ผู้จัดการออนไลน์ -- ร้านค้าประเภทโชวห่วยในเวียดนามเริ่มรู้สึกต่อผลกระทบจากห้างใหญ่ของบรรดายักษ์ค้าปลีกระดับโลก ที่กำลังแผ่สาขาออกครอบคลุมเมืองและนครใหญ่ทั่วประเทศ ขณะที่เงินเฟ้อทำให้ทั่วเวียดนามกำลังประสบปัญหาสินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาสูงขึ้น
การแข่งขันในแขนงค้าปลีกได้ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมในการกำหนดราคาระหว่างในห้างขนาดใหญ่กับร้านค้าย่อย ตามห้างสรรพสินค้าใหญ่สินค้าจะมีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับร้านค้าประเภทโชวห่วยทั่วไป
บรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องดูแลการตลาดและความปลอดภัยผู้บริโภคของเวียดนาม ได้กล่าวถึงวิธีการแก้ปัญหา โดยต้องมีการควบคุมและตรวจสอบเพื่อกำหนดราคาที่แน่นอน หลีกเลี่ยงไม่ให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ นอกจากนั้นสินค้าผิดกฎหมายและหนีภาษียังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผลักดันให้ราคาสินค้าสูงขึ้น
รัฐบาลกล่าวว่า ปัญหาเกิดขึ้นเนื่องจาก 1 ใน 3 ของบรรดาร้านค้าปลีกส่วนใหญ่อ่อนแอไม่มีพลังและอำนาจในการต่อรอง ควรจะกำหนดให้มีอำนาจประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ จากเดิมที่มีเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าทางการตลาด
ตามความเห็นของผู้ที่มีส่วนร่วมในเรื่องนี้ การต่อรองราคาเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็มีผลกระทบต่อมูลค่า เพราะร้านค้าส่วนใหญ่ในฮานอยนั้นยังไม่มีอำนาจการต่อรองราคากับโรงงานผู้ผลิต ความต้องการสั่งสินค้าของพวกเขาลดลง จึงไม่สามารถรับประกันได้ว่าราคาสินค้าจะลดลงหรือไม่
เห็นได้ชัดว่า ร้านไหนขายได้จำนวนมาก แสดงว่า มีความสามารถในการต่อรองราคาที่ดีกว่า ในทางตรงกันข้ามร้านไหนขายได้น้อยก็จะมีสิทธิต่อรองราคาได้ยากกว่า ร้านขายปลีกไม่ได้เป็นจุดเริ่มต้นของการจำหน่ายสินค้า แต่เป็นเพียงที่ที่รอส่งสินค้าเพื่อจำหน่าย จึงมีต้นทุนที่สูงและทำให้สินค้าราคาสูงขึ้นตามไปด้วย
ปัญหาดังกล่าวนี้บรรดาร้านค้าเคยประชุม เพื่อหาทางแก้ปัญหาแล้ว แต่ปัจจุบันนี้ร้านค้าใหญ่ๆ ยังคงมีอิทธิพลต่อกลไกราคาสินค้าในท้องตลาด และ เป็นส่วนหนึ่งของสถานการณ์สินค้าราคาแพงที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้
ร้านค้าประเภทซูเปอร์สโตร์ ดิสเคาต์สโตร์ ขนาดใหญ่ของบริษัทยักษ์ค้าปลีกระดับโลกหลายแห่งได้เข้าไปเปิดให้บริการในเวียดนาม โดยเฉพาะห้าง Cash&Carry ยักษ์ค้าปลีกจากเยอรมนีกำลังขยายสาขาออกไปอย่างกว้างขวาง อีกหลายบริษัทกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่เวียดนาม
ประเทศคอมมิวนิสต์แห่งนี้เข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลกในเดือน ม.ค.2550 และ จะต้องเปิดภาคบริการ ซึ่งรวมทั้งแขนงการค้าปลีกให้ต่างชาติสามารถเข้าแข่งขันได้ ตั้งแต่ปี 2552 นี้เป็นต้นไป