ผู้จัดการออนไลน์ -- นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สมเด็จฯ ฮุนเซน ได้แสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย ที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง และอาจจะส่งผลกระทบต่อการแก้ปัญหาชายแดนสองประเทศที่หยุดชะงักลงในขณะนี้
สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ถึงสองครั้งระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 29 ส.ค.กับอีกครั้งหนึ่งในการประชุมลับเกี่ยวกับปราสาทพระวิหาร
นายกรัฐมนตรีได้หารือประเด็นล่อแหลมต่างๆ กับบรรดารัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์กัมโบดจ์ซวาร์ (Cambodge Soir)
ระหว่างการประชุมลับ ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 29 ส.ค.เช่นเดียวกัน บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงเห็นพ้องกันว่าไม่ควรที่สถานะปัจจุบันของปัญหาเขาพระวิหารจะลากยาวออกไป ในขณะที่การเจรจาหยุดชะงักลง และต้องรอนายสมัครแก้ไขปัญหาการเมืองในประเทศไทยให้ลุล่วงไปก่อน
นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้แสดงความเป็นห่วง ว่า ถ้าหากเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขึ้นในประเทศไทย ปัญหาเขตแดนด้านเขาพระวิหารก็อาจจะได้รับผลกระทบไปด้วย จึงกำชับให้นายฮอร์นัมฮอง (Hor Nam Hong) รองนายกฯ และรัฐมนตรีต่างประเทศ ติดต่อสนทนากับฝ่ายไทยต่อไป
ภารกิจของนายฮอร์นัมฮอง จะประสบความยุ่งยากอย่างมาก ถ้าหากฝ่ายที่ขึ้นมามีอำนาจใหม่ไม่มีความตั้งใจจะแก้ไขปัญหาความตึงเครียดชายแดน เช่นรัฐบาลของนายสมัคร หนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันรายงานความเห็นของสมเด็จฯ ฮุนเซน
เป็นเวลา 4 วันแล้ว (ถึงวันที่ 29 ส.ค.) ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยลุกฮือขึ้นขับไล่รัฐบาลของนายสมัคร และในวันนี้ตำรวจถึงกับใช้กระบองเพื่อขับไล่ผู้ประท้วง แต่ พธม.ตอบโต้ด้วยการปิดกั้นการเดินรถไฟกับเที่ยวบินที่นำนักท่องเที่ยวไปยังภูเก็ตกับหาดใหญ่
ในวันเดียวกัน สมเด็จฯ ฮุนเซน ได้ประกาศแผนการใช้เงินที่ระดมโดยโทรทัศน์กัมพูชา (CTN) กับโทรทัศน์บายน (Bayon TV) เพื่อตัดถนน 9 กม.ไปยังปราสาทตาเมือนธม (Ta Muon Thom) และราดยางถนนจากอันลองแวง (Anlong Veng) ไปยังปราสาทพระวิหาร กัมโบดจ์ซวาร์ กล่าว
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้รายงานสถานการณ์ด้านชายแดน ว่า ฝ่ายทหารของไทยยังคงไม่ยอมยืดหยุ่น โดยอนุญาตให้ราษฎรกัมพูชาเดินทางไปเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธมได้เพียงสัปดาห์ละ 3 วันเท่านั้น หนังสือพิมพ์ฉบับภาษาฝรั่งเศส กล่าว