ทนพิษสงครามไม่ไหว ทหารสหรัฐฯฆ่าตัวตายเพิ่มมากขึ้น

เอเอฟพี - การฆ่าตัวตายในหมู่ทหารทำสถิติเพิ่มสูงขึ้น กองทัพสหรัฐฯรายงาน พร้อมกับยอมรับว่า ความเครียดกับสงครามเป็นปัจจัยหลัก

จำนวนทหารที่ฆ่าตัวตายใน ปี 2008 เพิ่มสูงขึ้นจนเป็น 143 ราย จาก 115 ราย ในปี 2007

“ในจำนวนนี้ยืนยันว่า เป็นการฆ่าตัวตาย 128 คน ขณะที่อีก 15 รายกำลังสอบสวนหาการตัดสินใจ” ร้อยโทมิแชลล์ มาร์ติน ฮิง เผย

ยอดรวมในแต่ละปีของ 4 ปีที่ผ่านมา เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่สงครามในอิรักและอัฟกานิสถานหนักหน่วงขึ้น กองทัพระบุ

“ทำไมตัวเลขเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ” พีท เกเรน เลขาธิการของกองทัพถูกถามและเขาตอบว่า “เราไม่รู้”

เจ้าหน้าที่กองทัพ กล่าวว่า ไม่มีเพียงปัจจัยเดียวที่จะอธิบายการฆ่าตัวตายที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม พลเอก ปีเตอร์ เชียเรลลี รองผู้บัญชาการกองทัพเชื่อมโยงการเพิ่มกับการประจำการที่ยาวนานและปฏิบัติการซึ่งทำให้ทหารและครอบครัวเกิดความเครียด

“ในใจผมไม่สงสัยเลยว่า ความเครียดเป็นปัจจัยหนึ่งในแนวโน้มที่เรากำลังเห็นนั้น”

สถิติของกองทัพ พบว่า ในจำนวนผู้ที่ฆ่าตัวตายเมื่อปีที่แล้ว มี 30 เปอร์เซ็นต์ฆ่าตัวตายในระหว่างประจำการ โดยมากกว่า 3 ใน 4 อยู่ในระหว่างการประจำการครั้งแรก ขณะที่ราว 35 เปอร์เซ็นต์ไม่เคยประจำการมาก่อน ขณะที่อีก 35 เปอร์เซ็นต์ฆ่าตัวตายหลังจากการประจำการ โดยส่วนใหญ่เป็นหลังจากกลับบ้านมาแล้วมากกว่า 1 ปี

ทั้งนี้ สถิติการฆ่าตัวตายของทหารเมื่อปีที่แล้วเพิ่มเป็น 20.2 ต่อ 100,000 คน เกินอัตราการฆ่าตัวตายโดยเฉลี่ยของประชากร ที่ 19.5 ต่อ 100,000 คน ในปี 2005 ซึ่งเป็นปีล่าสุดที่บันทึกไว้

กองทัพสหรัฐฯได้ตอบสนองกับปัญหาด้วยการจัดโครงการป้องกันการฆ่าตัวตายมากขึ้น โดยพยายามคัดกรองทหารจากการตรวจสุขภาพจิต รณรงค์ให้ลดตราบาปที่กีดกันพวกเขาไปหาทางรักษา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชี้ว่า ไม่แน่ชัดว่าพวกเขาทำได้ดีแค่ไหน