ผู้จัดการออนไลน์-- ตำรวจกรุงพนมเปญได้ส่งตำรวจนับร้อยนายไปประจำที่สถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงพนมเปญเมื่อวันพฤหัสบดี (3 ก.ค.) หลังจากได้ทราบว่ากำลังจะมีฝูงชนไปชุมนุมที่นั่น เพื่อประท้วงกรณีความขัดแย้งเกี่ยวกับปราสาทพระวิหาร
ผู้บัญชาการตำรวจกรุงพนมเปญ พล.ท.ตูจ นารัฐ (Touch Narath) กล่าวว่า การตัดสินใจส่งตำรวจไปอารักขาสถานทูตไทยมีขึ้นหลังจากได้รับการร้องขออนุญาตจากคนกลุ่มหนึ่งเพื่อจัดการชุมนุมขึ้นที่นั่น
"เรามีประสบการที่เลวร้ายในอดีต ดังนั้นจะต้องเตรียมพร้อมป้องกันพวกที่มีเจตนาร้ายมิให้เผาสถานทูตไทยอีก" ผบ.ตร.พนมเปญกล่าว
กัมพูชาได้ยื่นขอจดทะเบียนปราสาทพระวิหารกับองค์การยูเนสโก คณะกรรมการมรดกโลกได้เปิดประชุมวันที่ 2-10 ก.ค.นี้ ซึ่งจะมีการพิจารณาการขอจดทะเบียนจากหลายประเทศ รวมทั้งปราสาทพระวิหารด้วย
เมื่อเดือนที่แล้วศาลปกครองกลางของไทยได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวมิให้มติคณะรัฐมนตรีที่สนับสนุนรัฐบาลกัมพูชาจดทะเบียนปราสาทเก่าแก่อายุ 900 ปี มิให้มีผลบังคับใช้ ขณะเดียวกันกับที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ชุมนุมประท้วงต่อต้านการดำเนินการของรัฐบาลในเรื่องนี้
นายฮอร์นัมฮอง (Hor Nam Hong) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชากล่าวเตือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เรื่องนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กัมพูชากับไทยได้
ปัจจุบันพรรคการเมืองต่างๆ ในกัมพูชากำลังรณรงค์หาเสียงสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปซึ่งจะมีการหย่อนบัตรในวันที่ 27 ก.ค.ศกนี้ ท่ามกลางความวิตกว่ากรณีประสาทพระวิหารจะถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการหาเสียง
"เราไม่ต้องการเห็นการประท้วงใดเกิดขึ้น ขณะที่เรากำลังยุ่งกับการเลือกตั้ง" พล.ท.นารัฐกล่าว
ในปี 2546 ชาวกัมพูชาหลายร้อยคนแสดงความไม่พอใจหลังจากทราบข่าวเล่าลือเกี่ยวกับนักแสดงสาวของไทยคนหนึ่งกล่าวว่า ปราสาทนครวัดเป็นของไทย ได้จัดการประท้วงที่สถานทูตไทยก่อนจะลุกลามกลายเป็นการจลาจล และเผาสถานทูตไทยเสียหายหนัก
กลุ่มผู้ก่อจลาจลยังบุกเผาหรือเข้าทำลายข้าวของและฉกฉวยเอาทรัพย์สินของบริษัทห้างร้านของไทยในกรุงพนมเปญไป สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
รัฐบาลกัมพูชาได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ฝ่ายไทยรวมเป็นเงิน 2,000 ล้านบาทจากเหตุจลาจลครั้งนั้น ส่วนธุรกิจต่างๆ ที่ได้รับความเสียหาย ได้รับการชดใช้เป็นการลดหย่อนภาษีหรือค่าธรรมเนียมต่างๆ แทนเงินสดเป็นส่วนใหญ่
หลังข่าวคราวเกี่ยวกับคำสั่งศาลปกครองของไทยได้รับการเผยแพร่ในกรุงพนมเปญ ชาวกัมพูชาจำนวนหนึ่งได้แสดงความไม่พอใจ และเริ่มก่อคลื่นใต้น้ำต่อต้านไทยมาตั้งแต่บัดนั้น.