xs
xsm
sm
md
lg

VN-index ดิ่งเหวหุ้นเวียดนามสิ้นยุคทอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



ผู้จัดการรายวัน-- ทางการเวียดนามได้เลื่อนกำหนดการกระจายหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ของรัฐออกไปอย่างไม่มีกำหนด หลังจากดัชนีหุ้นดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในช่วงปีใหม่เป็นต้นมา และ ยังไม่ทราบเกี่ยวกับการจำหน่ายหุ้นรัฐวิสาหกิจใหญ่อีกหลายแห่งรวมทั้งบินเวียดนามแอร์ไลนส์ด้วย


หลายกระแสบอกว่า "ยุคทอง" ของตลาดหุ้นเวียดนามได้ผ่านไปแล้ว กระทิงเปลี่ยวได้หยุดวิ่งและเจ้าหมีขี้เซากำลังจะออกมานอนซึมตลอดเวลาอีกหลายเดือนข้างหน้า

ดัชนีหุ้นตลาดหลักทรัพย์นครโฮจิมินห์ VN-index ตกลงราว 16% นับตั้งแต่เปิดการซื้อปีนี้เป็นต้นมา หลังจากทะยานขึ้นประมาณ 23% เมื่อปีที่แล้ว

เมื่อวันศุกร์ (25 ม.ค.) VN-index วิ่งขึ้น 19.91 จุดหรือ 1.6% ไปปิดที่ 776.04 จุด หลังจากหล่นลงทำสถิติต่ำสุดในรอบ 1 ปีในวันพฤหัสบดี ท่ามกลางความตื่นตระหนกของนักลงทุน ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์ไซง่อยหยายฟอง (Saigon Giai Phong)

นักวิเคราะห์มองว่า โอกาสที่ตลาดหุ้นเวียดนามจะกลับมาฟู่ฟ่าอีกครั้งหนึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ไม่มีอีกแล้ว อย่างเร็วที่สุดก็น่าจะเป็นกลางปีเมื่อตลาดปรับตัวเข้าใกล้กับสภาพที่เป็นจริงมากที่สุด

นักวิเคราะห์มองว่าไม่เพียงแต่ดัชนีหุ้นเวียดนามจะสะท้อนสภาพตลาดหุ้นภูมิภาคที่ย่ำแย่เท่านั้น แต่การตกต่ำของ VN-index ยังมีสาเหตุมาจากกฎระเบียบภายในประเทศ รวมทั้งการจำกัดเพดานการถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติอีกด้วย

ตลาดหุ้นโฮจิมินห์ซึ่งยังเยาวัยมีขนาดเล็กเทียบยังไม่ได้กับตลาดหุ้นประเทศเพื่อนบ้านที่พัฒนามาก่อน แต่ก็มีความคึกคักมากในช่วงปีสองปีมานี้ ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวเฉลี่ยปีละ 8.2%

ปัจจุบันตลาดโฮจิมินห์มีบริษัทจดทะเบียนยังไม่ถึง 200 แห่ง และ การซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติก็คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของทั้งตลาดเท่านั้น แต่ทุนต่างชาติหวังที่จะได้เข้าไปตักตวงผลกำไรจากหุ้นตัวใหม่ๆ ที่มีกำหนดจะออกทำไอพีโอ (Initial Public Offering) ในปีนี้

อย่างไรก็ตามในเดือน ม.ค.นี้ คณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เวียดนาม ได้ส่งสัญญาณเตือนให้บริษัทต่างๆ ที่จะเข้าจดทะเบียนได้ทบทวนเงื่อนเวลาออกไอพีโอใหม่ ในขณะที่ตลาดหุ้นซบเซา และตลาดอาจจะไม่สามารถรองรับได้

ความจริงคณะกรรมการหลักทรัพย์ฯ เวียดนามได้ส่งสัญญาณเรื่องนี้มาตั้งแต่ปลายปี ซึ่งตามกำหนดเดิมแล้วธนาคารขนาดใหญ่ของรัฐบาลจำนวน 4 แห่งจะต้องทำไอพีโอตั้งแต่ก่อนสิ้นปี แต่แล้วก็มีเพียงธนาคารเวียดนามพาณิชย์ (Vietcombank) เท่านั้นที่นำหุ้นออกเสนอขายก่อนปี 2550 จะสิ้นสุดลง

อย่างไรก็ตามราคาหุ้นของ Vietcombank ไม่เป็นที่น่าพอใจ และจนกระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่มีการนำหุ้นของธนาคารใหญ่อันดับ 3 ของประเทศเข้าซื้อขายในตลาดโฮจิมินห์

ยังไม่มีการส่งสัญญาณใดๆ ว่า จะมีการนำหุ้นของ Vietcombank เข้าซื้อขายในตลาดเมื่อไร เพราะในเวียดนามนั้นการออกไอพีโอกับการเทรดในตลาดหุ้นเป็นคนละเรื่องกัน

ราคาหุ้นของ Vietcombank สะท้อนอุปสงค์และอุปทานของตลาดได้เป็นอย่างดี ในสัปดาห์นี้ทางการได้ประกาศการเลื่อนไอพีโอของธนาคารเพื่อการเกษตรหรือ Vietnam Bank for Agriculture หรือ Agribank ออกไป หลังจากนักลงทุนตั้งตารอคอยมานาน

อีกตัวหนึ่งคือหุ้นของบริษัทไซ่ง่อนเบียร์ แอลกอฮอล์และเครื่องดื่ม (Saigon Beer Alcohol and Beverage Corp) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Sabeco ที่กำหนดจะออกไอพีโอในวันจันทร์ (28 ม.ค.) นี้ ก็ได้รับสัญญาณน่าผิดหวัง เนื่องจากผลสำรวจความต้องการของนักลงทุนแล้วพบว่าต่ำมาก

ต้นเดือน ม.ค.นี้ Sabeco ได้ประกาศแผนการกระจายหุ้น 20% ในตลาด เพื่อระดมทุนประมาณ 557 ล้านดอลลาร์ หลังจากได้เลื่อนมาตั้งแต่เดือน ส.ค.ปีที่แล้ว และเพิ่งจะได้รับอนุมัติจากรัฐบาลซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในวันที่ 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา

นี่คือบริษัทเบียร์ที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามเป็นเจ้าของเบียร์ยี่ห้อ "บาบาบา" หรือ "333" ที่เก่าแก่มีชื่อเสียง และมีขายอยู่ทั่วโลก ครองตลาดในประเทศราว 30% มียอดจำหน่ายขยายตัวปีละ 10% ในช่วงปีใกล้ๆ นี้

ตลาดเบียร์เวียดนามขยายตัวรวดเร็วมาก และ หุ้นบริษัทเบียร์เป็นสิ่งที่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศต่างปรารถนา

ในเดือน ธ.ค.2550 Sabeco ได้เซ็นบันทึกช่วยความจำกับ Anheuser-Busch International Inc หรือ ABII บริษัทเบียร์ใหญ่จากสหรัฐฯ เจ้าของยี่ห้อบัดไวเซอร์ (Budweiser) เพื่อทำตลาดทั้งในสหรัฐฯ และในเวียดนามร่วมกัน

บริษัท Sabeco ส่งเบียร์ 333 ไปจำหน่ายในสหรัฐฯ ทุกเดือน มีส่วนแบ่งตลาดที่นั่นราว 0.01% ซึ่งนับว่าไม่น้อยเลย โดยมีลูกค้าหลักคือชาวเวียดนามโพ้นทะเลซึ่งมีอยู่หลายแสนคน

"การที่ยังไม่มีการนำหุ้นเวียดคอมแบงก์ออกซื้อขายและความสนใจหุ้นไซ่ง่อนเบียร์ฯ ที่มีบางเบาได้แสดงให้เห็นว่ากระบวนการกระจายหุ้นไม่แจ่มใสอีกต่อไปแล้ว" นายดิค เวรีย์ (Dick Verey) หัวหน้าฝ่ายเทรดบริษัทแม่โขงหลักทรัพย์ (Mekong Securities) ในนครโฮจิมินห์กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์

อย่างไรก็ตามพรรคคอมมิวนิสต์กับรัฐบาลเวียดนามมีนโยบายแน่แน่วที่จะแปรรูปรัฐวิสาหกิจต่างๆ ในกระบวนการระดมทุนเพื่อพัฒนาประเทศ รวมทั้งเพื่อให้เป็นไปตามพันธะสัญญาที่ให้ไว้ต่อองค์การการค้าโลก แต่สำหรับตลาดหุ้นประเทศนี้ยังไม่ได้เปิดให้นักลงทุนต่างชาติถึง 100% เต็ม

ตลาดหุ้นเวียดนามเพิ่งจะเป็นที่รู้จักกันในหมู่นักลงทุนก็เมื่อปี 2549 นี่เอง ปัจจุบันทั้งตลาดหุ้นโฮจิมินห์กับศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ฮานอย ซึ่งเป็นตลาดแบบโอทีซี ก็ยังมีมูลค่ารวมกันเพียงประมาณ 30,000 ล้านดอลลาร์

ทางการเวียดนามให้นักลงทุนต่างชาติถือครองหุ้นบริษัทต่างๆ ได้เพียง 49% เท่านั้นและไม่เกิน 30% สำหรับหุ้นธนาคารต่างๆ.
กำลังโหลดความคิดเห็น