xs
xsm
sm
md
lg

ไฟฟ้าหงสาฯแสนล้านลงตัวบ้านปู-ราชบุรีตีปีกราคาใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยและฝ่ายลาวได้ร่วมกันลงนามในเอกสารความร่วมมือหลายฉบับในวันพุธ (13 พ.ค.) ที่ผ่านมา รวมทั้งบันทึกช่วยความจำเพื่อความเข้าใจฉบับหนึ่งว่าด้วยการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการหงสาลิกไนต์มูลค่าเกือบ 1 แสน 3 หมื่นล้านบาท โดยฝ่ายไทยได้ให้ความเห็นชอบต่อข้อเสนอราคาซื้อขายไฟฟ้าจากโครงการดังกล่าว ซึ่งมีกำหนดจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าระบบกฟผ.ในปี 2558

ปัจจุบันโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนจากถ่านหินหงสาลิกไนต์เป็นโครงการลงทุนใหญ่ที่สุดของไทยในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีมูลค่าถึง 3,700 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 129,500 ล้านบาท) โดยบริษัทบ้านปูจำกัด (มหาชน) หรือ BANPU กับ บริษัท
ราชบุรีโฮลดิ้งจำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ถือหุ้นฝ่ายละ 40 อีก 20 เป็นของรัฐวิสาหกิจถือหุ้นลาว ซึ่งเป็นของรัฐบาล

ด้วยกำลังปั่นไฟขนาด 1,648 เมกะวัตต์ หงสาลิกไนต์ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองหงสา แขวงไซยะบูลี เป็นโครงการผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดที่ลงมือก่อสร้างใน สปป.ลาวปัจจุบัน

การลงทุนแบ่งเป็นสองส่วน คือ 2,900 ล้านดอลลาร์ในส่วนของโรงไฟฟ้า กับอีก 800 ล้านดอลลาร์ เป็นการลงทุนในเหมืองถ่านหินคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้าได้ในปี 2553 และจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ทันที่ในปี 2558 ใน ราคาเสนอซื้อขาย 2.275 บาทต่อหน่วย

นายนพพล มิลินทรางกูร กรรมการผู้จัดการบริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีฯ เปิดเผยตัวเลขดังกล่าว และแสดงความหวังว่าโครงการหงสาลิกไนต์จะให้ผลตอบแทนการลงทุนหรือ IRR แก่ผู้ถือหุ้นเป็นเลข 2 หลัก

กฟผ. ได้ตกลงซื้อไฟฟ้าจำนวน 1,473 เมกะวัตต์ อีก 175 เมกะวัตต์จะจำหน่ายให้แก่รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (Electricite du Laos) ทั้งนี้เป็นรายงานของบริษัทราชบุรีฯ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เช่นเดียวกับบริษัทบ้านปูฯ

กว่า 10 ปีมานี้โครงการหงสาลิกไนต์ล้มลุกคลุกคลานมาตลอดอันเนื่องมาจากปัญหาการเงิน จนกระทั่งกลุ่มผู้ลงทุนปัจจุบันเข้าดำเนินการต่อ มีการเซ็นความตกลงการลงทุนกับทางการลาวเมื่อปีที่แล้ว ผู้บริหารโครงการเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าอาจจะมีการเจรจาหาพันธมิตรเข้าร่วมถือหุ้นอีกอย่างน้อย 1 รายในอนาคต ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าจากจีน

วันเดียวกันเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องไทยและลาวยังร่วมลงนามในบันทึกฯ และสัญญาเกี่ยวกับการซื้อขายไฟฟ้าอีก 4 ฉบับ ได้แก่บันทึกความเข้าใจการรับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินความต้องการของ EDL จากโครงการน้ำเทิน 2 โดย กฟผ.จะรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการดังกล่าว เพิ่มเติมอีก 75 เมกะวัตต์จากจากเดิมที่กำหนดไว้ 920 เมกะวัตต์ และ บันทึกความเข้าใจความร่วมมือในการเชื่อมต่อระบบส่งไฟฟ้า 115 กิโลโวลต์จุดใหม่ ระหว่างสถานีไฟฟ้าท่าลี่ จ.เลย กับสถานีไฟฟ้าเมืองปากลาย แขวงไชยะบุลี

ภายใต้บันทึกดังกล่าว กฟผ. "จะให้ความร่วมมือในการเชื่อมต่อระบบส่งไฟฟ้าจุดใหม่เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล สปป.ลาวที่จะให้ประชาชนลาวมีไฟฟ้าใช้ตามหมู่บ้านต่างๆ 90% ภายในปี 2563 และ เพื่อเพิ่มความมั่นคงในการจ่ายไฟฟ้าของรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว"

อีกสองรายการเป็นการลงนามในสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการน้ำงึม 1 ครั้งที่ 1และ โครงการเซเสดครั้งที่ 2 โดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้ EDL ชำระค่าพลังงานไฟฟ้าที่ซื้อจาก กฟผ.คืนในรูปของพลังงานไฟฟ้าจากเขื่อนน้ำงึม 1 และเซเสด 1 โดยมีกำหนดส่งคืนในปี 2554-2556

โครงการหงสาลิกไนต์เป็นอีกโครงการหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงเมื่อปีที่แล้ว ส่งผลกระทบทำให้ราคาสินค้าและวัสดุต่างๆ ในการก่อสร้างพุ่งสูงขึ้น ทำให้ต้องเจรจาซื้อขายไฟฟ้ากันใหม่

สื่อทางการลาวรายงานก่อนหน้านี้ว่าวิกฤติการณ์ทางการเงินระดับโลกได้ส่งผลกระทบต่อโครงการผลิตไฟฟ้าในลาวรวม 7 โครงการ บางโครงการต้องเลื่อนเวลาในการก่อสร้างออกไป 1-2 ปี เนื่องจากมีต้นทุนสูงขึ้น และจะต้องมีการเจรจาทำความตกลงเกี่ยวกับการลงทุน ตลอดจนอัตราซื้อขายไฟฟ้ากันใหม่ รวมทั้งโครงการหงสาลิกไนต์ด้วย

การลงนามในเอกสารความร่วมมือต่างๆ เหล่านี้ยังมีข้นระหว่างการเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะพระราชอาคันตุกะ ของประเทศลาว พล.ท.จมมะลี ไซยะสอน ซึ่งเป็นเลขาธิการใหญ่พรรคประชาชนปฏิวัติลาวอีกด้วย

สองฝ่ายยังได้ร่วมลงนามรับรองบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย-ลาว ครั้งที่ 15 (23-25 มีนาคม 2552) ที่เซ็นกันในเมืองหลวงพระบาง ที่ประชุมซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสองประเทศเป็นประธานร่วม ได้ติดตามความร่วมมือไทย-ลาวและได้กำหนดแผนงานความร่วมมือระหว่าง

กันในภาพรวมในด้านการเมืองและความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคม เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายนำไปปฏิบัติ

ไทยและลาวยังร่วมกันลงนามในความตกลงว่าด้วยการแลกเปลี่ยนสิทธิการเช่าที่ดินระหว่างกันเพื่อใช้ในงานทางการกงสุล โดยฝ่ายลาวจะใช้เป็นสถานที่ทำการของสถานกงสุลใหญ่ ณ จังหวัดขอนแก่น ส่วนไทยจะใช้เป็นสถานที่ทำการของสถานกงสุลใหญ่แขวงสะหวันนะเขต ในอัตรา 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ปี เป็นระยะเวลา 30 ปี บนหลักการต่างตอบแทน
กำลังโหลดความคิดเห็น