ASTVผู้จัดการออนไลน์-- เจ้าหน้าที่ตำรวจเวียดนามจับยึดงาช้างจำนวน 17 ชิ้น รวมน้ำหนัก 94 กิโลกรัมในวันเสาร์ (22 ส.ค.) ที่ผ่านมา นับเป็นการจับยึดครั้งที่ 2 ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งเชื่อกันว่าลอตล่าสุดนี้ อาจจะถูกการลักลอบนำเข้าทางบกผ่านประเทศไทยเพื่อนบ้าน
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เตื๋อยแจ๋ (Tuoi Tre) ตำรวจจราจรพบงาช้างทั้ง 17 ชิ้นในรถยนต์คันหนึ่งอย่างบังเอิญ หลังโบกให้หยุดเนื่องจากขับผิดช่องทางจราจรบนทางหลวงในท้องที่ จ.แท็งฮว้า (Thanh Hoa) ในภาคกลางตอนบนของประเทศ
คนขับรถให้การว่ารับงาช้างไปจาก จ.เหงะอาน (Nghe An) และ กำลังจะนำไปยังกรุงฮานอย ซึ่งจังหวัดดังกล่าวมีชายแดนติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
เดือน ก.ค.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ศุลกากรสามารถจับยึดงาช้างรวมน้ำหนัก 200 กก. ถูกส่งเข้าเวียดนามอย่างผิดกฎหมาย โดยทางเครื่องบินจากประเทศเคนยา
ก่อนหน้านั้นในเดือน มี.ค. เจ้าหน้าที่ศุลกากรเวียดนามจับยึดงาช้างลอตใหญ่น้ำหนักรวมเกือบ 5 ตันที่ท่าเรือหายฟ่อง (Hai Phong) ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศติดชายแดนจีน ทั้งหมดมีต้นทางจากประเทศทันซาเนียในแอฟริกา
ส่วนในประเทศไทย ในเดือน ส.ค.นี้ เจ้าหน้าที่ศุลกากรของไทยก็จับยึดงานช้างได้รวมน้ำหนักกว่า 800 กก. ทั้งหมดถูกส่งทางเครื่องบินหวังลักลอบเข้าไทย ผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ
เวียดนามได้ห้ามการค้างาช้างในประเทศมาตั้งแต่ปี 2535 แต่ยังอนุญาตให้ร้านค้าต่างๆ ค้างาช้างที่ค้างสตอกมาตั้งแต่ดั้งเดิมได้ต่อไป
งาช้างยังเป็นสินค้าที่ขายดีในตลาดมือประเทศต่างๆ ในแถบเอเชีย โดยมีการนำไปเป็นส่วนผสมของยาอายุวัฒนะ รวมทั้งเป็นวัตถุดิบในการทำเครื่องประดับราคาแพงอีกด้วย แต่ที่มาของมันก็คือจะต้องมีการสังหารช้างเพื่อเอางาของมัน ทำให้ช้างป่าที่อาศัยในธรรมชาติถูกตามล่า และนับวันมีจำนวนลดลงเรื่อยๆ .