ผู้จัดการออนไลน์-- อิทธิพลทางวัฒนธรรมของจีนกำลังกำลังเติบใหญ่อย่างมากในกัมพูชา โดยจีนซึ่งเป็นประเทศยักษ์ใหญ่ที่มีความต้องการพลังงานและวัตถุดิบในการผลิตต่างๆ และมีความสนใจที่จะขยายอิทธิพลในภูมิภาคนี้ กำลังก้าวไปข้างหน้าในฐานะหุ้นส่วนทางการค้าและผู้ลงทุนที่สำคัญของกัมพูชา
อิทธิพลนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ทางการค้าและอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ได้ขยายไปสู่ในระดับของสังคมและวัฒนธรรมอีกด้วย หลังจากที่ภาษาจีนได้กลายเป็นอีกหนึ่งภาษาสำคัญในโลกธุรกิจ
ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกัมพูชาและจีนนั้นกำลังคืบหน้าไปมากโดยเฉพาะด้านการค้า อุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว จีนได้เสนอให้ความช่วยเหลือทางด้านการทหาร ขณะที่อัตราของนักเรียนที่ศึกษาภาษาจีนกลางในกัมพูชาก็กำลังเพิ่ม แต่อิทธิพลวัฒนธรรมจีนก็นำมาซึ่งการคอรัปชั่นและการเอารัดเอาเปรียบบรรดาผู้ใช้แรงงานด้วยเช่นกัน
ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศสามารถย้อนกลับไปได้เมื่อปลายทศวรรษที่ 1950 และยิ่งมีความแนบแน่นมากยิ่งขึ้นในทศวรรษต่อมา คือในระหว่างช่วงที่พอลพต (Pol Pot) อยู่ในอำนาจ โดยได้รับการสนับสนุนจากจีน ซึ่งเป็นคณะปกครองที่ถูกกล่าวหาว่าทำให้ผู้คนเสียชีวิตจำนวนกว่า 1 ล้านคน
แหล่งข่าวของสำนักข่าวจีนกล่าวว่า จีนเป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้าที่สำคัญของกัมพูชา ซึ่งต้องขอบคุณธุรกิจของจีนถึง 3,016 แห่งที่ดำเนินการอยู่ในกัมพูชาและสร้างรายได้ให้ถึง 1.58 พันล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว
เมื่อปี 2007 การค้าในระดับทวิภาคีโตขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปี 2006 โดยปริมาณการลงทุนทั้งหมดคิดเป็นมูลค่าถึง 730 ล้านดอลลาร์
การให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงด้านเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังส่งผลไปถึงระบบการป้องกันของประเทศอีกด้วย จีนได้ให้ความช่วยเหลือทางด้านการทหารแก่กัมพูชา โดยช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกองทัพเรือเมื่อปี 2007 รวมทั้งเรือรบอีก 5 ลำในปี 2005
แต่ยังคงมีแง่มุมอื่นๆ อีกมาก นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนและต่อต้านการคอรัปชั่นได้ประณามการค้าไม้ที่ผิดกฎหมาย ซึ่งตัวเลขเพิ่มขึ้น รวมทั้งการเอารัดเอาเปรียบแรงงาน และการเขยายตัวของการคอรัปชั่นในทุกๆ ระดับ
"เงินจำนวนมากซึ่งมักจะมาพร้อมกับเงื่อนไขต่างๆ จะถูกส่งไปยังเจ้าหน้าที่ในคณะรัฐบาล ซึ่งจะทำให้ปัญหาการคอรัปชั่นมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น" นายไซมอน เทย์เลอร์ (Simon Taylor) ผู้อำนวยการองค์การ Global Witness กล่าว
ในขณะเดียวกัน รัฐบาลกัมพูชาได้อนุมัติการก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำถึง 2 แห่งซึ่งเป็นการลงทุนโดยบริษัทจีน การก่อสร้างจะเริ่มในปลายปี 2008
โครงการดังกล่าวถูกต่อต้านโดยนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจำนวนมาก ซึ่งได้กล่าวว่าจะเป็นการสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงให้แก่ระบบนิเวศ รวมถึงความเสี่ยงต่อชีวิตของประชาชนนับพันๆ
เขื่อนทั้ง 2 แห่งจะถูกสร้างขึ้นในจังหวัดเกาะกง (Koh Kong) ซึ่งอยู่ทางตอนตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ โครงการก่อสร้างนี้จะสามารถดึงการลงทุนจากบริษัทของจีนได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
การลงทุนของบริษัทจีนนี้ยังทำให้เกิดแรงกระตุ้นให้นักเรียนจำนวนมากในกัมพูชาหันมาศึกษาภาษาจีนกลางมากกว่าภาษาอังกฤษ เนื่องจากภาษาจีนกำลังกลายเป็นอีกหนึ่งภาษาที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ โดยจะเป็นเหมือนความสามารถพื้นฐานสำหรับการเข้าไปสู่ตำแหน่งงานที่ดีทั้งในภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว
โรงเรียนจีนที่สำคัญในกัมพูชาคือ โรงเรียนดวนฮวา (Duan Hoa Chinese School) ซึ่งอยู่ในกรุงพนมเปญ มีนักเรียนลงทะเบียนเรียนกว่า 7,000 คน รองลงมาคือโรงเรียนชุงเจ็ง (Chhung Cheng Chinese School) ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากสำหรับครอบครัวชาวกัมพูชาเชื้อสายจีน โดยมีนักเรียนประมาณ 2,000 คน
รัฐบาลกัมพูชากล่าวว่า อาจจะบรรจุภาษาจีนเข้าไปในหลักสูตรการเรียนการสอนในระดับมหาวิทยาลัยอีกด้วย.