ผู้จัดการรายวัน -- กัมพูชา กับ คูเวต ได้ร่วมกันลงนามในความตกลง 5 ฉบับ เมื่อวันจันทร์ (4 ส.ค.) ซึ่งรวมทั้งความร่วมมือด้านการค้า การบิน และการลงทุน ขณะที่นายกรัฐมนตรีของสองประเทศได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการสำรวจขุดเจาะก๊าซและน้ำมัน ซึ่งฝ่ายคูเวตตกลงจะช่วยเหลือกัมพูชาฝึกฝนบุคลากรเป็นเบื้องแรก
การเซ็นความตกลงต่างๆ มีขึ้นระหว่างรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับผิดชอบของสองฝ่าย ขณะที่สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กำลังพบและหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีคูเวต ชีค นัสเซอร์ อัล-โมฮัมเหม็ด อัล-จาเบอร์ อัล-ซาบาห์ (Sheikh Nasser Al-Mohammed Al-Ahmad Al-Jaber Al-Sabah) ที่กำลังเยือนกัมพูชา
เจ้าหน้าที่ของสองประเทศได้เซ็นความตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ความร่วมมือด้านการต่างประเทศและด้านการบิน นายเขียวกัญฤทธิ์ (Khieu Kanharith) รัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าวในฐานะโฆษกรัฐบาล กล่าว
“นายกรัฐมนตรี ฮุนเซน ได้แสดงความยินดีต้อนรับการลงทุนทุกด้านจากคูเวต เนื่องจากกัมพูชามีศักยภาพสูงในการพัฒนาเศรษฐกิจ” นายเขียว กล่าว ขณะที่เปิดเผยด้วยว่าในอนาคตจะมีความร่วมมือกันอีกหลายด้าน รวมทั้งฝ่ายคูเวตยังจะช่วยกัมพูชาพัฒนาด้านการเกษตรอีกด้วย
คูเวตได้ตกลงช่วยเหลือกัมพูชาฝึกอบรมบุคลากรด้านอุตสาหกรรมที่กำลังก่อร่างสร้างตัวขึ้นในประเทศนี้ หลังมีการพบน้ำมันดิบ ขณะที่บริษัทน้ำมันกว่า 10 แห่งกำลังสำรวจพลังงานทั้งแหล่งบนบกและแหล่งนอกชายฝั่งในกัมพูชา
นายฮอร์นัมฮอง (Hor Nam Hong) รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ ว่า กัมพูชาและคูเวตยังมีแผนที่จะเซ็นความตกลงการคุ้มครองการค้าและการลงทุนด้วย แต่โฆษกรัฐบาลไม่มีการแถลงรายละเอียดเรื่องนี้
“ระหว่างการพบหารือครั้งนี้เราจะนำประเด็นความร่วมมือด้านการสำรวจน้ำมัน ความร่วมมือด้านน้ำมันและก๊าซด้วย” นายฮอง กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ท่าอากาศยานโปเจินตง รวมทั้งแสดงความหวังว่า การเยือนของผู้นำคูเวตครั้งนี้จะมีดอกผลอันสำคัญออกมา
นายเขียว กล่าวแต่เพียงว่า สองประเทศได้หารือหนทางที่จะเสริมขยายการค้าและการลงทุน และฝ่ายคูเวตตกลงที่จะช่วยกัมพูชาพัฒนาภาคการเกษตร แต่ไม่ได้อธิบายในรายละเอียดเช่นเดียววัน
ชีคอัล-ซาบาห์ นำคณะเดินทางถึงกรุงพนมเปญ เมื่อวันอาทิตย์ (3 ส.ค.) สำหรับการเยือนอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 3 วัน ซึ่งหวังกันว่าจะเป็นการเพิ่มทวีความร่วมมือด้านการค้าและการท่องเที่ยวระหว่างกัน รวมทั้งระหว่างกัมพูชากับบรรดาประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง ทั้งนี้ เป็นรายงานของสำนักข่าวซินหัว
ระหว่างการเยือนครั้งนี้ภาคเอกชนของกัมพูชา ซึ่งนำโดยสภาหอการค้า จะนำคณะหารือกับฝ่ายเอกชนคูเวตเกี่ยวกับความร่วมมือการค้าระหว่างสองฝ่าย
ยังไม่มีการเปิดเผยเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการบิน แต่ นายเหมาวันนาล (Mao Vannal) ผู้ช่วยรัฐมนตรี ซึ่งดูแลองค์การการบินพลเรือนกัมพูชากล่าวกับซินหัวก่อนหน้านี้ ว่า สองฝ่ายยังได้หารือความร่วมมือเพื่อเปิดบินเชื่อมสองประเทศในระยะปานกลางข้างหน้าอีกด้วย
กัมพูชา หวังว่า จะเริ่มนำน้ำมันดิบขึ้นมาใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2554 หลังจากบริษัทเชฟรอน (Chevron Corp) จากสหรัฐฯ ประกาศการค้นพบน้ำมันดิบในแปลงสำรวจอ่าวไทยในต้นปี 2548
เชื่อกันว่า ในแหล่งบนบกและในอ่าวไทยของกัมพูชา ซึ่งแบ่งซอยออกเป็นแปลงสำรวจ 6 แปลง จะมีน้ำมันดิบปริมาณหลายร้อยล้านบาร์เรล และอาจจะมีก๊าซธรรมชาติมากกว่านั้นถึง 3 เท่าตัว ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี
แต่จนกระทั่งวันนี้ก็ยังไม่มีตัวเลขที่ชัดเจนว่าจะสามรรถขัดน้ำมันดิบขึ้นใช้งานได้ในประมาณเท่าไร ขณะที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าเงินจากน้ำมันจำทำให้กัมพูชาซึ่งการคอร์รัปชันแพร่ลามในทุกระดับ กลายเป็นประเทศที่ “ถูกสาป” ไปอีกราย
ยังไม่มีการเปิดเกี่ยวกับบทบาทในอนาคตของนครรัฐคูเวต ในอุตสาหกรรมพลังงานกัมพูชา
ประเทศปลายปีที่แล้วบริษัทน้ำมันคูเวตเอ็นเนอร์ยี (Kuwait Energy Co) หรือ KEC ได้ขายผลประโยชน์ 10.6% ในแปลงสำรวจ E ในเขตอ่าวไทยของกัมพูชาให้แก่กลุ่มบริษัทน้ำมันยักษ์ลุนดิน (Lundin Petroleum AB) จากสวีเดน
การขายหุ้นครั้งนั่นทำให้ KEC ยังคงเหลือผลประโยชน์ในแปลงสำรวจ E อีก 20.6% ทั้งนี้ เป็นรายงานบนเว็บไซต์ของลุนดินเอ็นเนอร์ยี
แปลงสำรวจ E ครอบคลุมพื้นที่ 5,559 ตารางกิโลเมตรในทะเลอ่าวไทย ในเขตที่เรียกว่า “แอ่งปัตตานี” (Pattani Basin) ซึ่งมีการค้นพบร่องรอยหลายอย่าง ทำให้แน่ใจว่าใต้ผืนน้ำจะมีน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติปริมาณมาก แต่การสำรวจทางธรณีศาสตร์ยังจะดำเนินต่อไป
กัมพูชากำลังเร่งพัฒนาปรับปรุงความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบในตะวันออกกลาง สมเด็จฯ ฮุนเซน เปิดศักราชใหม่ด้วยการเดินทางเยือนคูเวตอย่างเป็นทางการ และ ในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา รัฐมนตรีกาตาร์ได้เดินทางเยือนกัมพูชาอีกประเทศหนึ่ง
นายฮอร์ นัม ฮอง เปิดเผยในเดือน พ.ค.ปีนี้ ว่า รัฐบาลกาตาร์จะให้เงินกู้ช่วยกัมพูชาขยายระบบชลประทาน เข้าสู่พื้นที่นาหลายแสนไร่ ด้วยเงินทุนกว่า 200 ล้านดอลลาร์
รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศกัมพูชา ยังได้เปิดเผยแผนการที่จะใช้เงินกู้จากกาตาร์เพื่อขุดคลองจากแม่น้ำสายหนึ่งเชื่อมพื้นที่นาใน 3 จังหวัด คือ สวายเรียง เปรย์แวง (Prey Veng) และ กัมปงจาม (Kampong Cham) ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่ทำนากว่า 300,000 เฮกตาร์ หรือเกือบ 2 ล้านไร่
นายกรัฐมนตรีคูเวตอยู่ระหว่างการตระเวนเยือนหลายประเทศในเอเชีย รวมทั้ง เกาหลี ญี่ปุ่น ลาว กัมพูชา ไทย และ พม่า ด้วย
