เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการรายวัน —ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาสภาพศพชาวเวียดนามและรัสเซียกำลังเตรียมการเข้าตรวจสภาพร่างไร้วิญญาณของอดีตประธานโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh) ที่จัดแสดงไว้กลางกรุงฮานอย เพื่อให้แน่ใจว่า ยังคงสามารถจัดแสดงต่อสาธารณชนได้ต่อไป
นายกรัฐมนตรีเวียดนาม นายเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) เป็นผู้เปิดเผยเรื่องนี้ หลังพิธีเฉลิมฉลองครบรอบปีที่ 64 การก่อตั้งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และครบรอบ 40 ปี การอสัญกรรมของอดีตประธานโฮจิมินห์ ในวันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา
นายกฯ เวียดนามได้ตัดสินใจจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ระดับรัฐ เข้าประเมินสภาพร่างกายที่อาบขี้ผึ้งและน้ำยาของประธานโฮจิมินห์ “บิดาแห่งชาติ” ในยุคใหม่
คณะกรรมาธิการชุดนี้จะมีผู้เชี่ยวชาญชาวรัสเซียและเวียดนามรวมทั้งหมด 13 คน โดยมี ดร.หวู มีงห์ ( Vu Minh) ซึ่งมีตำแหน่งเป็นสมาชิกคณะกรรมการกลางพรรค และ ประธานบอร์ดคณะกรรมการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่เป็นประธานของคณะ
คณะกรรมการจากรัสเซียประกอบด้วยศาสตราจารย์ นักวิชาการ และนายแพทย์รวมทั้งหมด 6 คน โดยมี นายบูกอล วาเลอรี อเล็กซีเอวิตช์ (Bukol Valery Alexeevitch) ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์และแพทย์แผนโบราณ (Medicine and Essential Oil) แห่งชาติ เป็นหัวหน้า
ผู้เชี่ยวชาญของ 2 ประเทศจะร่วมกันตรวจสภาพร่างกายของอดีตประธานโฮจิมินห์ หรือ “ลุงโฮ” ที่ถูกเก็บรักษาสภาพมาเป็นเวลานานกว่า 40 ปี และ ได้นำออกวางในโลงแก้วที่อนุสรณ์สถาน (Ho Chi Minh Mausoleum) มาตั้งแต่ปี 2518
ทางการเวียดนามเลือกจัตุรัสบ่าดิ่ง (Ba Dinh Square) เป็นที่สร้างสุสานสถานของลุงโฮ เนื่องจากอดีตผู้นำเคยที่เคารพรัก ใช้ที่นั่นอ่านแถลงการณ์ประกาศเอกราชจากการเป็นอาณานิคมฝรั่งเศส กับ แถลงการณ์อีกฉบับหนึ่งประกาศก่อตั้งประเทศสาธารณรัฐสสังคมนิยมเวียดนามพร้อมๆ ในวันที่ 2 ก.ย.2488
คณะผู้เชี่ยวชาญเวียดนาม-รัสเซียจะเข้าประเมินสภาพร่างกายและคิดหาหนทางรักษาร่างของลุงโฮให้ยังคงสภาพอยู่ตามเดิมต่อไป รัฐบาลได้ปิดสุสานสถานของลุงโฮเป็นเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย. ถึงวันที่ 6 พ.ย. เพื่อบูรณะซ่อมบำรุงประจำปี
เวียดนามได้ขอความช่วยเหลือไปยังรัสเซียในการเก็บรักษาสภาพศพอดีตประธานโฮจิมินห์ เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญ มีผลงานการรักษาสภาพศพของอดีตผู้นำการปฏิวัติการปกครอง "วลาดิมีร์ เลนิน" (Vladimir Lenin) ที่จัดแสดงอยู่บริเวณจัตุรัสแดง กลางกรุงมอสโก มาจนถึงทุกวันนี้
ถึงแม้ว่าผู้เชี่ยวชาญในการรักษาสภาพศพจะสามารถทำให้ร่างของลุงโฮอยู่ในสภาพนอนหลับในโลงแก้วมาเป็นเวลานานกว่า 40 ปีแล้วก็ตาม ยังคงมีความสงสัยเกิดขึ้นในหมู่ประชาชนชาวเวียดนามเกี่ยวกับร่างของอดีตผู้นำนี้ว่าเป็นของจริงหรือไม่
นางฝั่มถิซวน (Pham Thi Xuan) วัย 64 ปี กล่าวว่า "ลุงโฮดูไม่ค่อยเหมือนของจริงนะ" ก่อนที่จะปาดน้ำตาที่หลั่งให้กับร่างที่ไร้ชีวิตของอดีตผู้นำ
เวียดนามเริ่มก่อสร้างสุสานสถานแห่งนี้ในวันที่ 2 ก.ย. 2516 หรือ 6 ปีหลังอสัญกรรม และ ทำพิธีเปิดให้สาธารณชนทั่วไปเข้าชมอย่างเป็นทางการครั้งแรกวันที่ 29 ส.ค.2524 ปัจจุบันสามารถเข้าชมได้ในช่วงเช้าของวันอังคาร พุธ พฤหัสบดี เสาร์ และวันอาทิตย์
ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการ ที่ผ่านมามีประชาชนกับนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมและคารวะลุงโฮเฉลี่ยสัปดาห์ละ 15,000 คน
รายงานของคณะกรรมการจัดการสุสานสถานระบุว่า นับตั้งแต่เปิดให้บริการในเดือนส.ค.2524 จนถึงเดือน ก.พ. 2552 ที่นั่นได้ต้อนรับผู้ไปเยือนมากกว่า 37 ล้านคนแล้ว เป็นชาวต่างชาติเกือบ 4.9 ล้านคน จาก 160 ประเทศทั่วโลกและองค์การระหว่างประเทศต่างๆ
ในวันชาติเวียดนาม (2 ก.ย.) ที่ผ่านมา มีผู้ไปเยี่ยมและคารวะลุงโฮถึง 32,500 คน เป็นจำนวนสูงสุดเท่าที่เคยมีมา.
