xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มสิทธิฯชี้จีนแก้ปัญหาHIVไม่รอด เหตุมองผู้ป่วยเอดส์ติดยาเป็นนักโทษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คนกลุ่มนี้กำลังยื้อแย่งขอรับถุงยางอนามัยที่ทางการนำมาแจกฟรี ในโครงการรณรงค์ต่อต้านโรคเอดส์เนื่องในวันเอดส์โลก(1 ธ.ค.) ที่เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนัน - รอยเตอร์
รอยเตอร์ – กลุ่มสิทธิมนุษยชน “ฮิวแมน ไรส์ วอทช์” (Human Rights Watch) ออกมาเตือนการที่จีนใช้มาตรการรุนแรงกับผู้ติดยาเสพติดที่ติดเชื้อเอดส์และมองพวกเขาเป็นนักโทษมากกว่าเป็นผู้ป่วยนั้น กำลังส่งผลเสียต่อความพยายามในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ HIV ภายในประเทศ

เมื่อวันอังคาร (9 ธ.ค.) ทางการจีนได้ประกาศจะร่วมมือกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) เข็นโครงการรณรงค์ให้ความรู้เรื่องเอดส์และวิธีการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยให้แก่กลุ่มแรงงานอพยพภายในประเทศ ซึ่งขณะนี้ทางการจีนมองว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อ HIV เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้ขาดความรู้และความเข้าใจในการป้องกันตนเองจากโรคติดต่อ

พร้อมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนหมู่มากอย่าแสดงความรังเกียจต่อผู้ที่ติดเชื้อ โดยมีเป้าหมายให้ผู้ติดเชื้อมีโอกาสในการทำงานในสังคมและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

แต่สำหรับกลุ่มผู้ติดยาเสพติดซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV เช่นกัน กลับได้รับการปฏิบัติอย่างนักโทษไม่ใช่ผู้ป่วย ตามที่กลุ่มสิทธิมนุษยชน ฮิวแมน ไรส์ วอทช์ (Human Rights Watch) อ้างข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้ติดยาเสพติดจำนวน 19 คนและเจ้าหน้าที่ 20 คนในชายแดนของเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วง กว่างซี เมื่อช่วงฤดูร้อน ปี 2007 โดยผู้ป่วยเอดส์ในกว่างซีนั้นส่วนใหญ่ติดเชื้อเนื่องมากจากการใช้ยาเสพติด

โดยผู้ติดยาเสพติดตามศูนย์บำบัดยาเสพติดและเข้าร่วมโครงการอบรมแรงงานของจีนมักถูกปฏิบัติเยี่ยงนักโทษไม่ใช่ผู้ป่วย และมักถูกผู้คุมข่มเหงทารุณอย่างไร้มนุษยธรรม ไม่ได้รับการรักษาอาการป่วยเท่าที่ควร และยังถูกบังคับให้ทำงานโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน บางครั้งเจ้าหน้าที่ก็ไม่เก็บผลการตรวจโรคเอดส์ไว้เป็นความลับ จนทำให้ผู้ป่วยไม่กล้าเข้ารับการตรวจจนกระทั่งแสดงอาการ เพราะกลัวถูกรังเกียจ อีกทั้งค่ารักษาพยาบาลก็เป็นอุปสรรคที่ทำให้ผู้ป่วยไม่เข้ารับการตรวจ ส่วนผู้ที่ถูกบังคับให้ตรวจตามศูนย์บำบัดก็ไม่ได้รับการแจ้งผลตรวจ

ทั้งนี้ ในปลายปี 2007 สถิติผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV และผู้ป่วยโรคเอดส์ที่ทางการอ้างมีเพียง 700,000 คน แต่กลุ่มฮิวแมน ไรส์ วอทช์เชื่อว่ายังมีข้อมูลที่ทางการจีนปิดเป็นความลับและไม่ยอมเปิดเผยสู่สังคมอีกมาก

ขณะที่ตัวเลขผู้ติดยาเสพติดของจีนเมื่อเดือนตุลาคมอยู่ที่ 1.08 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 785,000 คน ของสถิติในปี 2005 อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ระบุว่าเกือบ 4 ใน 5 ของผู้ติดยาเสพติดชาวจีนใช้เฮโรอีน โดยก่อนหน้านี้พรรคคอมมิวนิสต์ได้กวาดล้างยาเสพติดเช่น ฝิ่น มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 1949 ภายหลังพรรคฯยึดครองอำนาจและสถาปนาจีนเป็นประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยครั้งนั้นชาวจีนจำนวนมากติดฝิ่นอย่างงอมแงม

กลุ่มฮิวแมน ไรส์ วอทช์ตั้งข้อสังเกตว่า องค์กรที่ไม่ใช่ภาครัฐ (เอ็นจีโอ) ประสบความสำเร็จในการรณรงค์ในระดับท้องถิ่นหากรณรงค์อย่างเงียบๆ ไม่เอิกเกริก แต่ส่วนใหญ่การรณรงค์มักมีอุปสรรคเนื่องจากข้อกฎหมายที่กำหนดให้หน่วยงานของภาครัฐเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งกลุ่มเอ็นจีโอโดยมากจะถูกข่มขู่และจับกุม
กำลังโหลดความคิดเห็น