ผู้จัดการรายวัน-- เมื่อเปิดให้บริการในอีก 6 ปีข้างหน้า รถไฟฟ้าสายแรกของนครโฮจิมินห์จะจำหน่ายตั๋วโดยสารในราคาเพียง 9,000 ด่ง หรือประมาณ 16 บาทต่อเที่ยวเท่านั้น ราคานี้ต่ำกว่าค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรถจักรยานยนต์ที่เดินทางในระยะทางเท่าๆ กัน
นายเจิ่น-ถิ-แอ็ง-เงวี๊ยด (Tran Thi Anh Nguyet) รองประธานคณะกรรมการบริหารรถไฟฟ้าเขตเมืองแห่งนครโฮจิมินห์ ระบุในคำแถลงฉบับหนึ่งที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (18 ก.พ.) ว่า รถไฟฟ้าจะช่วยชาวโฮจิมินห์ประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมากหากเทียบกับการสัญจรโดยรถจักรยานยนต์ระยะทางเท่ากันซึ่งจะต้องจ่ายค่าน้ำมันประมาณ 10,000 ด่ง
"เงินจำนวน 10,000 ด่งเป็นราคาเฉลี่ยสำหรับน้ำมันเบนซินประมาณ 0.8 ลิตรสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ในการเดินทาง 20 ก.ม." นอกจากนั้นรถไฟฟ้ายังช่วยประหยัดค่าสึกหรอกับค่าซ่อมแซม และไม่ต้องเสี่ยงต่ออุบัติเหตุการจราจรอีกด้วย นางแองเงวี๊ยตกล่าว
"ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์จะไม่สามารถเดินทางไปอย่างสบายใจเหมือนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าของเรา" นางเงวี๊ยตกล่าวในโอกาสที่จะมีพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างสัปดาห์นี้
คณะกรรมการชุดนี้กล่าวว่า ทางการได้ลงทุนสร้างรถไฟฟ้าสายแรกของประเทศ และกำหนดค่าบริการในอัตราดังกล่าว ก็เพื่อจูงใจให้ประชาชน 8 ล้านหันไปใช้บริการ เป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรที่อยู่ในขั้นวิกฤต ลดความสิ้นเปลืองน้ำมันที่ต้องนำเข้า
หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงวันพฤหัสบดี (21 ก.พ.) นี้ การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายตลาดเบ๊นแถ่ง (Ben Thanh)-เสือยเตียน (Suoi Tien) ระยะทางราว 20 ก.ม.มูลค่าเกือบ 1,100 ล้านดอลลาร์ก็จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยมีกำหนดแล้วเสร็จและเริ่มให้บริการในปี 2557
เบ๊นแท็ง-เสือยเตียน จะเป็นเส้นทางแรกจากแผนแม่บทการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนรวมทั้งหมด 6 สายในนครใหญ่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งยังจะมีการก่อสร้างระบบไฟฟ้าลอยฟ้ารางเดี่ยวอีก 3 สายด้วย
ทั้งหมดอยู่ในแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่จะดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงปี 2563 เมื่อการก่อสร้างทุกระบบแล้วเสร็จสมบูรณ์ ระบบขนส่งมวลระบบรางนครโฮจิมินห์จะมีระยะทางรวมกัน 107 ก.ม.
เดือน เม.ย.2550 ทางการนครโฮจิมินห์ได้เซ็นสัญญาการเงินกับรัฐบาลญี่ปุ่นรวม 904.7 ล้านดอลลาร์ ทั้งในรูปความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการเพื่อการพัฒนา (Official Development Assistance) และ เงินกู้ผ่อนปรน ผ่านธนาคารเพื่อความร่วมมือกับต่างประเทศหรือ JBIC (Japan Bank for International Cooperation)
ทางการนครโฮจิมินห์จะใช้งบประมาณสมทบอีกจำนวน 186.6 ล้านดอลลาร์เพื่อการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายแรกของประเทศ ซึ่งทั้งหมดจะดำเนินการโดยรัฐ
รัฐบาลญี่ปุ่นยังให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่าแก่รัฐบาลเวียดนามในการจัดทำแผนแม่บทสำหรับรถไฟฟ้าสายแรกนี้และได้ว่างจ้างบริษัท Nippon Koei เป็นบริษัทที่ปรึกษา
ตามรายงานของเวียดนามเอ็กซ์เพรส (VietnamExpress) รถไฟฟ้าสายแรกจะประกอบด้วยส่วนที่อยู่ใต้ดิน 2.6 ก.ม. จากสถานีต้นทางตลาดเบ๊นแถ่งผ่านมุดย่านใจกลางเมือง-โรงละครโอเปราในเขตอำเภอที่ 1 ไปจนถึงแม่น้ำไซง่อน
รถไฟฟ้าสายแรกจะมีสถานีใต้ดิน 3 แห่ง บนพื้นดินอีก 11 แห่ง แล่นผ่านอำเภอที่ 2 และ 9 กับ อ.บิ่งแท็ง (Binh Thanh) ผ่านตอนใต้เขต อ.ดี๋อาน (Di An) จ.บิ่งซเวือง (Binh Duong) ที่อยู่ติดกัน ที่นั่นเป็นเขตอุตสาหกรรมใหญ่ในภาคใต้ ก่อนจะวกลงไปจอดสถานีสุดท้ายใกล้กับสวนสาธารณะเสือยเตียนในเขต อ.ถูดึ๊ก (Thu Duc) นครโฮจิมินห์
พิธีวางศิลาฤกษ์ในวันพฤหัสบดีนี้จะจัดขึ้นที่บริเวณก่อสร้างโรงจอดรถไฟฟ้า ต.ลองบิ่ง (Long Binh) ใน อ.ที่ 9 โดยนางเงวี๊ยตกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ได้อพยพโยกย้ายราษฎรที่ได้รับผลกระทบออกไปอาศัยในอาณาบริเวณแห่งใหม่ และทางการได้จ่ายเงินค่าชดเชยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตามยังมีราษฎรที่ได้รับผลกระทบในเขตอำเภออื่นๆ อีก การอพยพโยกย้ายตลอดจนการแก้ไขปัญหาจะดำเนินไปจนถึงเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นกำหนดการส่งมอบที่ดินให้แก่บริษัทที่ทำการก่อสร้าง
ทางการนครโฮจิมินห์จะเปิดประกวดราคาก่อสร้างสถานีจอดรถไฟฟ้าลองบิ่ง (Long Binh Depot) หลังจากการออกแบบแล้วเสร็จสมบูรณ์ต้นปีหน้า นางเงวี๊ยตกล่าว
เจ้าหน้าที่ผู้นี้ไม่ได้กล่าวถึงเทคโนโลยีและระบบรถไฟฟ้าที่จะใช้ แต่สื่อของรัฐรายงานเมื่อปีที่แล้วว่า ทางการโฮจิมินห์ตัดสินใจใช้มาตรฐานของ Japanese Urban Railway System Standard for Asia (STRAY) ของรัฐบาลญี่ปุ่น ในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายแรก
อย่างไรก็ตามกลุ่มอาลสตอม (Alstom) ซึ่งเป็นเจ้าของเทคโนโลยีระบบรถไฟฟ้าจากฝรั่งเศส เช่นเดียวกับบริษัทใหญ่จากญี่ปุ่น 2 แห่งคือ Sumitomo กับ Nippon Koei ต่างเสนอตัวเป็นผู้จัดหาและสนองอุปกรณ์ต่างๆ ให้แก่การก่อสร้าง รวมทั้งระบบรถด้วย
นางเงวี๊ยตกล่าวว่า รถไฟฟ้าโฮจิมินห์สายแรกจะมีบริการต่างๆ สำหรับผู้โดยสารทุพลภาพและผู้ด้อยโอกาสทุกสถานีตลอดสาย ใช้ระบบจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ มีโทรศัพท์ ห้องน้ำ มีระบบการให้ข่าวสารแก่ผู้โดยสารที่บกพร่องเกี่ยวกับการได้ยินและผู้พิการทางสายตาด้วย
ในขั้นแรกระหว่างปี 2557-2563 จะมีรถให้บริการรวมจำนวน 6 คัน เพื่อขนส่งผู้โดยสารวันละ 162,000 คน ในระยะต่อไประบบรถไฟฟ้าโฮจิมินห์จะพัฒนาเพื่อรับผู้โดยสารให้ได้ 635,000 คนต่อวัน และเพิ่มขึ้นเป็น 800,000 คนต่อวันในปี 2583
ในชั่วโมงเร่งด่วนรถไฟฟ้าสายแรกนี้จะให้บริการทุก 5 นาทีต่อเที่ยว และ ใช้เวลาในการเดินทาง 29 นาทีตลอดสาย
ทางการนครโฮจิมินห์ยังมีแผนการพัฒนาที่ดินตลอดเส้นทาง จะมีสิ่งก่อสร้างต่างๆ ผุดขึ้นหลายแห่ง รวมทั้งลานจอดรถ สถานีขนส่ง กับศูนย์การค้าด้วย เป็นการสนับสนุนและต่อยอดการให้บริการของรถไฟฟ้าสายแรกของประเทศ เวียดนามเอ็กซ์เพรสกล่าว.
