ASTVผู้จัดการรายวัน -- สายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ ได้สั่งพักงานนักบินทั้งสามคนของเที่ยวบินจากฮ่องกงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากยังไม่สามารถหาเจ้าของทองคำน้ำหนัก 6.4 กก.ที่อยู่ในห้องนักบินได้ ทั้งหมดกำลังจะถูกสอบสวนเครียด หากไม่สามารถพิสูจน์ได้โทษไล่ออกสถานเดียวเท่านั้น
บุคคลทั้งสาม คือ นายเชราร์ด โกลานาวสกี (Gerard Kolanowski) นักบินชาวโปแลนด์ นายจิ่งก๊วกเจียน (Trinh Quoc Chien) นักบินผู้ช่วย กับนายเหวียนแทงจุง (Nguyen Thanh Trung) นักบินฝึกหัด
เจ้าหน้าที่ศุลกากรที่ท่าอากาศยานโนยบ่าย (Noi Bai) ได้พบทองกับเครื่องประดับเพชรพลอยทั้งหมดวางอยู่บนเก้าอี้ของ นายก๊วกเจียน หลังเครื่องแอร์บัส A330 ลงจอดที่ท่าอากาศยานโนยบ่าย (Noi Bai) กรุงฮานอย
เหตุเกิดวันพุธที่ 11 ก.พ.บนเที่ยวบิน VN791 ที่มีต้นทางจากเขตปกครองพิเศษฮ่องกงและ ลงจอดที่ท่าอากาศยานกรุงฮานอย เวลา 15:40 น.วันเดียวกัน หลังการค้นพบทองคำกับสิ่งของดังกล่าว บรรดานักบิน นักบินผู้ช่วย และลูกเรืออีก 7 คน ถูกเรียกตัวกลับไปยังท่าอากาศยานอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ปากคำ
ทั้ง 7 คนปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นกับสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่ทราบผู้ใดเป็นเจ้าของ ตลอดจนไม่สามารถอธิบายได้ว่าทองกับเครื่องประดับสูงค่าไปอยู่บนเก้าอี้นักบินผู้ช่วยในห้องนักบินได้อย่างไร
เจ้าหน้าที่องค์การท่าอากาศยานภาคเหนือ ซึ่งรับผิดชอบท่าอากาศยานโนยบ่าย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ศุลกากรคงจะได้ทราบเบาะแส จึงขึ้นไปบนเครื่องทันทีหลังเครื่องบินจอดและผู้โดยสารออกไปจนหมดแล้ว ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์แทงเนียน
สายการบินแห่งชาติเวียดนาม ได้ออกคำแถลงฉบับหนึ่งวันเดียวกัน กล่าวว่า จะดำเนินมาตรการอันเหมาะสมต่อพนักงานของบริษัทที่พบว่า มีส่วนร่วมในกรณีนี้ ซึ่งตามกฎแล้วผู้โดยสารไม่สามารถนำทองคำ หรือเครื่องประดับเพชรพลอยที่มีมูลค่าเกิน 5 ล้านด่ง หรือ 287 ดอลลาร์เข้าประเทศ หากมากกว่านั้นจะต้องมีใบอนุญาตนำเข้า
สายการบินเวียดนามอนุญาตให้นักบินกับลูกเรือทั่วไปสามารถนำสินค้า รวมทั้งทองคำเข้าเวียดนามได้เดือนละ 1 ครั้ง และจำกัดมูลค่าเอาไว้ที่ 5 ล้านด่ง เช่นเดียวกัน นอกจากนั้นยังมีกฎที่บริษัทห้ามลูกเรือออกจากเครื่องบินที่ท่าอากาศยานฮ่องกงอีกด้วย
ในเดือน พ.ค.2545 เจ้าหน้าที่ศุลกากรที่ท่าอากาศยานกรุงฮานอย ได้พบโทรศัพท์มือถือเกือบ 400 เครื่อง กับทองคำน้ำหนักราว 7 กก.บนเครื่องสายการบินเวียดนามที่ไปจากนครรัฐดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พนักงานบริการบนเครื่องจำนวน 5 คน ถูกตั้งขอหาร่วมกันลักลอบขนเครื่องโทรศัพท์มือถือเข้าประเทศ แต่ยังหาเจ้าของทองคำไม่พบ
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่การท่าอากาศยาน สันนิษฐานว่า เป็นไปได้ที่อาจจะมีคนบางคน พยายามขนวัตถุล้ำค่าทั้ง 6.4 กิโลกรัม ไปกับบนเที่ยวบิน VN791 และ ได้ตัดสินใจทิ้งไปเมื่อเชื่อว่าไม่สามารถจะนำผ่านการตรวจค้นของศุลกากรไปได้
สิ่งของทั้งหมดถูกนำไปเก็บที่หน่วย A17 กระทรวงรักษาความสงบภายใน เพื่อสอบสวนสืบสวนหาที่มาที่ไป สำนักข่าวทางการเวียดนามรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี
ยังไม่มีคำอธิบายจากการท่าอากาศยานฮ่องกง ว่า ทองคำน้ำหนักขนาดนั้นสามารถเล็ดลอดสายตาเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองออกนอกเขตปกครองได้อย่างไร