xs
xsm
sm
md
lg

ลาวเปิดกาสิโนใหญ่สามเหลี่ยมทองคำ ก.ย.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#cc00CC>มันมาพร้อมกับการพัฒนา-- ศูนย์บริการท่องเที่ยวครบวงจร เป็นนิยามที่นิยมใช้กันแพร่หลายในประเทศแถบนี้ ทุกแห่งแสดงนัยให้เห็นว่าเป็นแหล่งพนันถูกกฎหมายสำหรับนักเสี่ยงโชคระดับบน ภาพถ่ายวันที่ 23 มิ.ย.2552 มองข้ามแม่น้ำโขงทางด้านสบรวก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย กาสิโนใหญ่กำลังเร่งวันเร่งคืนก่อสร้าง เพื่อเปิดในอีก 3 เดือนข้างหน้า เป็นผลงานของนักลงทุนจีน และกำลังจะเป็นกาสิโนแห่งแรกของลาวในเขตสามเหลี่ยมทองคำ</FONT></bR>

ASTVผู้จัดการรายวัน-- นักลงทุนจีนกำลังจะเปิดแหล่งบริการท่องเที่ยวครบวงจรในแขวงบ่อแก้วของลาว ในเดือน ก.ย.ศกนี้ ขณะที่ทางการแขวงเชื้อเชิญนักลงทุนจากไทยเข้าลงทุนในแขนงที่มีศักยภาพต่างๆ เพื่อรอรับสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำโขงแหงที่ 4 (ห้วยทราย-เชียงของ) ที่คาดว่าจะลงมือก่อสร้างได้ในปลายปีนี้

สถานบริการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ในเขตเมืองต้นผึ้ง ประกอบด้วยสถานกาสิโนหรูหรา พร้อมโรงแรมและรีสอร์ตระดับ 5 ดาว กับศูนย์การค้าครบวงจร จะเป็นกาสิโนแห่งแรกตามแนวชายแดนติดกับไทยและพม่าทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ

รองเจ้าแขวงบ่อแก้วเปิดเผยเรื่องนี้กับคณะสมาคมไทยลาวเพื่อมิตรภาพที่เดินทางไปเยือนวันอังคาร (23 มิ.ย.) ที่ผ่านมา

เมืองห้วยทรายซึ่งเป็นเมืองเอกของแขวง ในปัจจุบันเป็นหน้าด่านสู่ถนนสายเอเชีย “สาย 3เอ” (A3a) หรือ “อา3อา” ตามสำเนียงภาษาฝรั่งเศสในลาว เป็นจุดเริ่มต้นจาก อ.เชียงของ จ.เชียงรายของไทย ไปยังมณฑลสิบสองปันนาและมณฑลหยุนหนันของจีน

ปัจจุบันเมืองหน้าด่านสำคัญแห่งนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก ขณะที่ทุกฝ่ายกำลังรอสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4

"สะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 จะเป็นด่านสุดท้าย ในการเชื่อมกรุงเทพฯ เขากับนครคุนหมิงของจีน" ดร.วีระพงษ์ รามางกูร นายกสมาคมไทยลาวเพื่อมิตรภาพกล่าว ระหว่างพิธีต้อนรับที่จัดขึ้น ณ สำนักงานปกครองแขวง

สถานกาสิโนแห่งใหม่กำลังจะเปิดให้บริการ หลังจากมีการเปิดโรงแรม-กาสิโนขนาดใหญ่ที่ได้มาตรฐานโลก “สะหวัน-เวกัส” ขึ้นในเมืองไกสอน พมวิหาร แขวงสะหวันนะเขต เมื่อต้นปีนี้
<bR><FONT color=#cc00CC>ใต้ลงมาราว 2 กิโลเมตรเป็นท่าเรือเชียงแสน ภาพถ่ายวันที่ 23 มิ.ย.2552 ที่นี่ขยายตัวรวดเร็วมาก มีเรือสินค้ากับเรืออีกนานาชนิดทั้งสัญชาติไทย จีน ลาวและพม่าจอดกันเรียงราย</FONT></bR>
<bR><FONT color=#cc00CC>เรือจีนจอดที่บริเวณท่าศุลกากร ติดกับท่าเรือพาณิชย์ที่เชียงแสน มาที่นี่พร้อมกับสินค้า จอดที่นี่รอเพื่อจะกลับไปพร้อมสินค้า </FONT></bR>
สถานบริการท่องเที่ยวครบวงจรดังกล่าว ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ฝั่งตรงข้ามบริเวณสบรวก อ.เชียงแสน ซึ่งปัจจุบันทางฝั่งไทยเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้าง ร้านค้าและแหล่งประกอบการต่างๆ เรียงรายตามริมฝั่งแม่น้ำ

มองจากฝั่งไทยจะเห็นสถานกาสิโนที่กำลังก่อสร้างอย่างรีบเร่งเพื่อให้เปิดใช้การทันกำหนดการปลายปีนี้ ซึ่งเป็นฤดูแห่งหารท่องเที่ยว และยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดอื่นใดอีก

ได้มีการสอบถามเกี่ยวกับโอกาสของนักลงทุนไทยที่จะไปลงทุนสร้างท่าเรืออีก 1 แห่งที่สถานกาสิโของลาว เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ “นักท่องเที่ยว” ซึ่งรองเจ้าแขวงบ่อแก้วกล่าวว่า ยินดีต้อนรับความคิดอันนี้และจะนำไปหารือกับรัฐบาลกลางเพื่อขอคำชี้แนะต่อไป

อย่างไรก็ตามรองเจ้าแขวงบ่อแก้วกล่าวว่า ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติจากหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เข้าลงทุนในแขวงนี้มากขึ้นทุกวัน แต่ปรากฏว่าที่ผ่านมามีนักลงทุนจากไทยน้อยมาก

หกเดือนแรกของปีนี้มีนักลงทุนจากไทยเพียง 1 รายเข้าลงทุนเปิดร้านอาหารในเมืองห้วยทราย เทียบกับการลงทุนจากต่างประเทศที่มีมูลค่ารวมประมาณ 1.9 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดือนเดียวกัน ทั้งนี้เป็นตัวเลขอย่างเป็นทางการ
<bR><FONT color=#cc00CC>วงประชุมสัมมนาโดยผู้ทรงคุณวุฒิทั้งไทยและลาวพูดถึงทั้งปัญหา พร้อมข้อเสนอวิธีการแก้ปัญหาในความร่วมมือสองฝ่าย เอกอัครราชทูตไทยประจำลาวนายวิบูลย์ คูสกุล (ที่สามจากซ้าย) เจ้าของวาทะ สะพานไม่ใช่ของฟุ่มเฟือย มีสะพานมิตรภาพผุดขึ้นที่ไหน การค้าขายเฟื่องฟูที่นั่น </FONT></bR>
รองเจ้าแขวงกล่าวว่ายินดีต้อนรับนักลงทุนจากไทยเข้าลงทุนในแขนงที่มีศักยภาพต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ แขนงผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำ ซึ่งในปัจจุบันกำลังมีการสำรวจโครงการเขื่อนผลิตไฟฟ้าใหญ่น้อยกั้นลำน้ำต่างๆ 3-4 โครงการ และยังเหลืออีกจำนวนเท่าๆ กันที่มีศักยภาพสามารถเข้าลงทุนได้

แขวงบ่อแก้วยังมีแร่ธาตุล้ำค่าทางเศรษฐกิจหลายนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ "แก้วประเสริฐ" (Sapphire) ที่พบมาก รวมทั้งทองคำ แมงกานีสและแร่เหล็ก ปัจจุบันนักลงทุนจากจีนกำลังทำการสำรวจหลายโครง

แขวงบ่อแก้วยังมีศักยภาพอย่างสูงด้านการท่องเที่ยว ซึ่งกว่า 10 ปีมานีได้เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของนักท่องเที่ยวต่างชาตินับปีละแสนคน ที่เดินทางผ่านภาคเหนือของไทยไปยังเมืองมรดกโลกหลวงพระบาง โดยทางเรือ และ ยังเป็นจุดเริ่มอีกแห่งหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าไปยังมณฑลสิบสองปันนากับมณฑลหยุนหนันของจีน ซึ่งจะสามารถเดินทางต่อไปได้ยังทุกปลายทางในแผ่นดินใหญ่จีน

ในช่วงหกเดือนต้นปีนี้ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและจากประเทศตะวันตกต่างๆ เดินทางเข้าลาวผ่านท่าเรือห้วยทรายกว่า 80,000 คน รองเจ้าแขวงบ่อแก้ว กล่าวกับคณะของไทยที่ไปเยือน

ผู้ประกอบการท่องเที่ยว เจ้าของร้านจำหน่ายตั๋วเรือด่วนห้วยทราย-หลวงพระบาง ที่บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองกล่าวว่า ปีนี้นักท่องเที่ยวหายไป 40-50% อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจโลก การแพร่ระบาดของของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่
<bR><FONT color=#cc00CC>ภาพถ่ายวันที่ 23 มิ.ย.2552 ณ ที่ทำการแขวงบ่อแก้ว จากขวาไปซ้าย ศ.ดร.บ่อแสงคำ วงดาลา ประธานสมาคมลาวไทยเพื่อมิตรภาพ สุภาพสตรีที่ไม่ทราบชื่อกับรองเจ้าแขวงบ่อแก้ว ดร.วีระพงษ์ รามางกูร นายกสมาคมไทยลาวเพื่อมิตรภาพ นายคำพัน สิมมาลาวง อดีตเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย รองประธานสมาคมฯ ท่านเหล่านี้อยู่เบื้องหลังความสัมพันธ์อันดีสองฝั่งโขง </FONT></bR>
<bR><FONT color=#cc00CC>ใครเป็นใคร? ภาพถ่ายวันที่ 23 มิ.ย.2552 จากซ้ายไปขวา-- นายสุกกะเสิม โพทิสาน รองประธานองค์การบริหารการท่องเที่ยวลาว นายกิดสะหนา วงไซ ประธานสภาหอการคาและอุตสาหกรรมลาวและประธานบริษัทเบียร์ลาว เอกอัครราชทูตลาวประจำไทย ดร.อ้วน พมมะจัก </FONT></bR>
ในช่วงเดือนแห่งโลว์ซีวันนี้ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าที่ด่านเมืองห้วยทรายวันละ 80-100 คน เทียบกับวันละ 180-200 คน ในช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว

"ความไม่สงบทางการเมืองในประเทศเพื่อนบ้าน มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของลาวทางนี้ด้วย เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางผ่านประเทศไทย" เจ้าของร้านกล่าว

วีระพงษ์ได้นำคณะสมาคมไทยลาวเพื่อมิตรภาพเกือบ 200 คน ไปเยือนสันถวะไมตรี แขวงบ่อแก้ว เป็นเวลา 1 วัน เพื่อทัศนะศึกษาและแสวงหาข้อมูลจากทางการท้องถิ่นเกี่ยวกับการค้า การลงทุนตลอดจนความร่วมมือด้านต่างๆ ระหว่างไทยกับลาว

สมาคมดังกล่าวได้จัดประชุมใหญ่ประจำปีขึ้นใน จ.เชียงราย รวมทั้งประชุมร่วมกับสมาคมของฝ่ายลาวด้วย

ศ.ดร.บ่อแสงคำ วงดาลา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแถลงข่าวและวัฒนธรรม สปป.ลาว ในฐานะประธานสมาคมลาวไทยเพื่อมิตรภาพ ได้นำคณะบริหารของสมาคมเดินทางไปร่วมการประชุมอย่างพร้อมหน้า
<bR><FONT color=#cc00CC>หน้าตาของเครื่อง ATM แบงก์การค้าต่างประเทศลาวเป็นแบบนี้ ..แบงก์ใหญ่ก็ไปที่นั่นแล้ว กาสิโนใหญ่ก็กำลังจะผุดขึ้นมารอรับสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 การขนส่งสินค้าข้ามแดนทางบกก็จะเฟื่องฟูติดตามมา</FONT></bR>
<bR><FONT color=#cc00CC>ภาพถ่ายวันที่ 23 มิ.ย.2552 เค้าน์เตอร์จำหน่าย ปี้เฮือด่วน และเรือหวานเย็นไปหลวงพระบาง ปี้รถโดยสาร ไปชายแดนจีนยังอยู่ที่นั่น การท่องเที่ยวมีขึ้นมีลง แต่เศรษฐกิจยังต้องพัฒนาต่อไป อะไรๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยกระทบถึงผู้คนฝั่งนี้อย่างไม่มีทางเลี่ยง </FONT></bR>
เข้าร่วมการประชุมยังรวมทั้ง นายวิบูลย์ คูสกุล เอกอัครราชทูตไทยประจำลาว กับ นายอ้วน พมมะจัก เอกอัครราชทูตลาวประจำไทยด้วย

แม้จะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในขอบเขตทั่วโลกตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว แต่สภาพการณ์ทั่วไปของเมืองห้วยทรายได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก มีร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม และ เรือนพัก เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตามสองฝั่งถนนสายหลักที่ผ่านบริเวณท่าเรือ

ปัจจุบันธนาคารการค้าต่างประเทศ ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ที่สุดของลาวได้ปิดสาขาให้บริการรวมทั้งเปิดตู้เอทีเอ็มให้บริการที่หน้าสำนักงานใกล้กับท่าเรือ รวมทั้งให้บริการแลกเปลี่ยน ฝากและโอนเงินสกุลต่างๆ เป็นครั้งแรก

ธนาคารพงสะหวัน ซึ่งเป็นธนาคารที่เอกชนเป็นเจ้าของ 100% แห่งแรกของลาวก็ได้สาขาให้บริการเป็นครั้งแรกในรอบปีเศษที่ผ่านมานับตั้งแต่เดือน มี.ค.2551 ขณะที่ไทยและลาวกำลังคอยการก่อสร้างสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ซึ่งจะอยู่ห่างจากท่าเรือลงไปทางทิศใต้ราว 2 กิโลเมตร
<bR><FONT color=#cc00CC>ภาพถ่ายวันที่ 23 มิ.ย.2552 - อายุเป็นเพียงตัวเลข (จริงๆ) คณะสมาคมไทยลาวเพื่อมิตรภาพซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นผู้อาวุโสขึ้นจากเรือข้ามฟากที่เมืองท่าทราย เยือนแขวงบ่อแก้วของลาว </FONT></bR>
<bR><FONT color=#cc00CC>ภาพถ่ายวันที่ 23 มิ.ย.2552 คณะสมาคมไทยลาวเพื่อมิตรภาพกว่า 100 คนทะยอยขึ้นฝั่งที่เมืองห้วยทราย เยือนแขวงบ่อแก้ว เพื่อหาข้อมูลชั้นต้นเกี่ยวกับการลงทุน การแลกเปลี่ยนศิลปะวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-ลาว </FONT></bR>
สะพานมิตรภาพแห่งใหม่นี้อาจจะแล้วเสร็จและเปิดใช้พร้อมๆ กับ “สะพานมิตรภาพ 3” (นครพนม-ท่าแขก) ซึ่งจะทำให้การขนส่งสินค้ากับการเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างประชาชนในอนุภูมิภาคนี้คึกคักยิ่งขึ้น เช่นเดียวกันกับความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนความรู้ความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ

ปัจจุบันไทยและลาวได้สร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแล้วเสร็จจำนวน 2 แห่งคือ ช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์ กับ มุกดาหาร-สะหวันนะเขต และ กำลังจะเริ่มก่อสร้างสะพานแห่งที่ 3 กับแห่งที่ 4 หลังจากฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามรรถตกลงกันได้เกี่ยวกับทุนที่จะใช้ดำเนินการ

"หลายคนอาจจะมองสะพานเป็นของฟุ่มเฟือย.." เอกอัครราชทูตไทยประจำนครเวียงจันทน์ กล่าวระหว่างการประชุมสัมมนาเร่งถนนสายอา 3 กับโอกาสของนักลงทุนไทย-ลาว ที่จัดใน จ.เชียงรายหนึ่งวันก่อนหน้านั้น

"แต่ไม่ใช่.. ทุกๆ ที่ที่สร้างสะพานขึ้นมา ตัวเลขการค้าขายได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในหลายปีมานี้" เอกอัครราชทูตไทยกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น