xs
xsm
sm
md
lg

สื่อเขมรปลื้มไม่หายทหารไทยขอโทษ “ฮุนเซน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=660099> ภาพ Reuters วันที่ 20 ก.พ.2552 สมเด็จฯ ฮุนเซน ยิ้มกริ่มอย่างยินดี ขณะที่ พล.อ.จีระเดช คชรัตน์ รอง ผบ.ทบ.ของไทย สัมผัสมือกับ พล.อ.เจียสะวอน (Chea Savorn) รองผู้บัญชาการกองทัพกัมพูชา หลังจากมอบสาสน์ฉบับหนึ่งที่ พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ส่งถึงผู้นำกัมพูชา ไม่มีการเปิดเผยเนื้อหาในสาสน์ดังกล่าว แต่สื่อในประเทศนี้รายงานอย่างครึกโครมว่า สมเด็จฯ ฮุนเซนได้ยอมรับคำขอโทษจากฝ่ายทหารของไทย  </FONT></CENTER>
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- เวลาผ่านไปข้ามสัปดาห์สื่อต่างๆ ในกัมพูชายังคงทยอยออกบทวิจารณ์อย่างต่อเนื่อง เป็นการตามต่อการเสนอข่าวและรูปภาพอึกทึกครึกโครมในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากรองผู้บัญชาการทหารบก กับแม่ทัพกองทัพภาคที่ 2 ของไทย นำคณะเดินทางไป “ขอโทษ” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กรณีทหารไทยยิงปืนใหญ่โจมตีที่ตั้งฝ่ายกัมพูชาที่ชายแดนด้าน จ.สุรินทร์

“นายกรัฐมนตรี สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุนเซน ได้ยอมรับการขอโทษจากฝ่ายไทย..” สำนักข่าวเอเคพี (Agene Kampuchean-Presse) กล่าวในวันอังคารนี้

พล.อ.จีระเดช คชรัตน์ รองผู้บัญชาการทหารบก พล.ท.วิบูลศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาค 2 กับ พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 (กองกำลังสุรนารี) ได้เข้าเยี่ยมคำนับ สมเด็จฯ ฮุนเซน ในกรุงพนมเปญเมื่อวันศุกร์ (20 ก.พ.) และได้ขอโทษต่อกรณีดังกล่าว พร้อมยื่นสาสน์ฉบับหนึ่งจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาหารทหารบกของไทยต่อผู้นำกัมพูชา

อย่างไรก็ตาม แม้สมเด็จฯ ฮุนเซน จะยอมรับคำขอโทษ แต่ได้ขอให้ฝ่ายไทยสอบสวนเรื่องนี้ ถึงแม้ว่านายทหารระดับสูงของไทยจะอธิบายว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจก็ตามที่ เอเคพี กล่าว

ก่อนหน้านั้น วันที่ 18 ก.พ. แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ก็ได้มีสาส์นฉบับหนึ่งส่งถึง แม่ทัพภาคที่ 4 ของกัมพูชาที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ ขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
<CENTER><FONT color=660099> ภาพ Reuters  วันที่ 20 ก.พ.2552 สมเด็จฯ ฮุนเซน ให้สัมภาษณ์หลังการเข้าพบของคณะนายทหารระดับสูงจากประเทศไทยเพื่อขอโทษกรณีที่ทหารไทยยิงจรวด 106 มม.จำนวน 6-8 ลูกข้ามแดนเข้าไปในกัมพูชา ระหว่างการซ้อมรบเมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้วที่ชายแดนด้านปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ </FONT></CENTER>
“ฝ่ายไทยได้ขอโทษและสัญญาว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก” สมเด็จฯ ฮุนเซน ให้สัมภาษณ์หลังการต้อนรับคณะทหารระดับสูงจากไทย

เหตุเกิดวันที่ 17 ก.พ.ทหารไทยที่กำลังปฏิบัติการซ้อมรบตามปกติในบริเวณชายแดนด้านปราสาทตากะเบย (Ta Kabey) หรือ “ตาควาย” จ.สุรินทร์ ได้ยิงจรวด 106 มม.จำนวน 6-8 ลูก ข้ามแดนลึกเข้าไปในกัมพูชาถึง 2.4 กิโลเมตรใน จ.อุดรมีชัย (Oddar Meanchey)

คณะนายทหารของไทยได้บอกกับผู้นำกัมพูชาเหตุการณ์ดังกล่าวเป็น “อุบัติเหตุ” เอเคพีกล่าว

“จรวดลูกเดียวไม่มีปัญหา.. แต่มันไม่ใช่ลูกเดียว มันมีลูกที่สองและลูกที่สามไปตกในดินแดนกัมพูชา” สมเด็จฯ ฮุนเซนกล่าวกับผู้สื่อข่าว
<CENTER><FONT color=660099> สมเด็จฯ ฮุนเซน สัมผัสมือ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาค 2 ของไทย โดย</FONT><FONT color=FF0000> รอง ผบ.ทบ.</FONT><FONT color=660099> พล.อ.จีระเดช คชรัตน์ ยืนอยู่เบื้องหลังระหว่างเข้าเยี่ยมคำนับ ผู้นำกัมพูชาในกรุงพนมเปญ สื่อกัมพูชาเผยแพร่ข่าวและภาพเหตุการณ์อย่างครึกโครม ภาพ Reuters วันที่ 20 ก.พ.2552 </FONT></CENTER>
<CENTER><FONT color=660099> ภาพ Reuters ถ่ายวันที่ 20 ก.พ.2552 นายกรัฐมนตรี สมเด็จฯ ฮุนเซน สัมผัสมือกับ พล.ท.ดุสิต เครือใหญ่ หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายติดต่อประสานงานของไทย ระหว่างให้การต้อนรับในกรุงพนมเปญ  </FONT></CENTER>
รองผู้บัญชาการกองทัพกัมพูชา พล.ท.อาวุโสกุนกิม (Kun Kim) กล่าวว่า การตรวจสภาพได้พบเศษระเบิดกระจัดกระจาย ในท้องที่ อ.บันเตียอัมปึล (Banteay Ampil) จ.อุดรมีชัย จึงเชื่อว่า เป็นการระเบิดของจรวดขนาด 106 มม.แต่โชคดีที่ไม่มีบ้านเรือนราษฎรอยู่ในจุดที่เกิดเหตุ

สื่อต่างๆ ในกรุงพนมเปญ ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ ได้เผยแพร่ข่าวการขอโทษของฝ่ายไทยอย่างอึกทึกครึกโครม ในช่วงสุดสัปดาห์และวันจันทร์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์บางฉบับที่เฝ้าติดตามการซ้อมรบของกองทัพไทยที่ชายแดนด้านนั้นมาตลอด ได้กล่าวว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่เคยคาดเอาไว้

หนังสือพิมพ์บางฉบับเคยรายงานว่า การซ้อมรบประชิดเขตแดนปราสาทตากะเบย (Ta Kabey) อาจจะเป็นแผนเตรียมรุกรานและยึดครองดินแดนกัมพูชา
กำลังโหลดความคิดเห็น