ผู้จัดการรายวัน—ท่ามกลางราคาน้ำมันในตลาดโลกที่พุ่งไม่หยุด ความถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และอัตราเงินเฟ้อในประเทศที่พุ่งขึ้นสูง ทางการลาวยังคงตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจเอาไว้สูงถึง 8% ขณะเดียวกันก็ประกาศเพดานเพื่อควบคุมการแข็งค่าของเงินกีบเอาไว้ให้ได้ 5% ในปีนี้
ชาวไทยที่เดินทางเข้าลาวปลายปีที่แล้วสามารถใช้เงินบาทแลกเป็นเงินกีบได้กว่า 280 กีบต่อ 1 บาท แต่ในปลายเดือน มี.ค.-ต้นเดือน เม.ย.นี้อัตราแลกเปลี่ยนได้เปลี่ยนเป็น 270 กีบต่อบาท ซึ่งแสดงให้เห็นการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของเงินสกุลท้องถิ่นลาว
และหากเทียบกับเงินดอลลาร์แล้วเงินกีบแข็งค่ายิ่งกว่านั้นคือ สูงถึง 7% ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นรายงานของสื่อทางการ
สำนักข่าวสารปะเทดลาว (ขปล.) รายงานเรื่องนี้โดยอ้างการเปิดเผยของนายพูเพ็ด คำพูนวง ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติ ในการประชุมประจำปีแขนงการเงินการธนาคารที่จัดขึ้นในนครเวียงจันทน์ระหว่างวันที่ 28-29 เม.ย.
ผู้ว่าแบงก์ชาติลาวกล่าวด้วยว่า เป้าหมายการขยายตัวของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product) หรือจีดีพี ถูกกำหนดไว้ในระดับสูงถึง 8% จาก 7.5% เมื่อปีที่แล้วโดยตั้งเป้าแขนงการผลิตอุตสาหกรรมขยายตัว 15.8% แขนงบริการ 7% และ การลงทุนของภาครัฐเพิ่ม 8% จากปีที่แล้วโดยจะต้องควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้ได้ที่ 6%
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ประชาชนรายวัน ปีที่แล้วอัตราเงินเฟ้อในลาวอยู่ในระดับ 4.51% เท่านั้น
ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติได้ย้ำถึงการควบคุมระดับการแข็งค่าของเงินกีบ ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อการส่งออก แต่จะใช้นโยบายยืดหยุ่นและกำหนดเพดานการแข็งค่าเอาไว้ไม่เกิน 5% ขณะเดียวกันก็ตั้งเป้าสำรองเงินตราต่างประเทศให้เพียงพอรองรับการนำเข้าเป็นเวลากว่า 5 เดือน
ปีนี้ธนาคารชาติลาวได้ตั้งเป้าหมายระดมเงินฝากให้ขยายตัว 38% (หรือคิดเป็นประมาณ 27% ของจีดีพี) จาก 33% เมื่อปีที่แล้ว และ ขยายเพดานการปล่อยกู้เป็น 26% ในปีนี้จาก 23% ในปี 2550 ทั้งนี้เป็นตัวเลขของหนังสือพิมพ์ประชาชน
ตัวเลขทั้งหมดนี้ถูกกำหนดขึ้นในท่ามกลางความปั่นป่วนของเศรษฐกิจโลก
นายพูนเพ็ดได้อ้างรายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ ที่คาดว่าเศรษฐกิจโลกโดยรวมจะขยายตัวเพียง 4.8% ในปีนี้จาก 5.4% เมื่อปีที่แล้ว อันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศคู้ค้าต่างๆ ทำให้ภาวะเศรษฐกิจโดยทั่วไปยังมีความสลับซับซ้อน
ผู้ว่าแบงก์ชาติลาวยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับราคาทองและราคาน้ำมันที่ถีบตัวสูงมากและจะยังพุ่งขึ้นสูงต่อไปตราบเท่าที่ค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนตัว ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อในภูมิภาคต่างๆ รวมทั้งในย่านเอเชียขยายตัวในระดับสูง และจะต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
**ภาคการเงิน-การธนาคารขยายตัว**
รายงานของธนาคารแห่งชาติที่เสนอต่อการประชุมประจำปีของภาคการธนาคารทั่วประเทศครั้งนี้ ระบุว่าธนาคารกลางจะส่งเสริมให้การชำระราคาสินค้าโดยไม่ใช้เงินสดขยายตัวต่อไปจากปีที่แล้ว คู่ขนานไปกับการเพิ่มสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์แห่งต่างๆ
ปีที่แล้วธนาคารกลางของลาวได้ออกกฎระเบียบให้ธนาคารพาณิชย์แห่งต่างๆ รวมทั้งบริษัทห้างร้านทั่วไปใช้เงินกีบในการซื้อขายและชำระราคาสินค้าแทนเงินสกุลต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินบาทและเงินดอลลาร์ ทั้งนี้เพื่อสร้างเสถียรภาพให้แก่เงินสกุลของลาว
“อัตราแลกเปลี่ยนมีความสงบ เงินกีบมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์” หนังสือพิมพ์ของพรรคประชาชนปฏิวัติลาวอ้างข้อความตอนหนึ่งในเอกสารรายงานของธนาคารชาติ
อย่างไรก็ตามพ่อค้าแม่ค้าในระดับท้องถนนยังให้การต้อนรับการชำระราคาสินค้าเป็นเงินบาทอยู่ต่อไปตามปกติ
ต้นปีที่แล้วสภาแห่งชาติลาวได้ผ่านกฎหมายเกี่ยวกับธนาคารพาณิชย์ออกมาบังคับใช้เป็นครั้งแรก ซึ่งทำให้ธนาคารแห่งออสเตรเลียและนิวซีแลนด์หรือ ANZ สามารถเข้าซื้อหุ้นใหญ่ในธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งของลาวได้
กฎหมายดังกล่าวยังทำให้นำมาสู่การจัดตั้งธนาคารพงสะหวัน ซึ่งได้กลายเป็นธนาคารพาณิชย์ของเอกชนแห่งแรกที่นักลงทุนลาวถือหุ้นถึง 100%
ปีที่แล้วธนาคารแห่งชาติลาวยังจัดทำกฎระเบียบ อนุญาตให้ธนาคารต่างชาติจำนวนหนึ่งกับและธนาคารพาณิชย์ในประเทศสามารถขยายสาขาออกไปยังต่างแขวงได้
ปี 2550 ยังเป็นปีแรกที่มีการใช้เครื่องฝากและถอนเงินอัตโนมัติหรือ ATM ในลาวขยายตัวอย่างกว้างขวาง และเป็นปีแรกที่ข้ารัฐการสังกัดกระทรวงกับองค์การมหาชนจำนวนหนึ่งรับเงินเดือนโดยผ่านระบบธนาคาร
ตามรายงานของสื่อทางการในปี 2550 ทั่วประเทศมีเครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติทั้งหมดเพียง 55 เครื่อง คาดว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1 เท่าตัวในปีนี้โดยมีธนาคารของเอกชนนำหน้า
รายงานยังกล่าวว่า ธนาคารแห่งชาติจะส่งเสริมให้ค่าเงินกีบมีเสถียรภาพต่อไป แต่ให้มีความยืดหยุ่นเทียบกับเงินสกุลต่างชาติ ขณะเดียวกันก็จะส่งเสริมให้ระบบธนาคารพาณิชย์เติบโตต่อไป มีการแข่งขันที่สูงขึ้นเพื่อให้เป็นทางเลือกแก่ผู้ใช้บริการ
เมื่อปีที่แล้วลาวได้ประกาศแผนการจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์ขึ้นเป็นครั้งแรกโดยกำหนดขึ้นในปี 2553 คืออีก 2 ปีข้างหน้าด้วยความร่วมมือช่วยเหลือของตลาดหลักทรัพย์แห่งเกาหลี
ขณะเดียวกันรัฐบาลลาวก็กำลังอยู่ในกระขบวนการเจรจากับประเทศคู่ค้าต่างๆ ในการสมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (World Trade Organization)
นายพูเพ็ดได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่แล้ว พร้อมกับมีการเปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเงินจากนายจันสี โพสีคำ เป็นนายสมดี ดวงดี ซึ่งผู้สังเกตการณ์กล่าวว่าเป็นการเปลี่ยนทีมทำงานเพื่อเตรียมการเข้าเป็นสมาชิก WTO
ตามรายงานของสื่อทางการ เชื่อว่ากระบวนการทั้งหมดและการสมัครเข้าเป็นสมาชิกจะสำเร็จในปีหน้า.
