เวียดนามส่งเรียน “ดร.นอก” เพิ่มขึ้นทุกปี

ผู้จัดการออนไลน์ -- ถึงแม้ว่าเวียดนามกำลังปรับปรุงการเรียนการสอนระดับปริญญาเอกในประเทศอย่างทุ่มเท แต่กระทรวงศึกษาธิการและฝึกอบรม กล่าวว่า รัฐบาลจะส่งนักศึกษาไปเรียนระดับดุษฎีบัณฑิตในต่างประเทศเพิ่มขึ้นทุกปีเช่นเดียวกัน และจะต้องไปเรียนในสถาบันการศึกษาชั้นนำของโลกเท่านั้น

เรื่องราวดังกล่าวถูกระบุเอาไว้ในแผนการที่กระทรวงศึกษาธิการกำลังรวบรวม เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลในโครงการผลิตดุษฎีบัณฑิตให้ได้ 20,000 คน นับตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี 2020 ซึ่งเจ้าหน้าที่เวียดนาม กล่าวว่า โครงการนี้จะใช้เงินงบประมาณปีละหลายสิบล้านดอลลาร์

ตามแผนการดังกล่าว นักศึกษาจะต้องได้รับการฝึกอบรมในประเทศก่อน และจำนวนผู้ที่จะไปเรียนระดับดุษฎีบัณฑิตในต่างแดนนั้นจะเพิ่มขึ้นทุกปี โดยชุดแรกจะมีเพียง 400 คน ในปี 2008 เพิ่มขึ้นเป็น 1,200 คน ภายในปี 2015

ตามแผนของกระทรวงศึกษาธิการ นั้น นักศึกษาระดับปริญญาเอกจากเวียดนาม จะได้ไปเรียนในมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงของโลก กับมหาวิทยาลัยชั้นนำที่ติด 100 อันดับในเอเชีย

โครงการผลิตดอกเตอร์ 20,000 คน ใน 12 ปีของเวียดนาม จะดำเนินการภายใต้การเรียน 3 แบบ คือ เรียนต่างประเทศ, เรียนผสมผสาน (เรียนในประเทศและสถาบันต่างชาติที่ร่วมมือกันเพื่อผลิตด็อกเตอร์) และเรียนเฉพาะภายในประเทศ

ในการไปเรียนระดับปริญญาดุษฎีบัณฑิตในต่างแดนนั้น ผู้ไปเรียนจะต้องทำสัญญาเพื่อกลับมาเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยต่างๆ ในประเทศ หลังจากสำเร็จการศึกษา

กระทรวงศึกษาธิการ กำลังพิจารณาสร้างศูนย์สำหรับเตรียมผู้สมัครเรียนเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกในต่างแดน

ในปี 2008 กระทรวงนี้จะจัดตั้งศูนย์การศึกษาขึ้น 3 แห่ง เพื่อเตรียมคนโดยจะใช้เป็นศูนย์ฝึกฝนทักษะด้านภาษาต่างประเทศ สนับสนุนในการเตรียมตัวเข้าสู่กระบวนการเรียนและคำแนะนำเกี่ยวกับหัวข้อในการวิจัย ให้การศึกษาด้านการเมืองและเตรียมประสบการณ์เกี่ยวกับแผนการเรียนที่จะไปศึกษาต่อในต่างแดน

ตามตัวเลขของกรมการอุดมศึกษา ขณะนี้มีอาจารย์ระดับมหาวิทยาลัยและวิทยาลัย ประมาณ 11% เท่านั้นที่เรียนสำเร็จปริญญาเอก และ 43.1% จบปริญญาโท แต่ถ้าหากคำนวณเฉพาะในมหาวิทยาลัยแต่เพียงอย่างเดียวจะมีอาจารย์ดุษฎีบัณฑิต 14.9%

กระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า โครงการผลิตดุษฎีบัณฑิตให้มากขึ้นนี้ เป็นสิ่งที่จำเป็นมากในการปรับปรุงคุณภาพการศึกษาระดับอุดมศึกษาในยุคที่เวียดนามกำลังบูรณาการตัวเองเข้ากับประชาคมโลก

อธิบดีกรมการอุดมศึกษา นางเจิ่นถิห่า (Tran Thi Ha) กล่าวว่าการผลิตดุษฎีบัณฑิตนั้นจะต้องใช้เงิน 70 ล้านดอลลาร์ต่อปี

รายงานอีกชิ้นหนึ่ง กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อออกประกาศใช้เป็นระเบียบใหม่ในการบริหารจัดการการศึกษาระดับปริญญาเอก ซึ่งคาดว่าหลังจากเรียนจบระดับปริญญามหาบัณฑิตแล้ว นักศึกษาไม่ต้องสอบเข้าเรียนระดับปริญญา แต่จะต้องเรียนอย่างหนักยิ่งขึ้น

รายงานระบุว่า ผู้ที่จะเข้าศึกษาระดับปริญญาเอกได้จะต้องมีผลงานอย่างน้อย 1 ชิ้น ตีพิมพ์ในวารสารมีชื่อเสียงในต่างประเทศและต้องมีสอบ TOEFL ได้ระดับ 450 คะแนน หรือสอบ IELTS ได้ 5.0 จุด