ผู้จัดการออนไลน์ -- รัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าวกัมพูชา เขียว กัญฤทธิ์ กล่าวว่า พรรคฝ่ายค้าน กับ ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล อาจจะอยู่เบื้องหลังความพยายามจัดการชุมนุมประท้วงที่บริเวณหน้าสถานทูตในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จเพราะทางการไม่อนุญาต และจะไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น
นายเขียว กล่าวด้วยว่า การประท้วงที่มีรายงานว่า จะมีคนเข้าร่วม 3,000-5,000 คนนั้น ไม่ได้เกี่ยวโยงใดๆ กับกรณีระหว่างไทยกับกัมพูชาเรื่องปราสาทพระวิหาร แต่เป็นการฉกฉวยโอกาสต่อต้านรัฐบาล ซึ่งถือเป็นเรื่องภายใน
“พวกนี้เป็นพวกต่อต้านรัฐบาล เราจะจัดการเรื่องนี้ฐานเป็นเรื่องภายใน ประเทศไทยได้พยายามช่วยเหลือกัมพูชา (ในการขอจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก) เพราะฉะนั้นจะต้องไม่สับสนในเรื่องนี้” นายเขียว กล่าวหนังสือพิมพ์แม่โขงไทมส์
“เราควรจะอยู่ในความสงบ เพราะไม่มีจะเกิดอะไรขึ้น ก็จะไม่เกี่ยวกับประสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นของกัมพูชาอยู่แล้ว” นายเขียว กล่าว ทั้งยังเปิดเผยด้วยว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยเรื่องนี้กับ นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ ไทยแล้ว และความสัมพันธ์ไทยกัมพูชาก็อยู่ในระดับปกติ
นายเขียว ซึ่งทำหน้าที่เป็นโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พรรคฝ่ายค้านอันหมายถึงพรรคสม รังสี ได้พยายามฉวยโอกาสนี้ กระพือกรณีปราสาทพระวิหารให้เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา
นายเขียว กล่าวว่า ปัจจุบันรองนายกฯ และรัฐมนตรีต่างประเทศ นายโสกอาน กำลังอยู่ในแคนาดา เพื่อดำเนินการขอจดทะเบียนปราสาทพระวิหาร กับองค์การยูเนสโก
ตามรายงานของสื่อในประเทศนี้ มี 2 องค์กรได้พยายามจัดการชุมนุมประท้วงไทยขึ้นในวันพฤหัสบดี อันได้แก่ ศูนย์กลางส่งเสริมสังคมและวัฒนธรรมแห่งชาติ กับสหภาพแรงงานครูแห่งกัมพูชา แต่แล้วก็ได้ประกาศยุติแผนการประท้วงดังกล่าว
ผู้บัญชาการตำรวจกรุงพนมเปญ พล.ท.ตูจ นารัฐ (Touch Naroth) กล่าวว่า ได้สั่งการให้ตำรวจไปอารักขาสถานทูตไทยตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการประท้วงที่นั่น เช่นเดียวกับกรณีที่คนเพียงหยิบมือหนึ่งเคยก่อขึ้นในต้นปี 2546 ทำให้รัฐบาลกัมพูชาต้องชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินมหาศาล
เหตุการณ์ดังกล่าวผู้ประท้วงได้บุกเผาสถานทูตไทย ด้วยความเข้าใจผิดๆ ข่าวเล่าลือที่ว่า นักแสดงสาวในไทยคนหนึ่งได้กล่าวอ้างว่า ปราสาทนครวัดเป็นของไทย
ก่อนเกิดเหตุการณ์จลาจลต่อต้านไทยในปีนั้น ได้มีการโหมกระพือข่าวลือทางโทรทัศน์และวิทยุ นายกฯ กัมพูชา เองก็ได้ออกแสดงความเห็นอย่างโกรธแค้น ระบุว่า ดาราสาวของไทยไม่มีค่าเท่ากับหญ้าสักกอหนึ่งที่อยู่รอบๆ ปราสาทนครวัด
นายสม รังสี ผู้นำฝ่ายค้าน ได้ปรากฏตัวในที่ประท้วงต่อต้านไทยครั้งนั้นด้วย และถูกฝ่ายรัฐบาล กล่าวว่า อยู่เบื้องหลังความรุนแรง แต่ นายสม กล่าวว่า เขาไปที่นั่นในความพยายามเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง
ปี 2546 เป็นปีที่กัมพูชากำลังจะมีการเลือกตั้ง เช่นเดียวกันกับในปีนี้ ที่ได้เกิดกรณีปราสาทพระวิหารขึ้นมา ท่ามกลางความวิตกกังวล ว่า นักการเมืองในประเทศจะนำไปใช้ก่อความรุนแรงปลุกพลังรักชาติเพื่อหาเสียง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สถานทูตไทย กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องเกี่ยวกับการเพิ่มกำลังตำรวจอารักขารอบๆ สถานทูต แต่จะออกคำแนะนำชาวไทยในกัมพูชาต่อไป
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า กองกำลังที่ส่งไปอารักขาสถานทูตไทยเป็นหน่วยปราบจลาจลติดอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆ ครบมือ แต่ แม่โขงไทมส์ กล่าวว่า เท่าที่สังเกตเห็นเป็นกองกำลังกระทรวงมหาดไทย กับหน่วยสารวัตรตำรวจปกติธรรมดา