ผู้จัดการออนไลน์-- บริษัทน้ำมันแห่งชาติสิงคโปร์ได้เริ่มเจาะทดสอบแปลงสัมปทานบี (Block B) ในเขตน่านน้ำอ่าวไทยของกัมพูชาซึ่งอยู่ห่างจากเขตน่านน้ำที่เหลื่อมล้ำกันระหว่างไทยกับกัมพูชาราว 80 กม.โดยคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการราว 15 วัน
บริษัทลูกแห่งหนึ่งที่สิงคโปร์ปิโตรเลียมจำกัด (Singapore Petroleum Co Ltd) ซึ่งถือหุ้น 1 ใน 3 ของบริษัทที่ได้รับสัมปทาน ได้เริ่มเจาะหลุม "วิมานมรดกมหานคร-1" (Vimean Morodok Mhanakor-1) ซึ่งอยู่ห่างจากฝั่งเมืองสีหนุวิลล์ราว 160 กม. อันเป็นหลุมแรกในแปลงสัมปทานดังกล่าว
บริษัทน้ำมันแห่งชาติฯ แถลงในสัปดาห์นี้โดยมิได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับแปลงสัมปทาน และพื้นที่ที่ได้รับสัมปทานดังกล่าว
นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมพลังงานเชื่อกันว่าอาณาบริเวณเขตพิพาทน่านน้ำระหว่างไทยกับกัมพูชานั้นอาจจะเป็นบริเวณที่มีน้ำมันดิบและก๊าซมากที่สุดในอ่าวไทย
คำแถลงกล่าวว่าเขตดังกล่าวมีท้องทะเลลึกราว 75 เมตร และจะต้องเจาะชั้นหินใต้สมุทรเป็นความลึก 2,917 เมตร จึงจะถึงชั้นที่เชื่อกันว่ามีปริมาณคาร์บอนสะสมอยู่
เจ้าหน้าที่องค์การปิโตรเลียมแห่งชาติกัมพูชา (National Petroleum Authority of Cambodia) มีแผนการจะเริ่มผลิตน้ำมันดิบในปี 2554
ประเทศนี้เริ่มตกเป็นเป้าหมายการแข่งขันของบริษัทน้ำมันต่างชาติหลังจากบริษัทเชฟรอนคอร์ป (Chevron Corp) น้ำในยักษ์ใหญ่อันดับ 2 จากสหรัฐฯ ประกาศในเดือน ก.พ.2548 การค้นพบน้ำมันดิบในบ่อทดสอบนอกชายฝั่งสีหนุวิลล์
เจ้าหน้าที่กล่าวว่าปัจจุบันมีบริษัทน้ำมันจากประเทศต่างๆ ราว 13 บริษัทกำลังเจาะหรือสำรวจน้ำมันดิบและก๊าซ ทั้งในแหล่งบนบกและแหล่งอ่าวไทยในกัมพูชา
หลายฝ่ายได้แสดงความห่วงใยต่ออนาคตของประเทศนี้ ซึ่งถูกจัดให้อยู่ในอันดับต้นๆ กลุ่มประเทศที่ขาดความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ และการคอร์รัปชั่นยังแพร่ลามในทุกระดับในหมู่เจ้าหน้าที่รัฐ
หากสามารถผลิตน้ำมันดิบและส่งออกได้ ซึ่งจะทำให้มีรายได้ปีละเกือบ 2,000 ล้านดอลลาร์ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า หลายฝ่ายเกรงว่าประเทศนี้จะต้อง "คำสาปน้ำมัน" เช่นเดียวกับในบางประเทศเอฟริกาที่ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์จากขุมพลังงานอันใหญ่โตในประเทศ
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีกัมพูชา สมเด็จฯ ฮุนเซนกล่าวเมื่อปลายปีที่แล้วว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าในกัมพูชามีน้ำมันดิบมากเพียงพอที่จะนำขึ้นมาใช้ในเชิงพาณิชย์หรือไม่และมีอยู่ปริมาณเท่าไร