ผู้จัดการออนไลน์-- ลาวและมาเลเซียได้ลงนามในข้อตกลงการพัฒนาโครงการหรือ PDA (Project Development Agreement) ในการสร้างเขื่อนน้ำสาน 3 ในเขตเมืองหมอก แขวงเซียงขวาง
ผู้ที่ลงนามในข้อตกลงดังกล่าวคือ นายทองมะนี พมวิไซ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ นายไซปะเสิด พมสุพา อธิบดีกรมการสนับสนุนและพัฒนาทางด้านพลังงานและเหมืองแร่ และนายจอร์จ เซียะ-บุน (George Sia Bun) ผู้อำนวยการบริษัทโรฮาส-ยูโค อินดัสตรี (Rohas-Euco Industries of Maysia) รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของทั้ง 2 ฝ่ายเป็นพยานในการลงนามครั้งนี้ด้วย
เดือน เม.ษ. ปีที่แล้วบริษัทดังกล่าวได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ หรือ MoU กับรัฐบาลลาวเพื่อสำรวจการลงทุนในโครงการเขื่อนผลิตไฟฟ้าดังกล่าว
รัฐบาลจะเข้าร่วมลงทุนในโครงการนี้ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 25% และที่เหลือจะเป็นการลงทุนจากบริษัทจากมาเลเซีย
สัญญาสัมปทานแบบ BOT (build-operate-transfer) มีระยะเวลา 30 ปี กล่าวคือเมื่อสร้างเสร็จแล้วสามารถหาผลประโยชน์ได้ในช่วงเวลาที่ระบุก่อนโอนกิจการคืนกลับมาเป็นของรัฐ คาดว่าเขื่อนผลิตไฟฟ้านี้จะสามารถผลิตพลังงานได้มากถึง 300-350 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งพลังงานทั้งหมดจะขายให้กับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (Electricite du Lao)
ในเดือน ส.ค.ปี 2007 บริษัท MESB Berhad ผู้ลงทุนด้านการก่อสร้างและวิศวกรรมรายใหญ่จากมาเลเซีย ก็ได้เดินทางเข้าลาวเพื่อหาลู่ทางลงทุนทำเหมืองแร่ และก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำในลาวด้วยเช่นกัน โดยผู้บริหารของกลุ่มได้เข้าเยี่ยมคำนับนายกรัฐมนตรีลาว แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการดังกล่าว
หนังสือพิมพ์ The Star ในมาเลเซียรายงานเมื่อต้นเดือนนี้ว่า ในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาได้มีการเซ็สัญญาเริ่มการก่อสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าที่ดอนสะโฮง ในเขตเมืองโขง แขวงจำปาสัก โดยกลุ่มบริษัทเมกะเฟิร์สท์จากมาเลเซีย ซึ่งกำลังจะเป็นเขื่อนกั้นลำน้ำโขงแห่งแรกใน สปป.ลาว.