องค์การบริหารการท่องเที่ยวลาวจัดเทศกาลช้างขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในเดือน ก.พ.นี้ โดยได้ย้ายสถานที่จากเมืองหงสาเมื่อปีกลาย ไปยังเมืองปากลาย แขวงแขวงไซยะบุลีเช่นเดียวกัน ซึ่งการคมนาคมสะดวกกว่าด้วยประการทั้งปวง
ไซยะบูลีได้ชื่อว่าเป็น "เมืองช้าง" เช่นเดียวกันกับ จ.สุรินทร์ของไทย ที่มีการจัดงานช้างประจำทุกปี ทางการลาวกล่าวว่า นอกจากจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้ว ก็ยังเป็นการอนุรักษ์ช้างพื้นเมืองของชาติ ขณะที่ช้างป่าอาศัยอยู่ในป่าธรรมชาติเริ่มมีจำนวนลดน้อยลงทุกที
งานช้างหรือเทศกาลช้าง (Elephant Fair) ปีนี้ มีกำหนดขึ้นระหว่างวันที่ 15-17 ก.พ. แต่ละวันโปรแกรมแน่นเอียด ทั้งหมดเป็นเรื่องราวระหว่างคนกับช้าง แถมพกด้วยการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมหลากเนื้อหา
ปีนี้จะมีช้างเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 70 เชือก
ตามกำหนดการนั้นวันแรกของงานจะมีพิธีบวงสรวง การจัดแปรขบวนของช้าง อาบน้ำช้าง การแสดงภารกิจของควานช้าง การแสดงช้างศึก
นอกจากนั้นก็มีการสัมมนาวิชาการอนุรักษ์ช้าง ตกเย็นมีฉายภาพยนตร์จอยักษ์เกี่ยวกับคาราวานข้าง มีคอนเสิร์ตของศิลปินนักร้องจากเวียงจันทน์ มีงานสวนสนุกและตลาดโต้รุ่ง
วันที่สองของงานจะมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมของชาวเมืองปากลาย มีทั้งการแข่งเรือ แข่งบั้งไฟ การจัดแสดงของช้างอีกตลอดทั้งวัน มีการประกวดช้างพังประจำปี ตกกลางคืนก็มีภาพยนตร์จอยักษ์ และคอนเสิร์ตกับตลาดโต้รุ่งเหมือนเมื่อคืนก่อน
งันสุดท้ายซึ่งเป็นวันอาทิตย์จะมีพิธีทางศาสนา และงานบายศรีสู่ขวัญช้าง แสดงการฝึกลูกช้าง จัดพิพิธภัณฑ์ช้างกลางแจ้ง จัดวิ่งแข่งช้าง การแสดงนิทรรศการภาพศิลปะร่วมสมัย ประกวดการเขียนภาพ การแสดงพลุกับดอกไม้ไฟตระการตา การแสดงคอนเสิร์ต ฯลฯ
นักท่องเที่ยวจากไทยต้องการเพียงหนังสือเดินทางที่ยังใช้ได้อีกอย่างน้อย 6 เดือน เจ้าตัวไม่มีชื่อในบัญชีอาชญากรข้ามชาติ เท่านั้นก็สามารถนำไปลงตราตรวจคนเข้าเมืองได้ที่ด่านสากลน้ำเหือง ระหว่าง อ.ท่าลี่ จ.เลย กับเมืองแก่นท้าว แขวงไซยะบูลี
จากด่านสะพานมิตรภาพน้ำเหือง เดินทางต่อไปยังเมืองปากลายทาง ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง 20 กม. เศษโดยรถประจำทาง หรืออาจจะมีรถพิเศษที่ทางการลาวจัดอำนวยความสะดวก
หรือจะข้ามไปเวียงจันทน์จับรถประจำทางจากที่นั่นไปยังเมืองปากลายก็ได้ แต่เดินทางนานหน่อย เพราะอยู่ไกลกว่า ทั้งหมดนี้สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดได้ในเว็บไซต์ขององค์การบริหารการท่องเที่ยวลาว
เว็บไซต์ยังให้คำแนะอื่นๆ อีกหลายอย่างสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากไทย รวมทั้งการจองเกษตรเฮาส์ที่พักล่วงหน้า เพื่อให้มีหลักประกันว่าจะมีที่พักสะดวกสบายไม่ลำบากนัก ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจนอนเต็นท์
เว็บไซต์ยังให้คำแนะนำที่มีประโยชน์อีกหลายเรื่อง รวมทั้งการที่ควรจะต้องเตรียมยาทากันยุงติดตัวไปด้วย
จากปากลายยังสามารถเดินทางไปยังเมืองไซยะบูลีซึ่งอยู่ห่างขึ้นไป 100 กม.เศษ ตามถนนที่ลาดยางเป็นช่วงๆ และ ทุละกันดารเป็นช่วงๆ เมื่อถึงเมือเอกของแขวงนี้ เมืองหลวงพระบางมรดกโลกก็จะอยู่ไม่ไกล ตามทางหลวงเลข 4 ที่มีสภาพดีกว่า
แขวงไซยะบูลีเป็นดินแดนแห่งแม่น้ำ ขุนเขา และทุ่งราบแห่งการเกษตร บริษัทใหญ่จากไทยไปลงทุนทำเกษตรพันธะสัญญาปลูกสาลี (ข้าวโพด) ที่นั่น
แต่อีกไม่กี่ปีข้างหน้าอาจจะมีการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำโขงในแขวงนี้อย่างน้อย 2 แห่ง รวมทั้ง "เขื่อนปากลาย" ด้วย ถึงเวลานั้นอะไรๆ ก็จะเปลี่ยนไปหมด.
ไปเที่ยวงานช้างทั้งมีก็น่าจะเป็นโอกาสดีที่จะได้ไปดูอย่างอื่น.