ผู้จัดการออนไลน์-- สื่อในเวียดนามออกรายงานสภาพสังคมที่เสื่อโทรมลง การสอนศีลธรรมในหลักสูตรที่เริ่มน้อยลง ได้เป็นสาเหตุทำให้นักศึกษาเวียดนามเริ่มทำตัวเป็นอันพาธมากขึ้น รวมทั้งการรุมซ้อมทุบตีอาจารย์ที่เกิดบ่อยครั้งขึ้น แม้ว่าผู้สอนไม่ได้อะไรลูกศิษย์ลูกหาเหล่านั้นก็ตาม
สื่อของทางการยังคงโหมประโคมข่าวสะท้อนให้เห็นการทั่วสุมของนักเรียนนักศึกษา ซึ่งได้กลายเป็นปัญหาสังคมในวงกว้าง
สถิติของกระทรวงศึกษาธิการและฝึกอบรมได้เปิดเผยให้เห็นว่า จำนวนนักศึกษาอันธพาลมีอัตราเพิ่มขึ้นปีต่อปี
ระหว่างปี 2003-2007 มีนักศึกษา 27 คนถูกลงโทษจากการกระทำผิด 77 คนถูกจับกุมในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับคดีอาชญากรรม 126 คนถูกให้ออกจากมหาวิทยาลัย และอีก 2,533 คน ได้ละเมิดกฎข้อระเบียบของหาวิทยาลัย
สำนักข่าวซเวินจิ (Dan Tri) ออนไลน์ ซึ่งเป็นเว็บยอดนิยมในหมู่นักศึกษามหาวิทยาลัย ได้อ้างการเปิดเผยของนายฟุงแค็กบิ่ง (Phung Khac Binh) อธิบดีกรมกิจการนักเรียนนักศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งระบุว่า ไม่เพียงแค่นักศึกษาเท่านั้น แต่ยังพบว่าอาจารย์ผู้สอนก็เริ่มมีการก่ออาชญากรรมเช่นเดียวกัน
ในอดีตนั้นนักศึกษาไม่กล้าพอที่จะทำร้ายอาจารย์ และอาจารย์ก็ไม่ทำอะไรรุนแรงกับนักศึกษา แต่ในปัจจุบันนี้กลับเริ่มบานปลายมากขึ้น แสดงให้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นต่อศีลธรรมอันดีและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปของทั้งอาจารย์และนักศึกษา
นายบิ่งกล่าวว่า การสอนจริยธรรมและการอบรมให้ความรู้เรื่องคุณความดีจะต้องดำเนินควบคู่กันไป นักศึกษาควรได้รับการสอนให้เป็นพลเมืองดีที่มีคุณค่าต่อสังคมและมีบุคคลที่ดี
เหตุใดเหล่าปัญญาชนในอนาคตจึงถูกชักนำให้ก่ออาชญากรรม? ปัจจุบันมหาวิทยาลัยแห่งต่างๆ ยังขาดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักศึกษา ไม่ว่าจะเป็นหอพักและสถานที่พักผ่อนที่ขาดแคลนอย่างมาก ขณะที่นักศึกษาในปัจจุบันต้องการการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมเพิ่มขึ้น
เมื่อนักศึกษาไม่มีสถานที่สำหรับแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอย่างสร้างสรรค์ พวกเขาก็จะไปยังสถานที่ ที่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นร้านเกมหรือโต๊ะสนุ้กเกอร์ จำนวนหนึ่งรวมกลุ่มกันในอพาร์ทเมนต์ จัดกิจกรรมรื่นเริงจนถึงการมั่วสุมทางเพศ
ในปี 2002 กระทรวงศึกษาธิการฯ ได้ออกประกาศข้อบังคับเอาจริงกับนักศึกษาที่ "ขาดความรับผิดชอบ เพิกเฉย ต่อสิทธิหน้าที่ของพลเมือง” ซึ่งมีโทษถึงให้ออก.