ASTVผู้จัดการออนไลน์-- ทางหลวงเลข 9 ระยะทาง 240 กิโลเมตรที่อยู่ในดินแดนลาว ไม่ใช่ดินแดนที่มืดมิดในยามค่ำคืนอีกต่อไป หมู่บ้านต่างๆ ที่อยู่กระจัดกระจายกันไปตามสองข้างทาง กำลังจะสว่างไสว เนื่องจากทางการได้จัดสร้างข่ายสายไฟฟ้าขนาด 22 กิโลโวลต์ เข้าไปจนถึงทุกแห่งแล้ว
ตามรายงานของสำนักข่าวสารปะเทดลาว (ขปล.) การก่อสร้างข่ายสายส่งไฟฟ้าระหว่างเมือง (อำเภอ) กับหมู่บ้านต่างๆ ดังกล่าวเริ่มมาตั้งแต่เดือน ม.ค.2551 ปัจจุบันแล้วเสร็จ 100% ด้วยงบประมาณกว่า 15,000 ล้านกีบ (60 ล้านบาทเศษ) รวมเป็นระยะทางกว่า 40 กม. โดยบริษัทสะหวันคำอีเล็กทรอนิกส์ เป็นผู้ดำเนินการ
ยังมีหมู่บ้านรายทางที่ก่อนนี้ยังไม่มีไฟฟ้าใช้รวม 13 แห่ง ทั้งหมดอยู่ในเขตเมืองพะลานไซ กับเมืองพีน ซึ่งเมื่อก่อนเคยเป็นดินแดนที่แห้งแล้งทุระกันดารของแขวงสะหวันนะเขต สำนักข่าวของทางการกล่าวว่า ปัจจุบันมีการสร้างสายส่งไฟฟ้าจากเมืองพะลานไซ ผ่านเมืองพีนไปจนถึงเขตเซท่ามวก ติดเขตแดนเมืองเซโปน
ในปัจจุบันทางหลวงเลข 9 เป็นถนนสายหลักเชื่อมต่อการคมนาคมและการขนส่งทางบกสามประเทศ ไทย ลาวและเวียดนาม เป็นเส้นทางหลักในโครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกตะวันตกจากฝั่งทะเลตะวันออกของเวียดนาม ที่เมืองท่าด่าหนัง (Danang) ไปยังท่าเรือมะละแหม่ง (Mawlamyine) ในอ่าวเมาะตะมะ (Mottama) ของพม่า
การสร้างสายส่งไฟฟ้าเข้าสู่ระดับหมู่บ้านได้ทำให้ราษฎรมีไฟฟ้าใช้อย่างทั่วถึงตลอดเส้นทางยุทธศาสตร์สายสำคัญนี้ ซึ่งจะทำให้การลงทุนกระจายออกจากเขตเมืองลงไปยังระดับหมู่บ้านได้ เป็นการส่งเสริมการค้า บริการและการท่องเที่ยว
รัฐบาลลาวได้ประกาศจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโน และกำลังเร่งพัฒนาเขตเศรษฐกิจเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ
ทางการลาวมีโครงการจัดสร้างการขนส่งระบบรางช่วงเมืองไกสอน พมวิหาน-แดนสะหวันไปเชื่อมกับระบบรถไฟเวียดนาม ที่จะไปบรรจบกันบริเวณด่านลาวบ๋าว (Lao Bao) เพื่อไปเชื่อมต่อกับระบบรถไฟสายเหนือ-ใต้ในปัจจุบัน ที่เมืองดงห่า (Dong Ha) จ.กว๋างจิ (Quang Tri)
เมื่อต้นปีนี้ สปป.ลาวได้อนุญาตให้บริษัทจากมาเลเซียแห่งหนึ่งสำรวจความเป็นไปได้โครงการสร้างระบบรถไฟฟ้าขนานทางหลวงเลข 9 ไปจนถึงเมืองดงห่า โดยจะใช้เวลาในการสำรวจศึกษานาน 18 เดือน.