผู้บริจาครายใหญ่ลำดับที่ 2 ให้กับเวียดนาม และเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 4 ด้วยมูลค้าทางการค่าระหว่างประเทศเกือบหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์
การผลิตโทรศัพท์มือถือซัมซุงในเวียดนามยังมีขึ้น ขณะที่อุตสากรรมโทรคมนาคมไร้สายของประเทศนี้ก้าวเข้าสู่ยุค 3G ในเดือนเดียวกัน โดยคาดว่าจะมีผู้ลงทะเบียนเข้าใช้บริการในเครือข่ายต่างๆ เพิ่มขึ้นอีกกว่า 1 ล้านราย และโทรศัพท์ที่รองรับเทคโนโลยีการสื่อสานยุคที่ 3 จะเป็นที่ต้องการอย่างมาก
ซัมซุงเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มโทรศัพท์ระบบทัชสกรีน นอกจากนั้นยังมีโทรศัพท์ที่ใช้เทคโนโลยีล้ำยุค รับเครือข่าย 3G อยู่หลายรุ่น
ตามข้อมูลล่าสุดที่รายงานโดยหนังสือพิมพ์ไซ่ง่อนไทมส์ อุตสาหกรรมโทรคมนาคมในเวียดนามขยายตัวปีละ 30% ในช่วงหลายปีมานี้และคาดว่าในปี 2553 จะมีมูลค่ารวมประมาณ 7,000 ล้านดอลลาร์
ปัจจุบันมีผู้โทรศัพท์มือถือในประเทศนี้ราว 80 ล้านราย มีผู้ให้บริการรวม 7 ข่าย ในนั้นมี 4 ข่ายที่ได้รับใบอนุญาตให้พัฒนาไปสู่เทคโนโลยี 3G.