xs
xsm
sm
md
lg

คุ้ย ผบ.ตร.เขมรจอมโหด "โปลโป้ท" เรียกพี่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#FF0000> ภาพจากแฟ้มขององค์การสิทธิมนุษยชนเหตุการณ์คนร้ายปาระเบิด ใส่กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคฝ่ายค้านที่เดินขบวนบริเวณหน้ารัฐสภาในกรุงพนมเปญ เดือน มี.ค.2540 มีผู้เสียชีวิตกว่า 10 คน อีกหลายสิบคนได้รับบาดเจ็บ นับเป็นรอยด่างสำคัญในการเมืองกัมพูชา เชื่อกันว่าเป็นฝีมือของ พล.อ.ฮ๊อกลุนดี </FONT></CENTER>

ผู้จัดการออนไลน์-- น้ำลดตอผุดองค์กรสิทธิมนุษยชนและสื่อในกัมพูชาได้ออกเปิดเผยเรื่องราวต่างๆ ในอดีตของ พล.อ.ฮ๊อก ลุนดี (Hok Lundy) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่เพิ่งถึงแก่กรรมในอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกตอนค่ำวันอาทิตย์ (9 พ.ย.) ที่ผ่านมา

นักสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า ผบ.ตร.ที่ล่วงลับ ไม่ได้ต่างไปจากอดีตผู้นำเขมรแดงนัก และที่สำคัญคือเลือดเย็นกว่า

พล.อ.ลุนดีเป็นหนึ่งในบรรดาผู้มีอำนาจมากที่สุดในพรรคประชาชนปฏิวัติกัมพูชาของสมเด็จฯ ฮุนเซน ไม่เพียงแต่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดบุคคลทั้งสองยังเกี่ยวดองกันโดยฮุนมานิต (Hun Manit) บุตรชายคนที่สองของนายกรัฐมนตรี แต่งงานกับฮ๊อกจินดาวี (Hok Chindavy) ธิดาของ ผบ.ตร.

สำหรับองค์กรสิทธิมนุษยชนแล้ว พล.อ.ลุนดีมีประวัติด่างพร้อยมากที่สุด ในปี 2549 รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ขึ้นบัญชีดำ ห้าม ผบ.ตร.เขมรเดินทางเข้าประเทศ โดยตั้งข้อสงสัยว่าพัวพันกับการค้าเด็กและสตรีรวมทั้งการค้ายาเสพติด

เจ้าตัวได้ออกยอมรับเรื่องบัญชีดำในการให้สัมภาษณ์วิทยุเสียงอเมริกาในเดือน ก.พ. 2549 หลังจากพยายามเดินทางไปร่วมประชุมตำรวจระหว่างประเทศนัดหนึ่งในสหรัฐฯ แต่ไม่สำเร็จ แต่ก็ระบุว่าเป็นเรื่องที่เกิดจากความเข้าใจผิด
<CENTER><FONT color=#FF0000>ภาพจากแฟ้มสำนักข่าวเอเอฟพี พล.อ.ฮ๊อก ลุนดี ใหญ่คับฟ้าเกี่ยวดองกับสมเด็จฯ ฮุนเซน ผู้มีอำนาจมากที่สุดในประเทศ แต่ก็จบชีวิตลงอย่างไม่ธรรมดาวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงสาปส่งของนักสิทธิมนุษยชน </FONT></CENTER>
ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ในเดือน มี.ค.ปีเดียวกัน สำนักงานสอบสวนสืบสวนกลางสหรัฐฯ หรือเอฟบีไอ ได้ประกาศมอบเหรียญเชิดชูเกียรติให้แก่ ผบ.ตร.เขมร ตอบแทนความพยายามในการร่วมมือต่อต้านการก่อการร้าย

และเมื่อปีที่แล้ว พล.อ.ลุนดี ก็ได้รับวีซ่าเชื้อเชิญให้ไปร่วมการประชุมต่อต้านการก่อการร้ายระหว่างประเทศในนครนิวยอร์ก

ปัจจุบันเอฟบีไอเข้าไปตั้งสำนักงานในกรุงพนมเปญ และมีโครงการช่วยเหลือฝึกอบรมบุคคลากรด้านการสอบสวนสืบสวนให้แก่รัฐบาลกัมพูชาอีกด้วย

พล.อ.ลุนดีถึงแก่กรรมคืนวันอาทิตย์ด้วยวัย 58 ปี ในอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ที่เกิดขึ้นในเขต อ.รุมดวล (Rumduol) จ.สวายเรียง (Svay Rieng) ซึ่งเป็นบ้านเกิด

ผบ.ตร.เสียบชีวิตพร้อมกับ พล.ท.โสกสะแอม (Sok Sa Em) นายทหารระดับรองผู้บัญชาการกองทัพที่เป็นชาว จ.สวายเรียงเช่นกัน นักบินอีกสองนายเสียชีวิตทั้งหมด

กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆ รวมทั้งพรรคการเมืองฝ่ายค้านกล่าวหาว่า พล.อ.ลุนดีเป็นจอมโหด กระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงหลายต่อหลายครั้ง อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์สังหาร จับกุมคุมขัง และทรมาน ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองนับไม่ถ้วนในช่วงปีใกล้ๆ นี้

กลุ่มต่อต้านการค้ามนุษย์ตั้งข้อสงสัยว่า ผบ.ตร.อาจจะอยู่เบื้องหลังขบวนอันใหญ่โตในกัมพูชา ทุกครั้งที่หน่วยงานระหว่างประเทศร่วมกับกองตำรวจต่อต้านการค้ามนุษย์เข้าตรวจค้นและจับกุมตามสถานบันเทิงต่างๆ จะมีชายฉกรรจ์ตามไปช่วยเหลือผู้ประกอบการ

ในปี 2549 ชายฉกรรจ์หลายสิบคนกรูเข้าล้อมสำนักงานตำรวจต่อต้านการค้ามนุษย์ และแย่งชิงหญิงสาวกว่า 30 คนไปต่อหน้าต่อตา ทั้งหมดเป็นเหยื่อที่หน่วยงานระหว่างประเทศนำตัวออกไปจากโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองหลวง เพื่อเยียวยารักษาให้ความช่วยเหลือ

พล.อ.ลุนดี ปฏิเสธการกล่าวหาทั้งหมด และ ยืนยันไม่ได้ยุ่งเกี่ยวใดๆ กับขบวนการค้าหญิงในประเทศ

แต่นักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนผู้หนึ่งเขียนไว้บนเว็บบล็อกว่า "ต่างไปจากโปลโป้ท (พลพต-- อดีตผู้นำเขมรแดง) ซึ่งใช้ทหารทั้งกองยิงสังหารประชาชน การทรมานอย่างเป็นระบบในคุกตวลสแลง (Tuol Sleng)…”
<CENTER><FONT color=#FF0000> อีกฉากหนึ่งของเหตุการณ์ปาระเบิดเมื่อ 11 ปีก่อน ภาพนี้ยังคงตามหลอกหลอนผู้คนในประเทศ </FONT></CENTER>
“พลเอกลุนดีเลือดเย็นยิ่งกว่านั้น เขาสามารถยิงคนได้ริมถนนกลางวันแสกๆ ต่อหน้าต่อตาของผู้คน แล้วออกปฏิเสธว่าไม่ได้ยิง ไม่รู้ไม่เห็น โดยที่ไม่มีใครสนใจอีกต่อไป"

อีกคนหนึ่งกล่าวว่า ตำรวจภายใต้ พล.อ.ลุนดีอยู่เบื้องหลังการลักพาตัว และ การทรมาน การอุ้มฆ่าและการลอบสังหารนักร้องนักแสดงสาวหลายคนที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อกันว่าคนเหล่านั้น "สร้างปัญหา" ให้กับครอบครัวบรรดาผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคประชาชนกัมพูชา

ตามประวัติอย่างเป็นทางการ พล.อ.ลุนดี เกิดปี 2493 ได้พบกับนายฮุนเซนในเวียดนามในเมื่อปี 2522 หลังจากกองทัพเวียดนามบุกเข้าขับไล่รัฐบาลเขมรแดงและตั้งรัฐบาลใหม่ที่นำโดย เพ็ญสุวรรณ เฮงสัมริน เจียซิม และฮุนเซน ขึ้นในกรุงพนมเปญ

พล.อ.ลุนดี เติบใหญ่ขึ้นมาในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1980 เคยถูกส่งไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสวายเรียง จนกระทั่งได้ติดยศนายพลสี่ดาว ขึ้นเป็น ผบ.ตร.ในปี 2537

เมื่อนายฮุนเซนทำรัฐประหารยึดอำนาจปี 2540 พล.อ.ลุนดี ออกบัญชาการนำทหารและตำรวจคุ้มกันนายฮุนเซน เป็นกำลังหลักในการยึดอำนาจ ต่อสู้กับกองกำลังของฝ่ายฟุนซินเปก ที่นำโดย พล.อ.แญ็กบุนชัย (Nhiek Boun Chay) ที่เคยภักดีต่อกรมนโรดมพระรณฤทธิ์
<CENTER><FONT color=#FF0000>  ภาพจากแแฟ้ม-- นายสมรังสีซึ่งรอดชีวิตจากเหตุการณ์ ไปไว้อาลัยเหยื่อระเบิดที่อนุสรณ์สถานเป็นประจำทุกปี เวลาผ่านไปแล้ว 11 ปีเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ ทั้งๆ ที่มีประจักษ์พยานอย่างมากมาย </FONT></CENTER>
พล.อ.ฮ๊อก ได้รับฉายาเป็นบุคคลที่ "ไร้ความปราณี" ในการกำจัดคู่แข่งทางการเมือง เพื่อปกป้องชื่อเสียงของบรรดาผู้นำ

กลุ่มสิทธิมนุษยชน Human Rights Watch ที่มีสำนักงานใหญ่ในนครนิวยอร์ก กล่าวหาว่า ผบ.ตร.เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการปาระเบิดเข้าใส่กลุ่มฝ่ายค้านที่เดินขบวนในกรุงพนมเปญ ซึ่งทำให้นายเจียวิชา (Chea Vichea) ผู้นำสหภาพแรงงานเสียชีวิต นายสมรังสี ผู้นำพรรคฝ่ายค้านในปัจจุบันกับอีกนับสิบคนได้รับบาดเจ็บ

ตำรวจยังไม่สามารถจับผู้ร้ายได้จนกระทั่งบัดนี้

พล.ท.เฮงโปว์ (Heng Pov) อดีตหัวหน้าตำรวจกรุงพนมเปญเคยกล่าวหาว่า พล.อ.ลุนดี เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารกว่า 70 กรณี รวมทั้ง 7 กรณีบุคคลสำคัญ

ผบ.ตร.โต้ตอบกลับคืนว่า พล.ท.โปว์นั่นแหละตัวการอบู่เบื้องหลังอาชญากรรมใหญ่ในเมืองหลวง รวมทั้งการสังหารผู้พิพากษาคนหนึ่งด้วย
<CENTER><FONT color=#FF0000> พล.ท.เฮงโปว์ อดีต ผบ.ตร.กรุงพนมเปญ ซึ่งเป็นคู่ปรับสำคัญของ พล.อ.ลุนดี ถูกทางการมาเลเซียส่งตัวกลับประเทศ ถูกศาลติดสินจำคุกในเดือน ธ.ค.2549 และ ถูกกักขังในเรือนจำกรุงพนมเปญ ตัดขาดขารการติดต่อกับโลกภายนนอกมาตั้งแต่นั้น  </FONT></CENTER>
ปี 2549 พล.อ.ลุนดี สั่งกำลังตำรวจกว่า 100 นาย อาวุธครบมือ บุกรังหมายสังหาร พล.ท.เฮงโปว์ หลังจากถูกสมเด็จฯ ฮุนเซน ปลดจากตำแหน่ง แต่เจ้าตัวหลบหนีรอดหวุดหวิด เจ้าหน้าที่แถลงว่ายึดอาวุธสงครามได้จำนวนมาก พร้อมเงินสดหลายหมื่นดอลลาร์

พล.ท.โปว์ต้องเดินทางออกนอกประเทศไปยังมาเลเซียพยายามขอลี้ภัย และ ให้สัมภาษณ์ขู่ว่าจะเปิดโปงทุกสิ่งที่ทุกอย่างที่รู้เห็น ถ้าหากภรรยากับลูกๆ ที่ยังอยู่ในกัมพูชาถูกคุกคามได้รับอันตราย
หลายฝ่ายเชื่อว่าอดีตหัวหน้าตำรวจกรุงพนมเปญ เป็นผู้กุมความลับเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่นในหมู่เจ้าหน้าที่ระดับสูง รัฐบาลและพรรคประชาชนกัมพูชาและยังรู้ดีเบื้องหน้าเบื้องหลังเกี่ยวกับอาชญากรรมที่มีการจัดตั้งในเรื่องต่างๆ

แต่ทางการกัมพูชาได้กดดันทุกทางเป็นการภายใน ให้รัฐบาลมาเลเซียต้องส่งผู้ร้ายข้ามแดน และ เรื่องจบลงตรงที่มาเลเซียยกเลิกวีซ่าอดีต ผบ.ตร.กรุงพนมเปญ บังคับให้ขึ้นเที่ยวบินกลับบ้าน ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของสื่อตลอดจนองค์กรสิทธิมนุษยชนในประเทศนั้น

พล.ท.โปว์ ถูกตั้งสารพัดข้อหา ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลาหลายสิบปี ปัจจุบันกักขังในเรือนจำ ตัดขาดการสื่อสารกับโลกภายนอก

องค์การ Human Rights Watch เคยเรียก พล.อ.ลุนดีว่า "เป็นตัวแทนแห่งความเลวร้ายที่สุดเท่าที่จะมีได้ในกัมพูชา รองจากฮุนเซนนายใหญ่ของเขา"

ด้วยความเห็นชอบของนายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทยกัมพูชาโดย พล.อ.ซาร์เค็ง (Sar Kheng) รัฐมนตรีว่าการ ได้แต่งตั้งให้ พล.ท.เน็ธ สะเวือน (Neth Savoeun) รองคนหนึ่งของ พล.อ.ลุนดีขึ้นรักษาการ ผบ.ตร.ในวันจันทร์ผ่านมา

พล.ท.เน็ธ สาวูน สมรสกับหลานสาวคนหนึ่งของสมเด็จฯ ฮุนเซน จึงเป็นครอบครัวที่เกี่ยวดองกันอีกสายหนึ่งในหมู่ผู้นำระดับสูง.
กำลังโหลดความคิดเห็น