ASTVผู้จัดการรายวัน -- หน่วยศุลกากรที่ท่าอากาศยานโนยบ่าย (Noi Bai) กรุงฮานอยได้ค้นพบทองคำน้ำหนัก 6.4 กิโลกรัม บนเที่ยวบิน VN791 สายการบินเวียดนามจากฮ่องกง โดยหาเจ้าของไม่เจอ เจ้าหน้าที่ได้จับยึดทองคำทั้งหมดเอาไว้เป็นของเถื่อน ที่มีผู้พยายามลักลอบขนเข้าประเทศ
ทองคำทั้งหมดถูกนำไปเก็บที่หน่วย A17 กระทรวงรักษาความสงบภายใน เพื่อสอบสวนสืบสวนหาที่มาที่ไป สำนักข่าวทางการเวียดนามรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีนี้
เครื่องแอร์บัส A330 เที่ยวบินดังกล่าวบินขึ้นจากท่าอากาศยานเช็กลาบกอก (Chek Lap Kok) เขตปกครองพิเศษฮ่องกง และลงจอดที่ท่าอากาศยานกรุงฮานอย เวลา 15:40 น.วันพุธ (11 ม.ค.) ทองคำทั้งหมดถูกค้นพบอยู่บนที่นั่งของนักบินผู้ช่วยในห้องนักบิน ซึ่งในห้องนั้นมีนักบินที่เป็นชาวโปแลนด์ กับนักบินผู้ช่วยที่เป็นชาวเวียดนาม อีก 2 คน
หลังจากมีการค้นพบทองคำทั้งหมด บรรดานักบิน นักบินผู้ช่วย และลูกเรืออีก 7 คน ต้องถูกเรียกตัวกลับไปยังท่าอากาศยานอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ปากคำ ซึ่งจนกระทั่งวันพฤหัสบดีนี้ก็ยังไม่มีผู้ใดอ้างเป็นเจ้าของ
นายเหวียนนามเซิน (Nguyen Nam Son) รองเลขาธิการคณะกรรมการการท่าอากาศยานภาคเหนือที่รับผิดชอบท่าอากาศยานโนยบ่ายบอกกับสำนักข่าวเวียดนามเน็ต ว่า เป็นไปได้ที่เจ้าของทอง เกรงว่า จะไม่สามารถผ่านการตรวจค้นของศุลกากรไปได้ จึงแอบนำเอาทองทั้งหมดไปไว้ในห้องนักบิน เพื่อให้พ้นผิด
แต่ยังไม่มีผู้ใดสามารถอธิบายได้ว่าหากเหตุการณ์เป็นเช่นนั้น จะเกิดขึ้นได้ในช่วงเวลาใด ขณะที่โฆษกสายการบนเวียดนาม กล่าวว่า ยังไม่ทราบอะไรเกี่ยวกับเรื่องราวอื้อฉาวดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ ในวันที่ 16 พ.ค.2545 หรือเมื่อเกือบเจ็ดปีก่อนเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่ท่าอากาศยานโนยบ่าย เคยตรวจพบทองคำน้ำหนัก 7 กก.ที่ไปกับเที่ยวบินสายการบินเวียดนามจากดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
การพบทองคำบนเครื่องบินในครั้งนั้น มีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ศุลกากร ได้พบว่า มีรถเข็นขยะจากเที่ยวบินดังกล่าวเพียง 29 คัน จากทั้งหมด 30 คัน ไม่ได้กลับไปยังบริเวณที่จอดเก็บ การตรวจค้นในเวลาต่อมาได้พบเครื่องประดับเพชรพลอยจำนวนมากในรถขยะ
กรณีล่าสุดนี้ยังไม่มีคำอธิบายจากการท่าอากาศยานฮ่องกง ว่า ทองคำน้ำหนักขนาดนั้นสามารถเล็ดลอดสายตาเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองออกนอกเขตปกครองได้อย่างไร
สายการบินเวียดนามมีเรื่องอื้อฉาวเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง ก่อนหน้านี้ ในเดือน ธ.ค.2551 เจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการญี่ปุ่น ได้จับกุมนักบินของสายการบินเวียดนามคนหนึ่งฐานต้องสงสัยเป็นสมาชิกขบวนการค้าของเถื่อนเข้าประเทศ ต่อมาได้มีการสอบปากคำเจ้าหน้าที่สายการบินเวียดนามประจำสำนักงานในญี่ปุ่นอีกหลายแห่งทั้งที่ท่าอากาศยานาริตะ นครโฮซากา และที่เมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka)
นักบินคนดังกล่าวได้ถูกไล่ออกจากการเป็นพนยักงานของสายการบินแห่งชาติเวียดนามในเวลาต่อมา หลังการสอบสวนพบว่าได้กระทำผิดจริง
ในเดือน พ.ค.2551 เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นได้จับกุม นายเจิ่นแทงฟง (Tran Thanh Phong) พนักงานบริการชายบนเครื่อง ประจำเที่ยวบิน VN950 นครโฮจิมินห์-กรุงโตเกียว ข้อหาละเมิดระเบียบศุลกากรของญี่ปุ่น นำสินค้าหลายรายการเข้าประเทศ ซึ่งนำไปสู่การตรวจค้น สอบสวนและจับกุมนักบินของงสายการบินนี้ในที่สุด
สจ๊วร์ตการบินเวียดนามถูกปรับ และศุลกากรญี่ปุ่นได้จับยึดสินค้าทั้งหมด ก่อนจะปล่อยตัวในเวลาต่อมาแต่เจ้าตัวต้องพ้นจากการเป็นพนักงานสายการบินแห่งชาติ
ก่อนหน้านั้น ในเดือน เม.ย.การบินเวียดนามได้ลงโทษไล่ออกนายลายก๊วกเหวียด (Lai Quoc Viet) นักบิน ซึ่งต้องสงสัยพัวพันกับกรณีฟอกเงินและค้ายาเสพติดในออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบการโอนเงินจำนวนมหาศาลระหว่างออสเตรเลียกับเวียดนาม ผ่านบัญชีของนักบินผู้นี้
ก่อนหน้านั้นไม่นาน นายเจิ่นดีงด่าง (Tran Dinh Dang) นักบินอีกคนหนึ่งถูกจับในออสเตรเลีย หลังเจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจพบเงินสดติดตัวกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ศาลออสเตรเลียได้พบว่า นายด่าง ขนเงินออกนอกประเทศอย่างผิดกฎหมายระหว่างออสเตรเลียกับเวียดนาม รวมเป็นเงิน 6.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
ไม่เฉพาะแต่กรณีอื้อฉาวเกี่ยวกับพนักงานเท่านั้น ปีที่แล้วยังเกิดความไม่ปกติอื่นๆ อีกหลายกรณีเกี่ยวกับการบินแห่งชาติเวียดนาม ในเดือน ม.ค.เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานกรุงฮานอยตรวจพบงูเป็นๆ รวมน้ำหนักกว่าหนึ่งตันบนเครื่องแอร์บัส A320 การบินเวียดนามที่บินขึ้นจากต้นทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย