ผู้จัดการออนไลน์-- เวียดนามได้ปลดสมาชิกระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการออกจากตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากคณะกรรมการกลางพรรคได้ออกเรียกร้องเรื่องนี้ได้เพียงข้ามสัปดาห์ ฐานต้องรับผิดชอบต่อการทุจริตอื้อฉาวในหน่วยงานใต้การกำกับดูแล
นายเหวียนเหวียดเตี๊ยน (Nguyen Viet Tien) รมช.กระทรวงขนส่ง ถูกปลดภายใต้คำสั่งของนายกรัฐมนตรี เหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ฉบับลงวันที่ 28 ส.ค. โดยมีผลบังคับในทันที ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์ไซ่ง่อยหยายฟ่ง (Saigon Giai Phong) หรือ "ไซ่ง่อนปลดปล่อย"
คำสั่งของนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงดังกล่าว จัดหาตำแหน่งใหม่ให้แก่นายเหวียดเตี๊ยน ซึ่งกำลังจะต้องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกลางพรรคอีกชั้นหนึ่งและอดีตรัฐมนตรีผู้นี้มีโอกาสที่จะถูกปลดออกจากทุกตำแหน่งในพรรคคอมมิวนิสต์
เวียดนามกำลังใช้มาตรการเด็ดขาดในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นในหมู่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐ อันเป็นหนึ่งในสามสิ่งที่ถูกเรียกเป็น "ความชั่วร้ายทางสังคม" นอกจากยาเสพติดกับการค้าประเวณี
คณะเลขาธิการแห่งคณะกรรมการกลางพรรค ({arty Central Committee’s Secretariat) ประชุมพิจารณาเรื่องนี้ในวันที่ 12 ส.ค. และมีมติเรียกร้องให้รัฐบาลปลดนายเหวียดเตี๊ยน เพื่อเป็นการรับผิดชอบต่อความเลินเล่อ ไม่เอาใจใส่ปล่อยให้เกิดการทุจริตอื้อฉาวมากที่สุดในเวียดนาม ซึ่งรู้จักกันดีในชื่อ กรณี PMU18 (Project Management Unite 18)
คณะเลขาธิการฯ สรุปว่า รมช.กระทรวงขนส่ง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคสาขากระทรวงดังกล่าวคือ นายเหวียดเตี๊ยน "ขาดสำนึกรับผิดชอบซึ่งได้ทำให้เกิดผลพวงที่ร้ายแรงติดตามมาในการบริหารจัดการและการดำเนินโครงการช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการภายใต้การดูแลของสำนักงานบริหารโครงการที่ 18"
"การขาดความรับผิดอบต่อการบริหารจัดการและการให้การศึกษาแก่สมาชิกพรรค ได้ทำให้สมาชิกจำนวนมากทำการละเมิดต่อกฎระเบียบของพรรค และกฎหมายแห่งรัฐ" จึงได้ตัดสินใจเสนอให้ปลดนายเหวียดเตี๊ยนให้พ้นตำแหน่งเลขาธิการพรรคสาขากระทรวงก่อสร้าง รวมทั้งให้พ้นจากการเป็นสมาชิกในคณะกรรมการของพรรคอีกหลายคณะ ซึ่งเป็นการลงโทษสูงสุด
เมื่อต้นปีนี้ศาลกรุงฮานอยได้ยกฟ้องนายเตี๊ยนจากข้อกล่าวหามีส่วนร่วมในการทุจริต ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ PMU18 ได้ยักยอกเงินงบประมาณไปเล่นพนันทายผลฟุตบอลในช่วงฤดูกาลแข่งขันในยุโรป รวมทั้งนำไปใช้เป็นการส่วนตัวและแบ่งปันในหมู่เจ้าหน้าที่ผู้ร่วมสมคบคิด
ศาลกล่าวว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะชี้ชัดว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงดังกล่าวมีความสัมพันธ์โยงใยกับกระบวนการทุจริตคอร์รัปชั่นดังกล่าว
นายเตี๊ยนถูกจับกุมในเดือน มี.ค.2549 และถูกคุมขังระหว่างอยู่ในขั้นสอบสวนสืบสวนจนกระทั่งถูกส่งฟ้องต่อศาล และเมื่อได้รับการยกฟ้องนายเตี๊ยนได้กลับเข้ารับราชการในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการต่อไปเช่นเดิม จนกระทั่งขณะเลขาธิการฯ ได้นำเรื่องนี้กลับไปพิจารณาอีกครั้งในแง่ที่จะต้องรับผิดชอบในด้านจรรยาบรรณ
สื่อของทางการกล่าวว่า การปลดนายเตี๊ยนนับเป็นความพยายามของพรรคคอมมิวนิสต์ ในการสร้างบรรทัดฐานว่า เมื่อเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นขึ้นในหน่วยงานใดก็ตาม ระดับหัวหน้าหน่วยงานจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำผิดที่เกิดขึ้นด้วย
การทุจริตเกิดขึ้นในช่วงปี 2547-2548 เมื่อตำรวจจับกุมโต๊ะพนันบอลในกรุงฮานอย และได้พบว่านักพนันรายใหญ่คนหนึ่งในนั้นคือนายบุ่ยเตี๋ยนยวุ๋ง (Bui Tien Dung) ผู้อำนวยการ PMU18
หน่วยงานดังกล่าวรับผิดชอบการก่อสร้างทางหลวง มอเตอร์เวย์และสะพานหลายแห่ง กับงบประมาณหลายร้อยล้านดอลลาร์ รวมทั้งเงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการหรือ ODA (Official Direct Assistance)
นายยวุ๋งถูกจับกุมในเดือน ม.ค.2549 และต่อมาเจ้าหน้าที่ก็ได้ขยายผลไปสู่การจับกุมนายเหวียดเตี๊ยน ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลหน่วยงาน PMU18 โดยตรง
การดำเนินคดีกรณีทุจริตอื้อฉาว PMU18 ดำเนินมาข้ามปี ปีที่แล้วนายยวุ๋งกับคณะรวม 13 คนถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลาตั้งแต่ 1-13 ปีตามความหนักเบาในการร่วมกระทำความผิด
เวียดนามยังได้ปลดนายตำรวจยศพลตรีซึ่งเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจกรุงฮานอยคนหนึ่งฐานปกป้องเจ้าหน้าที่ทุจริตและได้รับประโยชน์จากการทุจริตกรณีดังกล่าว
สำหรับนายเหวียดเตี๊ยนศาลชั้นต้นกรุงฮานอยได้พิพากษาเมื่อต้นปีนี้ ให้พ้นความผิดฐานรับสินบนและพัวพันกับการทุจริตเนื่องจากไม่มีหลักฐานที่แน่นหนาพอมัดตัว แต่คดีความก็ยังไม่สิ้นสุด และรัฐมนตรีช่วยว่าการคนนี้อยู่ระหว่างการพักงานเท่านั้น
แต่คณะเลขาธิการพรรคได้เรียกร้องให้มีการลงโทษเพื่อเป็นบรรทัดฐาน สำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคและรัฐบาลที่ประมาทปล่อยให้เกิดการทุจริตขึ้นในหน่วยงาน ทั้งนี้เป็นรายงานบนเว็บไซต์ของพรรคคอมมิวนิสต์
กรณี PMU18 ยังทำให้นายด่าวดิ่งบิ่ง (Dao Dinh Binh) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงขนส่งในขณะนั้นประกาศลาออกระหว่างการประชุมรัฐสภา เพื่อแสดงความรับผิดชอบ แม้ว่ากรณีทุจริตอื้อฉาวจะเกิดขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะเข้ารับตำแหน่งก็ตาม
ยังมีนักข่าวหนังสือพิมพ์รายวันในนครโฮจิมินห์ 1 คน กับในกรุงฮานอยอีก 1 คน โดน “หางเลข” กรณีทุจริต PMU18 ทั้งคู่ถูกจับกุมเมื่อต้นปีนี้ฐานเผยแพร่ความลับและเอกสารลับของทางราชการ ระหว่างการติดตามรายงานกรณีทุจริต
เมื่อปีที่แล้วศาลนครโฮจิมินห์ยังได้พิพากษาจำคุกอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าคนหนึ่งกับบุตรชายซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงเดียวกัน ในกรณีทุจริตอื้อฉาวเรียกค่าหัวคิวโควตาส่งออกเสื้อผ้าไปยังตลาดสหรัฐฯ.