xs
xsm
sm
md
lg

เวียดระทมดินถล่มฝังทั้งหมู่บ้านพายุมาอีกลูก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#660099> หมดสิ้นทุกอย่าง-- ราษฎรที่หมู่บ้านตุ่งจิน (Tung Chin) จ.ล่าวกาย (Lao Cai) มองดูอาณาบริเวณที่เคยมีบ้าน 19 หลังคาอยู่ที่นั่นก่อนที่จะถูกกระแสน้ำพัดหายไป พายุโซนร้อนกัมมูริพัดเข้าสู่ภาคเหนือเวียดนามเมื่อวันศุกร์ (13 ส.ค.) จนถึงวันอังคารพบผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 110 คน อีกราว 50 คนยังสูญหาย พืชผลถูกทำลายไปกว่า 80,000 ไร่ (ภาพ: AFP) </STRONG></FONT></CENTER>

ฮานอย (เอเอฟพี) — เมื่อวันอังคาร (12 ส.ค.) นี้ ทางการเวียดนามใช้เฮลิคอปเตอร์กองทัพบกหลายลำ ออกค้นหาผู้ประสบภัยพิบัตินับพันๆ คนที่ยังคงติดค้างอยู่ตามแหล่งต่างๆ หลังจากพายุโซนร้อนกัมมูริ (Kammuri) ทำให้เกิดฝนตกหนัก ส่งผลกระทบต่อประชาชนในหลายจังหวัดในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

เจ้าหน้าที่ในจังหวัดภาคเหนือ กล่าวว่า หลายหมู่บ้านเกิดดินถล่มลงทับทั้งหมู่บ้าน และเชื่อว่า ผู้ที่ยังสูญหาย อาจจะเสียชีวิตแล้วทั้งหมด

ในวันเดียวกัน ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลาง ได้เตือนว่า พายุลูกใหม่กำลังจะเข้าอีกภายในวันสองวันนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) ได้สั่งการให้ทางการท้องถิ่นต่างๆ ระดมช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่

ทางการได้ยืนยันในวันเดียวกันพบผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยและแผ่นดินเลื่อนแล้วอย่างน้อย 113 คน ขณะที่ยังมีผู้สูญหายอีกอย่างน้อย 45 คน และสำนักงานอุตุนิยมวิทยา ได้ออกเตือนให้พื้นที่ต่างๆ ระวังพายุที่กำลังจะเคลื่อนผ่านเวียดนามใกล้กับแนวเดิมของพายุกัมมูริ

พายุลูกล่าสุดนี้พัดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่ภาคเหนือเวียดนามาตั้งแต่วันศุกร์ (8 ส.ค.) ทำให้เกิดฝนตกหนักในเขตเขาเกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำในแม่น้ำลำธารเอ่อล้นตลิ่ง เกิดแผ่นดินเลื่อนและดินถล่ม นับเป็นพายุลูกแรกที่ส่งผลร้ายแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเวียดนามในปีนี้

เมื่อต้นปีหลายจังหวัดในภาคเหนือได้เห็นน้ำค้างแข็ง และเกิดหิมะตกในเขตภูเขา อากาศเลวร้ายและหนาวเย็นจัดเป็นเวลานานเกือบ 2 เดือน

ทางการได้ส่งทหาร ตำรวจ ตลอดจนอาสาสมัครกู้ภัยนับพันๆ คน เข้าสู่พื้นที่ภัยพิบัติตั้งแต่วันเสาร์ การค้นหาดำเนินไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากถนนหนทางถูกตัดขาดและสภาพท้องฟ้าปิดไม่เอื้ออำนวยต่อการค้นหาทางอากาศ

เส้นทางรถไฟสายเหนือระหว่างกรุงฮานอยกับ จ.ล่าวกาย (Lao Cai) ถูกน้ำพัดตัดขาดมาตั้งแต่วันเสาร์
<CENTER><FONT color=#660099> ราษฎรบ้านตุ่งจินอีกกลุ่มหนึ่งมองดูซากหักพังซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังเป็นบ้านอันอบอุ่นริมลำธารน้ำใน จ.ล่าวกาย ทางตอนบนของประเทศ พายุทำลายทุกอย่างลงในชั่วพริบตา (ภาพ: AFP)   </FONT></CENTER>
เฮลิคอปเตอร์กองทัพได้ขึ้นบินสำรวจในเขตเขาภาคเหนือใกล้กับชายแดนจีน ซึ่งมีชนชาติส่วนน้อยจำนวนมากติดอยู่ตามที่สูงต่างๆ ทหารราว 2,700 นายถูกส่งเข้าสู่พื้นที่ภัยพิบัติใน จ.ล่าวกาย กับ จ.เอียนบ๋าย (Yen Bai) เพื่อนำผู้ประสบภัยกว่า 5,000 คนไปยังที่ปลอดภัย

นายเจิ่นวันแอ็ง (Tran Van Anh) เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ จ.เอียนบ๋าย กล่าวว่า ที่นั่นพบผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 40 คน อีกหลายคนยังสูญหาย ผู้เสียชีวิตบางคนถูกกระแสน้ำพัดไปไกลมาก

เจ้าหน้าที่ค้นหากู้ภัยใน จ.ล่าวกาย กล่าวว่า โอกาสที่จะพบผู้สูญหายจำนวน 37 คนเลือนลางลงไปทุกที ขณะที่มีผู้เสียชีวิตในจังหวัดนี้รวม 49 คน นับเป็นภัยพิบัติครั้งรุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในจังหวัดทางตอนเหนือสุดแห่งนี้

“ในหลายท้องถิ่นดินได้ถล่มลงฝังทั้งหมู่บ้าน.. การค้นหาเพื่อช่วยเหลือเป็นไปอย่างลำบากเพราะว่าพวกเราไม่มีเครื่องมือ ต้องขุดหาเอา” เจ้าหน้าที่กู้ภัยรายหนึ่ง กล่าว

“เราได้พยายามทำอย่างสุดความสามารถ แต่เราเชื่อว่าพวกเขาเสียชีวิตแล้วทั้งหมด พวกเขาคงจะถูกฝังกลบ หรืออาจจะถูกพัดหายลงแม่น้ำแดงไปแล้วก็เป็นได้” เจ้าหน้าที่คนเดียวกันกล่าว

ตามรายงานเมื่อวันอาทิตย์ คนงานก่อสร้างใน จ.กว๋างนิง (Quang Ninh) จำนวนหนึ่งถูกฝังทั้งเป็นเมื่อเกิดดินถล่มทับลงเต็นท์พักของพวกเขาที่อยู่ริมทาง

ทางการในกรุงฮานอย แถลงในวันเดียวกันว่า ทั่วทั้งภาคเหนือมีบ้านเรือนราษฎรถูกน้ำพัดจนพังไปกว่า 670 หลังคาเรือน อีก 17,700 หลังถูกน้ำท่วมและเสียหาย นาและไร่รวมเนื้อที่ 14,000 เฮกตาร์ (87,500 ไร่) ถูกทำลายสิ้น

นักท่องเที่ยวหลายร้อยคนติดค้างอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทางตอนเหนือ เนื่องจากเส้นทางสัญจรถูกตัดขาด แม้ว่าฝนจะหยุดตกตั้งแต่วันจันทร์แต่เส้นทางคมนาคมก็ยังใช้การไม่ได้ หลายท้องถิ่นผู้คนเริ่มหิวโหยเนื่องจากไม่มีอาหาร

ทางการได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าและกรมประทานตรวจเช็กสภาพเขื่อนและฝายกั้นน้ำต่างๆ ตามแม่น้ำฮว่าบิ่ง (Thai Binh) กับแม่น้ำแดง (Song Hong) หลังจากระดับน้ำสูงขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น