ผู้จัดการออนไลน์-- เวียดนามซึ่งเป็นประเทศที่ส่งข้าวออกเป็นอันดับสองของโลก กล่าวเมื่อวันวันศุกร์ (20 มิ.ย.) ที่ผ่านมาว่า จะเพิ่มการส่งออกข้าวมากขึ้นหลังจากที่ได้ตรวจสอบแล้วว่ามีข้าวเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ ตัวเลขทางการเผยให้เห็นครึ่งปีเวียดนามส่งออกแล้ว 2.2 ล้านตัน
การดำเนินการนี้มีขึ้นหลังจากที่ทางการได้จำกัดการส่งออกข้าวในปี 2008 ให้เหลืออยู่ที่ 3.5-4.0 ล้านตัน เพื่อเป็นการรักษาระดับราคาของข้าวภายในประเทศโดยเฉพาะในช่วงที่ต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น และเพื่อเป็นการสำรองข้าวไว้สำหรับการบริโภคของประชาชนในพื้นที่ท่ามกลางภาวะวิกฤติทางด้านอาหารที่เกิดขึ้นทั่วโลก
"นายเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) นายกรัฐมนตรีของเวียดนามได้สั่งการเมื่อวันพฤหัสบดี (19 มิ.ย.) ว่าให้เร่งการส่งออกข้าวให้มากขึ้นเพื่อช่วยชาวนาให้สามารถขายข้าวที่เก็บเกี่ยวได้ทั้งหมด และยังเป็นการผลิตข้าวเพื่อส่งเข้าไปสู่ตลาดโลกด้วย" ทางการกล่าวผ่านทางเว็บไซด์ของรัฐบาล
"หลังจากที่สามารถรักษาความสมดุลของข้าวให้เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศในปี 2008 ขณะนี้เวียดนามยังสามารถส่งข้าวออกได้ถึง 4.5 ล้านตันด้วยกัน" รัฐบาลกล่าว
สืบเนื่องจากรายงานของสำนักงานสถิติของเวียดนาม ในเดือน พ.ค. ตัวเลขเงินเฟ้อในเวียดนามได้พุ่งสูงถึง 25% ส่งผลให้ราคาข้าวและธัญพืชอื่นๆ เพิ่มสูงขึ้นถึง 68%
การคาดการณ์กันว่าจะเกิดวิกฤตข้าวขาดตลาดนั้นเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สิ่งของที่จำเป็นพื้นฐานต่างๆ โดยเฉพาะอาหารมีราคาที่สูงขึ้น
แต่รัฐบาลกล่าวว่า การเก็บเกี่ยวในปีนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ทั้งในตอนเหนือและใต้ของประเทศ
"เวียดนามคาดว่าการเก็บเกี่ยวข้าวในปีนี้จะได้ผลผลิตถึง 37 ล้านตัน ซึ่งมากกว่าปีที่แล้ว 1 ล้านตัน"
แม้จะเป็นปริมาณที่ไม่มากนัก แต่การส่งออกข้าวที่เพิ่มขึ้นก็อาจจะสามารถช่วยให้ตลาดโลกมีความมั่นคงขึ้นอีกครั้ง นายโจนาธาน พินคุส (Jonathan Pincus) นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสแห่งโครงการพัฒนาสหประชาชาติ หรือ UNDP กล่าว
"ประเทศผู้ส่งออกข้าวน่าจะรู้สึกพอใจกับราคาข้าวในตลาดโลกซึ่งอยู่ในระดับที่ดีมาก ส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่แน่นอนของแหล่งผลิตต่างๆ...การส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นของเวียดนามอาจจะสามารถช่วยให้ราคาข้าวลดลงได้" นายพินคุส กล่าว
จากสถิติของทางรัฐบาลชี้ให้เห็นว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.เวียดนามได้ส่งออกข้าวแล้วกว่า 2.2 ล้านตัน ซึ่งมากกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้วถึง 19%
การเพิ่มการส่งออกข้าว รวมทั้งภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นทั่วโลกทำให้เวียดนามสามารถสร้างรายได้ได้อย่างงาม ซึ่งตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ค. เวียดนามมีรายได้จากการส่งออกข้าวถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้น 94.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว
"มันเป็นช่วงที่ดึงดูดใจอย่างมากสำหรับการส่งออก และเวียดนามก็มีความต้องการที่จะสร้างรายได้จากการส่งออกนี้" นายพินคุส กล่าว
ขณะเดียวกัน ราคาของพลังงานและปุ๋ยที่เพิ่มขึ้น ความต้องการบริโภคมากขึ้น ความแห้งแล้ง การสูญเสียพื้นที่เกษตรกรรมเพื่อเปลี่ยนไปเป็นพื้นที่เพาะปลูกพืชพลังงาน โรงงานอุตสาหกรรมและเมือง รวมทั้งการเก่งกำไรล้วนแต่ถูกมองว่าเป็นสาเหตุของราคาข้าวในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น.