เอกสารลับที่เคยเป็นเรื่องลับสุดยอดจากยุคสงครามเวียดนามได้เปิดเผยความลับออกมาหลายอย่าง รวมทั้งการที่หน่วยรบของกองทัพสหรัฐฯ บางหน่วยเคยถูกฝ่ายเวียดนามเหนือแสร้งเป็นพวกเดียวกันส่งวิทยุ หลอกแจ้งพิกัดให้ช่วยยิงถล่ม "ศัตรู" ซึ่งต่อมาได้ปรากฏว่า เป็นการยิงที่ตั้งฝ่ายสหรัฐฯ เอง
มีเรื่องราวที่ฝ่ายสหรัฐฯ ถูกหลอกแบบนี้ในหลายเหตุการณ์
ส่วนใหญ่ในเอกสารเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการถอดรหัสลับและการดักฟังการสื่อสารของฝ่ายตรงข้าม FAS เปิดเผยสัปดาห์ที่แล้วว่า ในปี 2488 หน่วยดักฟังของสหรัฐฯ เคยดักสัญญาณโทรเลขที่อดีตประธานโฮจิมินห์ของเวียดนามเหนือ ส่งถึงจอมพลโจเซฟ สตาลิน แห่งอดีตสหภาพโซเวียตได้
เอกสารจำนวนหนึ่งยังได้ตอกย้ำการโกหกของอดีตประธานาธิบดีลินดอน บี จอห์นสัน เกี่ยวกับกรณีที่เรียกว่า "เหตุการณ์อ่าวตังเกี๋ย" (Gulf of Tonkin Incident) เมื่อปี 2507 ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้นำสหรัฐฯ กุขึ้นมาเพื่ออ้างเป็นสาเหตุเข้าแทรกแซงในเวียดนาม
เอกสารลับที่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (National Security Agency) ยอมเปิดเผยนี้ เป็นไปตามกฎหมายการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ที่ร้องขอโดยสมาคมนักวิทยาศาสตร์อเมริกัน (Federation of American Scientists) หรือ FAS
เอกสารที่เคยเป็นความลับชุดนี้มีความยาวกว่า 500 หน้ากระดาษ เป็นการดักฟังตั้งแต่ปี 2488 จนกระทั่งถึงวันสุดท้ายที่สหรัฐฯ ต้องถอนหน่วยข่าวนี้ออกจากกรุงไซ่ง่อนในปี 2518 รวมเวลา 30 ปีเต็ม
ในช่วงสงครามนั้นมีบางครั้งที่ฝ่ายเวียดนามเหนือประสบความสำเร็จในการแทรกเข้าไปในระบบสื่อสารของฝ่ายสหรัฐฯ สามารถตรวจจับการส่งสารต่างๆ ของฝ่ายสหรัฐฯ ได้จากภายในโดยตรง
และมีหลายโอกาสฝ่ายคอมมิวนิสต์ "ซึ่งติดต่อโดยใช้เครือข่ายวิทยุสื่อสารของพันธมิตร ได้ร้องขอให้หน่วยปืนใหญ่หรือหน่วยทิ้งระเบิดของสหรัฐฯ ไปถล่มที่ตั้งหน่วยทหารสหรัฐฯ เอง" สมาคมฯ กล่าว
เจ้าหน้าที่ของ FAS คนหนึ่งกล่าวว่า มันเป็นเรื่องราวที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อนเลยในชีวิต
อย่างไรก็ตามเอการลับไม่ได้เปิดเผยในรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์โจมตีครั้งต่างๆ ตลอดจนความเสียหายที่กองทัพสหรัฐฯ ได้รับจากการถล่มกันเอง
เอกสารที่เพิ่งเปิดเผยนี้ได้โยงไปถึงเรื่อง "เหตุการณ์อ่าวตังเกี๋ย" โดยรัฐบาลประธานาธิบดีจอห์นสัน ได้กุเรื่องรายงานต่อรัฐสภาสหรัฐฯ ในครั้งโน้นว่า เรือพิฆาตลำหนึ่งของสหรัฐฯ ถูกฝ่ายเวียดนามเหนือใช้เรือเร็วเข้าโจมตี
รัฐบาลสหรัฐฯ กุเรื่องนี้ขึ้นมา ในขณะที่สหรัฐฯ กำลังเข้าสู่สงครามในเวียดนามแบบถลำลึกลงไปทุกขณะ แต่เอกสารลับนี้ระบุชัดไม่มีการโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นในคืนที่รัฐบาลอ้างถึง
เจ้าหน้าที่ FAS กล่าวว่า เคยมีข่าวระแคะระคายเกี่ยวกับเรื่องนี้มาบ้างแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเอกสารลับยืนยันการโกหกพกลมอย่างเป็นทางการ